หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1046

ในที่สุดเมื่อฝุ่นสงบลง หนิงจื้อก็เย้ยหยันเฉินผิงที่ตอนนี้ดูไร้สิ้นหนทางขึ้นว่า “ตอนนี้ฉันจะเอาทุกอย่างที่เป็นของแกมาเป็นของฉัน”

จากนั้น หนิงจื้อก็เดินตรงเข้ามาหาเฉินผิงช้าๆ โดยมีกู่ไค่หยวนตามหลังมาไม่ห่าง

ทั้งสองเชื่อว่าเฉินผิงถูกโจมตีจนน่วมและไม่มีพิษมีภัยอีกต่อไป จึงไม่ได้ระแวดระวังอะไรมากและยังเย้ยหยันเฉินผิงอีกด้วย

เฉินผิงขมวดคิ้วและพยายามอย่างหนักที่จะรวบรวมพลังชี่ของเขา แต่ทว่าเขาก็อ่อนล้าจนแม้แต่ยืนยังแทบไม่ไหว

“ฉันว่าฉันมีพลังมังกรอยู่นี่นา” ยิ่งหนิงจื้อและกู่ไค่หยวนเข้ามาใกล้มากเท่าไร เฉินผิงก็กังวลมากขึ้นเท่านั้น

ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เฉินผิงไม่อาจรู้สึกได้ถึงพลังที่เขาเคยมี การผนึกกำลังกันระหว่างแก่นมังกรทั้งสองนั้นดูเหมือนจะไม่เหลืออะไรทิ้งไว้ในร่างกายเขาอีกแล้ว

“เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?” ไม่ว่าเฉินผิงจะพยายามมากแค่ไหน ก็ดูเหมือนว่าเขาจะรวบรวมสรรพกำลังไม่ได้เลย ราวกับว่าพลังทั้งหมดนั้นได้หายไปจากร่างกายของเขาสิ้นแล้ว

เมื่อหนิงจื้อและกู่ไค่หยวนเข้ามาถึงตัวเฉินผิง พวกเขาก็ดูถูกชายคนนั้นด้วยสีหน้าที่เหลือเพียงความรู้สึกเดียวนั่นคือความยินดี

จากนั้นกู่ไค่หยวนก็ก้าวเข้ามาเหยียบหน้าอกเฉินผิงเอาไว้ ก่อนจะยิ้มอย่างชั่วร้าย “แกทำลายของวิเศษของฉัน ดังนั้นแกจะต้องชดใช้ และกระบี่ของแกนี่มันก็เพียงพอแล้ว”

สิ้นคำ กู่ไค่หยวนก็ก้มลงมาหมายจะหยิบกระบี่พิฆาตมังกรของเฉินผิง

เจ้าสัตว์เดรัจฉานตัวนี้ต้องการยึดอาวุธของเฉินผิงเป็นอันดับแรก เพราะเขากังวลว่าหนิงจื้อจะเอาทุกอย่างไปจนหมดเมื่อพวกเขาสังหารเฉินผิงสำเร็จ

อย่างไรเสีย กระบี่พิฆาตมังกรนั้นเป็นของหายากและเป็นที่ต้องการอย่างมากไม่ต่างอะไรกับแก่นมังกรที่อยู่ในร่างของเฉินผิง

แต่ทว่าเมื่อกู่ไค่หยวนกำลังจะวางมือลงบนกระบี่พิฆาตมังกร อาวุธนั้นก็สั่นขึ้นมาทันทีก่อนจะปล่อยพลังกระบี่อันคมกริบออกมาบาดฝ่ามือของเขา

โชคดีที่กู่ไค่หยวนว่องไวพอจะหลบการโจมตีนั้นได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นคอเขาก็อาจโดนปาดด้วยเช่นเดียวกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร