เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 751

ตอนที่ 751: ผู้อาวุโสสูงสุดตระกูลซาร์

ในตระกูลซาร์นั้น หัวหน้าเป็นเพียงกระบอกเสียงเท่านั้น แม้ว่าเขาจะมีตำแหน่ง แต่เขาก็ไม่ได้มีอำนาจและไม่สามารถตัดสินใจอะไรที่เด็ดขาดเกี่ยวกับตระกูลซาร์ได้ เมื่อมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นหรือเมื่อพวกเขาจะทำเรื่องใหญ่โต หัวหน้าจำเป็นต้องรายงานบรรดาผู้อาวุโสที่อยู่เหนือขึ้นไปก่อน

ผู้อาวุโสของตระกูลซาร์นั้นแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ผู้อาวุโสภายในของตระกูลซาร์นั้นเป็นสมาชิกอาวุโสของตระกูล เป็นคนที่มีอำนาจในการทำสิ่งต่าง ๆ ถ้าความเห็นของพวกเขาตรงกัน พวกเขาสามารถตัดสินใจเด็ดขาดได้ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับตระกูลซาร์ พร้อมทั้งควบคุมการเคลื่อนไหวของตระกูลอีกด้วย

ในขณะที่ผู้อาวุโสภายนอกนั้น พวกเขาได้รวบรวมจอมยุทธของตระกูลซาร์บางคนและผู้คนที่ถูกเชิญมาจากที่อื่น ๆ ผู้อาวุโสภายนอกนี้มีตำแหน่งที่แน่นอนและถูกปรนนิบัติอย่างดีจากตระกูล แต่พวกเขาไม่ได้มีอำนาจใด ๆ

เจี้ยนเฉินได้รู้เรื่องกลุ่มเหล่านี้มาจากท่านประธานของสมาคมก่อนที่เขาจะมาที่นี่ นี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเข้าใจคร่าว ๆ เกี่ยวกับระบบของตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแห่งเทพเจ้า

เจี้ยนเฉินนั่งลงที่ที่ว่างข้าง ๆ หลังจากนั้น เขาก็พูดคุยกับผู้คนที่นั่งอยู่ที่ห้องโถงเล็กน้อย และหลังจากการพูดคุยและแนะนำตนเอง เจี้ยนเฉินก็ได้รู้ว่า ผู้คนที่นั่งอยู่ที่นี่ทั้งหมดเป็นสมาชิกผู้บริหารระดับสูงของตระกูลซาร์

ในตอนนี้ ท่าทีของหัวหน้าเริ่มจริงจัง เขาจ้องที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่แหลมคมแล้วพูด “อาจารย์หยางยู่เทียน ในตอนนี้ที่พวกเราตระกูลซาร์เชิญท่านมาที่นี่ในฐานะแขกเพราะว่าพวกเรามีเรื่องสำคัญที่ต้องการหารือกับอาจารย์หยางยู่เทียน”

เมื่อได้ยินดังนั้น เจี้ยนเฉินก็ได้เข้าใจว่าพวกเขาต้องการสนทนาถึงประเด็นหลัก ท่าทีของเขาเริ่มเคร่งขรึมและเขาก็ประสานมือของเขา “ข้าสงสัยว่าท่านหัวหน้าตระกูลมีเรื่องใดที่จะหารือกับข้างั้นหรือ?”

หัวหน้าตระกูลยิ้ม “สิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนอย่างอาจารย์หยางยู่เทียนนั้นเป็นที่ชื่นชมของผู้อาวุโสฝ่ายในอย่างมาก เพราะอย่างนี้ ท่านผู้อาวุโสของพวกเราจึงได้หารือกันแล้วได้ข้อสรุปว่า พวกเขาหวังว่าอาจารย์หยางยู่เทียนจะสามารถเข้าร่วมกับผู้อาวุโสฝ่ายในของตระกูลซาร์และรื่นเริงกับอำนาจและสถานะนั้น ข้าสงสัยว่าอาจารย์หยางยู่เทียนคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? ” หลังจากที่เขาพูดเสร็จ หัวหน้าตระกูลก็จ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน สายตาของเขาเต็มไปด้วยการรอคอยอย่างคาดหวัง

“ข้าต้องขอบคุณสำหรับความหวังดีของตระกูลซาร์ด้วย แต่ข้าได้เป็นสมาชิกหลักของสมาคมเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงไปแล้ว และท่านประธานยังได้รับข้าเป็นศิษย์อีกด้วย ถ้าข้าเข้าร่วมกับตระกูลซาร์ในตอนนี้ มันคงจะไม่เหมาะสมเท่าไรนัก” เจี้ยนเฉินพูดอย่างสบาย ๆ เขาไม่สนว่าการตัดสินใจของเขาจะสร้างความขุ่นเคืองให้กับตระกูลซาร์หรือไม่

