หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 2741

คนนอกไม่รู้เรื่องราวภายใน แต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกันออกไปผ่านข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น

บางคนคาดเดาว่าหลินมั่วลงมือไปแล้ว เพราะยังไงความสัมพันธ์ที่ไม่ดีของเขากับติงลี่ก็ปรากฏชัดต่อทุกคน หลังจากที่ติงลี่เดินเข้ามาหาหลินมั่วขาของเขาก็หักก่อนจะถูกโยนออกมา

บางคนสงสัยว่าตระกูลติงอาจจงใจปกปิดความลับที่น่าตกตะลึง หักแขนตัวเองเพื่อปิดหูปิดตาผู้คน

บางคนคาดเดาว่าตระกูลข่งอาจแอบสมรู้ร่วมคิดกับคนกลุ่มย่อยของตระกูลติง ทำให้คนที่อยู่ในสายหลักของตระกูลฆ่ากันอย่างดุเดือด

แต่ก็มีบางคนเชื่อว่ามีกองกำลังลึกลับจากภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งนำไปสู่การสังหารหมู่ครั้งนี้

เนื่องจากไม่มีหลักฐานและไม่มีข้อมูลภายในที่ชัดเจน หลายคนเริ่มกังวลว่าต้าฉวีซึ่งเงียบสงบอาจจะตกอยู่ในความวุ่นวาย

“พี่ใหญ่ ไม่ต้องอธิบายให้พวกเขาฟังหรอก พวกเราฆ่าคน พวกมันจะกล้าทำอะไรพวกเราได้”

หลังจากที่ไท่จื่อเก็บรวบรวมข้อมูลจากทุกทิศทุกทาง เขาก็อดไม่ได้ที่จะบ่น

หลินมั่วกำลังเล่นกับลู่อิ่ง จึงตอบไปแบบผ่านๆ

“ถ้าฉันไม่ทำอะไรเรื่องนี้ก็จะเงียบลงในไม่ช้า

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว สิ่งต่างๆ ที่ถูกปิดกั้นจะทำให้ผู้คนตื่นตระหนกมากขึ้น

“มันจะมีประโยชน์อะไรกับเราบ้าง”

หลินมั่วเงยหน้าขึ้นแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง

“บางคนต้องการสร้างความวุ่นวายให้กับต้าฉวี แต่ก็บังเอิญที่ฉันมีความคิดแบบเดียวกัน ฉันก็เลยทำตามกระแสไป

ยิ่งต้าฉวีวุ่นวายมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งดำเนินการได้ง่ายขึ้นเท่านั้น”

ทันใดนั้นไท่จื่อก็นึกบางสิ่งขึ้นได้ ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันที

พี่วางแผนที่จะจัดการกับตระกูลข่งเหรอ”

หลินมั่วยิ้มอย่างมีเลศนัย “ตระกูลข่งคิดว่าตัวเองเป็นใคร ในเมื่อจะวางหมาก แน่นอนว่าเราต้องคิดที่จะกินมังกร"

ติงลี่พกความสงสัยขึ้นไปที่ชั้นสูงสุดของคฤหาสน์ตระกูลติง เหล่าผู้อาวุโสเป็นโครงสร้างการตัดสินใจสูงสุดและมีอำนาจล้นหลามในตระกูลสายหลัก โดยทั่วไปแล้วแม้แต่พ่อของเขาก็ไม่มีสิทธิ์เข้าออกตามใจชอบ นับประสาอะไรกับผู้อ่อนอาวุโสอย่างพวกเขา

แต่แล้วเขาก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาน่าจะได้รับผลงานที่ยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่เปิดโปงแผนการร้ายของกลุ่มย่อยในตระกูลเท่านั้น แต่เขายังจับเป็นติงเกินจีอีกด้วย เหล่าผู้อาวุโสต้องการอยากจะชื่นชมเขาถึงแม้ว่าจะพึ่งพากำลังภายนอกก็ตาม

ติงลี่พกความตื่นเต้นเดินเข้าไปในห้องของเหล่าผู้อาวุโสที่มีขนาดใหญ่และกว้างขวาง ทันทีที่เขาเข้าก้าวผ่านประตู เขาก็เห็นชายชราสองคนจ้องมองกระดานหมากรุกที่ตรงหน้าพวกเขาอย่างตั้งใจ แม้ว่าพวกเขาจะมีผมสีขาว แต่ก็ไม่มีริ้วรอยบนใบหน้ามากนัก จิตวิญญาณที่มีชีวิตชีวาของพวกเขา ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงพลังอำนาจโดยที่พวกเขาไม่ต้องแสดงการข่มขู่ใดๆ ออกมา

ติงลี่ไม่กล้ารบกวน จึงยืนรอด้วยความเคารพ แม้ว่าจะไม่มีคำพูดใดๆ เลย และผู้อาวุโสทั้งสองก็ไม่แม้แต่จะมองเขาเลย แต่ติงลี่ก็รู้สึกอึดอัดและแน่นหน้าอกแปลกๆ

หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ผู้เฒ่าทั้งสองก็หยุดสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ หนึ่งในนั้นหันมาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

"มาแล้ว"

เมื่อติงลี่ได้ยินเสียงของผู้เฒ่าร่างกายของเขาก็สั่นโดยที่ไม่เต็มใจ หลังจากควบคุมอารมณ์ได้แล้ว เขาก็กล้าก้าวไปข้างหน้าและพูดต่อบทสนทนา

“ติงลี่ ขอถามไทยสารทุกข์สุกดิบของผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้า”