ตอนที่ 992: ที่อยู่ของขนสัตว์อสูรทั้งเจ็ด
เจี้ยนเฉินทำความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในการชุบชีวิตพ่อแม่ของเขาได้สำเร็จในที่สุด เขายินดีมากในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
ครึ่งเดือนต่อมา เจี้ยนเฉินพบไปหาไป๋หยุนเทียนและเจียงหยางป้า ทั้งสองคนฟื้นตัวสมบูรณ์แล้ว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่ทำให้พวกเขาหนักใจอยู่
“เซียงเอ๋อ พวกเราอยู่ที่เมืองทหารรับจ้างมาก็นานแล้ว มันถึงเวลาที่พวกเราจะต้องไปแล้วล่ะ พวกเราจะกลับไปที่ตระกูลเจียงหยาง” ไป๋หยุนเทียนพูด
“เฮ้อ เวลาผ่านไปมากเหลือเกินในพริบตา เซียงเอ๋อ พวกเราจากตระกูลเจียงหยางมานานแล้ว พวกเรารู้สถานการณ์ที่ตระกูลเจียงหยางเผชิญอยู่แล้ว แต่พวกเราก็อดไม่ได้ที่จะกลับไป ในเมื่อที่นั่นเป็นบ้านของพวกเรา” เจียงหยางป้าก็พูดออกมาเช่นเดียวกัน ความคิดถึงบ้านอยู่ในจิตใจของทั้งคู่มาตลอดเวลาที่พวกเขาพักฟื้น พวกเขาอ่อนแอเกินไปก่อนหน้านี้ พวกขาก็เลยไม่ได้เอ่ยถึงมัน
เจี้ยนเฉินเห็นด้วยอย่างไม่ลังเลเมื่อได้ยินแบบนี้ เขาพูดออกมา “ท่านพ่อ ท่านแม่ เมื่อท่านต้องการที่จะกลับไปมากขนานี้ พวกเราไปจากเมืองทหารรับจ้างทันทีเลยเถอะ” เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะคิดบางอย่างได้ตอนที่เขาพูดมาถึงจุดนี้ เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยอารมณ์หวั่นไหว “ท่านแม่ ท่านพ่อ ตระกูลได้เปลี่ยนไปอย่างมากในตอนนี้ เพราะว่าข้าต้องการที่จะให้พวกท่านฟักฟื้นอย่างสงบหลังจากที่วิญญาณเพิ่งหลอมรวมกับร่างกายของพวกท่าน ข้าจึงปิดบังบางอย่างเอาไว้”
เจี้ยนเฉินได้อธิบายสถานการณ์ของตระกูลเจียงหยางให้ทั้งคู่ฟังไปคร่าว ๆ แล้วเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา แต่เขาไม่ได้เล่าอย่างละเอียด เขาปิดบังหลายอย่างและไม่ได้พูดถึงเรื่องตระกูลผู้พิทักษ์เลย เขาทำเช่นนั้นเพราะต้องการที่จะให้พ่อแม่ที่เพิ่งฟื้นชีพมาได้พักฟื้นอย่างสงบ เพราะว่ามันอาจจะเป็นการทำให้พวกเขาตกใจเกินไปถ้าเขาบอกความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเจียงหยางของเมืองลอร์และตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง
เจี้ยนเฉินไม่กังวลแล้วในตอนนี้เพราะไป๋หยุนเทียนและเจียงหยางป้าได้ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์แล้ว เขาเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตระกูลเจียงหยางอย่างละเอียด รวมถึงสถานการณ์ของตระกูลผู้พิทักษ์เจียงหยาง และการกลับมาของผู้ก่อตั้งตระกูล เจียงหยาง ซู หยุนคง
เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนกำลังจะกลับไปที่ตระกูล ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงต้องการที่จะให้พวกเขารับรู้สถานการณ์ก่อน นี่จะทำให้พวกเขาได้เตรียมใจ พวกเขาจะได้ไม่ตกตะลึงในตอนที่กลับไป
เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนเหวอไปอีกครั้งหลังจากที่ได้ยินเรื่องเหล่านี้ จิตใจของพวกเขาปั่นป่วนและพวกเขายากที่จะสงบลงได้แม้ผ่านไปนาน
ทั้งสองไม่เคยคิดเลยว่าตระกูลจะมีประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งขนาดนี้ และยังไม่คิดเลยว่าผู้ก่อตั้งจะเป็นคนของสิบตระกูลผู้พิทักษ์ของทวีป
เจี้ยนเฉินออกไปจากห้องและให้พ่อแม่ของเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สงบเพื่อที่จะให้พวกเขารับได้กับทุกอย่าง เจี้ยนเฉินแค่พูดเรื่องที่เขาผ่านมาในตลอดสิบปีด้วยประโยคไม่กี่ประโยคและไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด เขาได้พบกับสถานการณ์ที่เฉียดตายมาหลายครั้ง เขาไม่คิดที่จะบอกพ่อแม่เขาในเรื่องนี้ เพราะมันจะทำให้พวกเขาเป็นกังวล
ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้บอกเรื่องความขัดแย้งของเขากับตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบด้วย นี่ไม่ใช่อะไรที่ทั้งคู่จะมายุ่งเกี่ยวได้เลย ดังนั้นถ้าเขาบอกออกไป มันคงทำให้พวกเขาเป็นภาระไปเท่านั้น
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็พบกับหมิงตงและเถี่ยต้า เขารู้มาจากเทียนเจี้ยนว่าหมิงตงได้อยู่ในขั้นสูงสุดของเซียนสวรรค์มานานแล้ว และเขายังติดอุปสรรค์ในการที่จะเป็นเซียนผู้คุมกฎอยู่และไม่สามารถพัฒนาการได้
เจียนเอาขนสัตว์อสูรสีขาว 3 ชิ้นและคัมภีร์ออกมาจากแหวนมิติของเขา จากนั้น เขาจึงส่งสิ่งเหล่านี้ให้กับหมิงตง เขาพูด “หมิงตง ของเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าเข้าใจความลึกลับของธรรมชาติและจะช่วยในการตัดผ่านของเจ้า ข้าพึ่งของพวกนี้ในการเป็นเซียนผู้คุมกฎมาก่อน เจ้าควรจะอยู่ที่เมืองทหารรับจ้างและฝึกให้หนักในวันต่อไปเพื่อที่จะจะได้เป็นเซียนผู้คุมกฎให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
หมิงตงไม่ได้ปฏิเสธสิ่งของเหล่านี้เนื่องจากความเกรงใจ เขาก็รับเอาขนสัตว์กับคำภีร์จากเจี้ยนเฉินมา เขาพยักหน้าอย่างแน่วแน่และพูด “อย่ากังวลไปเจี้ยนเฉิน ครั้งหน้าที่พวกเราพบกัน ข้าจะกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...
เลิกอัพแล้วหรา...
good novel...