“นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากจะรู้ คุณไม่รู้สึกรึไงว่าต่อให้คุณบรรลุถึงระดับเจ้ายุทธ์และเข้าไปในสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้แล้ว ทั้งๆ ที่คุณมีพลังถึงขนาดนั้น แต่คุณก็ยังทำอะไรไม่ได้อยู่ดี?” คุณชี่อธิบายเพิ่มเติม
เฉินผิงตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็ขมวดคิ้ว
ฉันรู้สึกว่าทั้งๆ ที่มีพลังถึงขนาดนั้น แต่พออยู่ภายในสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้กลับทำอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าฉันจะพยายามสักแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำลายห้องโถงได้ อันที่จริงแล้ว ฉันไม่สามารถเปิดประตูหลักของคุกใต้ดินในสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้เสียด้วยซ้ำไป! แต่ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่าฉันจะไม่ได้ทำอะไรข้างในเลย อย่างไรเสีย ฉันก็สังหารคนภายในสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ไปหลายคน อีกทั้งขณะที่ฉันบุกเข้าไป ก็ไม่มีใครสามารถหยุดฉันได้
เมื่อเขาเห็นสีหน้าของเฉินผิง คุณชี่ก็ยิ้มราวกับว่าเขาอ่านใจของฝ่ายหลังออก “คุณเองไม่รู้สึกรึไงว่าตัวเองสามารถเข้าออกสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้โดยไม่มีใครขวางคุณเอาไว้ มิหนำซ้ำพวกเขายังทำเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอีกต่างหาก?”
ถึงแม้ว่าเฉินผิงจะมองคุณชี่อยู่เงียบๆ ทว่านั่นก็เป็นความคิดที่แวบเข้ามาในหัวของเขาจริงๆ
ตอนนี้เฉินผิงกล้าพอที่จะต่อสู้กับจู้จื่อซานประธานสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ แท้จริงแล้ว เขาไม่เห็นผู้อาวุโสเป็นภัยคุกคามอีกต่อไปแล้ว
จากนั้นคุณชี่ก็จิบกาแฟ ก่อนจะพูดต่อไปว่า “ผมเตือนคุณหลายครั้งแล้วว่าสิ่งที่คุณมองเห็นเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวเล็กๆ เท่านั้น ถ้าหากสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้หรือตระกูลศิลปะการต่อสู้เรียบง่ายอย่างที่คุณเห็น ยุทธภพแห่งต้าซย่าก็ย่อมเป็นที่ขบขันของทั้งโลกแล้วล่ะ ผมบอกคุณได้เลยว่าถึงจู้จื่อซานจะเป็นประธานสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ เขาก็ไม่นับเป็นตัวอะไรได้นอกเสียจากหุ่นเชิดที่ถูกเลือกขึ้นมาบังหน้า ขุมกำลังที่อยู่เบื้องหลังตัวเขาต่างหากที่น่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะฉะนั้นคุณคิดว่าตัวเองพลังของตัวเองในยามนี้เพียงพอที่จะต่อสู้กับสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้แล้วงั้นเหรอ?”
สิ่งที่ได้ยินสร้างความตื่นตะลึงให้แก่เฉินผิงจนหน้าถอดสี ถ้าหากจู้จื่อซานไม่นับเป็นตัวอะไรนอกเสียจากหุ่นเชิด เจ้าพวกที่ควบคุมเขาไว้จะต้องแข็งแกร่งยิ่งนัก!
“ผมไม่สนใจหรอกว่าสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้จะแข็งแกร่งสักแค่ไหน สิ่งที่ผมรู้คือผมต้องฆ่าพวกมันเพื่อช่วยอวี่ฉีออกมาให้ได้”
แววตาของเฉินผิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความแน่วแน่ ไม่ว่าจะยากเย็นสักแค่ไหน เขาก็จะต้องช่วยเธอให้ได้
“คุณจะไปต่อสู้กับสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้คนเดียวงั้นรึ? ไม่ใช่ว่าคุณเองก็มีตระกูลหลงที่ต้องจัดการอยู่รึไง?” คุณชี่เอ่ยเตือนเฉินผิงพลางยิ้มกริ่มขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นคุณชี่มีสายตาที่ทั้งอยากรู้และสับสน เฉินผิงก็รู้สึกใจเต้นไม่เป็นส่ำขึ้นมา
ราวกับว่าฝ่ายหลังล่วงรู้ตัวตนของเขา รวมทั้งความแค้นที่เขามีกับตระกูลหลง
ในตอนนั้นเอง เฉินผิงก็รู้สึกไม่เข้าใจคุณชี่มากขึ้นเรื่อยๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...