“อาจารย์หยางยู่เทียน ท่านคงไตร่ตรองถี่ถ้วนแล้ว นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งตระกูลมาที่ตระกูลซาร์ของข้าได้อนุญาตให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลได้เข้ามาเป็นผู้อาวุโสฝ่ายในได้ด้วยคำเชิญ ตระกูลซาร์ของข้าเห็นเจ้ามีความสำคัญ” หัวหน้าตระกูลซาร์อธิบาย

เจี้ยนเฉินพูดขอโทษ “ท่านหัวหน้าตระกูล ข้าต้องขออภัยอย่างยิ่ง เว้นเสียแต่ว่าข้าจะได้รับอนุญาตจากท่านอาจารย์ มันคงจะเป็นการยากยิ่งนักที่จะเข้าไปเป็นผู้อาวุโสฝ่ายในของตระกูลซาร์”

“เฮ้อ ! ” หัวหน้าตระกูลถอนหายใจอย่างนุ่มนวลและไม่ได้กล่าวอะไรต่อ ทันใดนั้น ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปและเผยให้เห็นถึงความเคารพก่อนที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว เขาพูดกับเจี้ยนเฉิน “อาจารย์หยางยู่เทียน ผู้อาวุโสสูงสุดปรารถนาที่จะพบกับท่าน กรุณามากับข้าด้วย”

เมื่อพูดดังนั้น ท่านหัวหน้าก็เดินออกจากห้องโถง สายตาของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความสนใจในขณะที่เขาลังเลเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ตามหลังหัวหน้าตระกูลไปอย่างใกล้ ๆ ในขณะที่องครักษ์ของเขา หยางหลิง คอยอยู่ที่ห้องโถง

เจี้ยนเฉินกำลังตามหัวหน้าตระกูลไปทางสนามรอบบ้านด้านหลังโดยไม่มีอุปสรรคใด ๆ ภายในตระกูล เจี้ยนเฉินไม่เห็นยามรักษาการเลย แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่ง พวกเขาเป็นเซียนปฐพีเป็นอย่างน้อย บางคนเป็นถึงเซียนสวรรค์

เมื่อเจี้ยนเฉินเดินผ่านห้องโถงใหญ่ เขารู้สึกได้ถึงพลังของเซียนผู้คุมกฎ เซียนผู้คุมกฎที่สำเร็จถึงชั้นสวรรค์ที่ 3 แล้ว

เจี้ยนเฉินรู้ดีว่าพลังทั้งหมดที่เขาได้สัมผัสมานั้นเป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งในตระกูลซาร์เท่านั้น ในการที่จะปกครองเมืองแห่งเทพเจ้า อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในแปดตระกูลที่ยิ่งใหญ่ ตระกูลซาร์นั้นต้องมีพลังอำนาจที่มากกว่าพลังอันน้อยนิดนี้เป็นแน่

เจี้ยนเฉินตามหลังท่านหัวหน้าตระกูลเข้าไปที่ด้านหลังของตระกูล ในท้ายที่สุด พวกเขาก็หยุดที่ห้องรับแขกและที่ต้องกึ่งกลางของห้องนั้นมีชายชราผิวแดงนั่งอยู่ถัดจากโต๊ะกำลังจิบชาอยู่ ชายชราอยู่ในชุดขาว ในขณะที่ผมขาวของเขาถูกมัดเป็นมวยอยู่บนหัวของเขา เขาให้ความรู้สึกที่เก่าแก่และดูเหมือนนักปราชญ์

“ขอคารวะท่านผู้อาวุโสสูงสุด ! ” ท่านหัวหน้าโค้งคำนับไปที่ชายชราด้วยความเคารพ

“เจ้าไปได้” ท่านผู้อาวุโสสูงสุดพูดอย่างไร้อารมณ์โดยไม่ได้แม้แต่มองไปที่หัวหน้า

“ขอรับ ! ” ต่อหน้าผู้อาวุโสสูงสุด หัวหน้าดูเหมือนจะแสดงความเคารพอย่างมาก เขาก้มลงต่ำต่อหน้าผู้อาวุโสสูงสุดอีกครั้ง ก่อนที่จะถอยไปอย่างนุ่มนวล

หลังจากที่หัวหน้าตระกูลออกไป ผู้อาวุโสสูงสุดก็เงยหน้าขึ้น สายตาของเขาหยุดไปที่เจี้ยนเฉินและเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าเบื่อ “เจ้าคือหยางยู่เทียนใช่หรือไม่ ? “

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