“ยังอยากสู้กันอยู่ไหม?” เฉินผิงหันมาหาหนิงจื้อด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
แต่หนิงจื้อกลับไม่ตอบอะไรสักคำ เขาเบิกตากว้างในชั่วระยะเวลาไม่กี่วินาที และหลังจากคำรามออกมาอย่างพร้อมรบ หมัดของเขาก็พุ่งเข้าไปอยู่ห่างจากหน้าเฉินผิงเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
“หมัดเซิ่งกวง!” เฉินผิงยกมือขึ้นและโยนหมัดไปข้างหน้าสองสามครั้ง
ขณะที่กำปั้นทั้งสองฝ่ายปะทะกัน คลื่นกระแทกที่แสนน่ากลัวก็ก่อตัวขึ้น โดยทั้งสองคนอยู่ในจุดศูนย์กลางของคลื่นนั้นก่อนที่มันจะแผ่กระจายไปยังบริเวณโดยรอบ
ส่วนอาคารที่ก่อสร้างเสร็จหมาดๆ นั้นต่างก็พังครืนลงมาเพราะแรงกระแทกอย่างรุนแรง ทำให้คนที่อยู่รอบๆ อาคารรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
หนิงจื้อชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะทรงตัวได้ ขณะที่เฉินผิงกระทืบเท้าขวาลงพื้นเพื่อลบล้างแรงกระแทกกลับไป ทำให้พื้นดินแตกเป็นเสี่ยงๆ
อย่าได้คิดจะออมมืออีกเลย ถ้าคุณไม่มาสู้กับผมด้วยพลังทั้งหมดที่มีแล้วล่ะก็ คุณคงไม่เหมาะจะสู้กับผมอีกแล้วล่ะ” เฉินผิงกล่าวอย่างเย็นชาขณะที่จ้องตาหนิงจื้อด้วยความอำมหิต
หนิงจื้อเองก็จ้องตาเฉินผิงเช่นกัน สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขณะที่เขาไม่เข้าใจเลยว่าหมัดเซิ่งกวงที่เฉินผิงปล่อยออกมาเมื่อครู่นี้หมายถึงอะไร
เขารู้สึกว่าออร่าของเขาถูกสกัดกั้นไว้อย่างสิ้นเชิงเมื่อปล่อยหมัดออกไปตรงๆ และด้วยการต่อสู้ที่เรียบง่ายเช่นนั้น หนิงจื้อก็รู้สึกถึงแรงกดทับที่ไหล่เขาในทันที
ทันใดนั้น หนิงจื้อก็พยายามอย่างหนักที่หยัดยืนทรงตัวให้ได้
ไม่นานนักออร่าของหนิงจื้อก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่ได้ออกหมัด และออร่าในความเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นสูงสุดก็พลุ่งพล่านออกมา
ออร่านี้เข็มข้นกว่าครั้งที่แล้วเป็นอย่างมาก เพราะคนยืนดูเหตุการณ์ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจากออร่าที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ บางคนอาเจียนออกมาเป็นเลือดและบางคนก็ถึงกับเสียชีวิต
เฉินผิงขมวดคิ้วและรีบใช้มือทำท่าผนึกขึ้นสองสามครั้งก่อนจะสร้างเกราะขึ้นมาป้องกันออร่าอันน่าสะพรึงนั้นได้ในทันที
เฉินผิงไม่คิดว่า ในฐานะลูกหลานของตระกูลอันทรงเกียรติ หนิงจื้อจะกล้าใช้ชีวิตอย่างเลินเล่อได้ถึงขั้นนี้จริงๆ
ย้อนกลับไปที่จิงตู มันมีกฏที่แสนจะเข้มงวดอยู่ข้อหนึ่งที่ว่า ห้ามนักสู้คนใดลงมือสังหารพลเรือน และทุกคนก็ปฏิบัติตามกฏที่ว่าอย่างว่าง่ายและจริงจัง
แม้จะมีกฏที่คล้ายกันในซีฉวนซื่ออันยากจนและธุรกันดารก็ตาม แต่หนิงจื้อก็ยังคงคุมตัวเองไม่ได้ เพราะที่แห่งนี้ก็กว้างใหญ่เกินกว่าจะมีการดูแลอย่างเข้มงวดให้ปฏิบัติตามกฏที่วางไว้
“กล้าดียังไง! คุณเป็นถึงลูกหลานตระกูลอันทรงเกียรติ แต่คุณกลับมองชีวิตคนอื่นเป็นผักปลา! คุณนี่สมควรถูกกำจัดไปเสียให้สิ้นซาก!” เฉินผิงมองหน้าหนิงจื้อราวกับว่าหนิงจื้อนั้นเป็นคนที่ตายไปแล้ว ขณะที่เจตจำนงสังหารของเขาพุ่งขึ้นไปถึงจุดสูงสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...