หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1342

ในตอนแรกเรื่องที่ว่ากายเนื้อจะอยู่ยงคงกระพันตราบใดที่วิญญาณใหม่ยังไม่บุบสลายนั้นเป็นแค่เพียงเรื่องเล่า ก่อนการต่อสู้กับจู้จื่อซาน เฉินผิงไม่เคยค้นพบว่าตำนานนั้นจริงหรือไม่จริง

อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์นั้นในที่สุดเฉินผิงก็รู้ว่าตำนานเป็นเรื่องจริง

หลังจากมองดูรอบๆ ตัว เฉินผิงก็เห็นว่ามีศพอยู่สามร่าง เป็นศพของสมาชิกสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ แต่ไม่มีวี่แววของจู้จื่อซาน ซึ่งหมายความว่าเขายังไม่ตาย

“ตาแก่นั่นแข็งแกร่งเป็นบ้า” เฉินผิงอุทานก่อนจะรีบไปที่ตำหนักบงกชชาด

ณ ทุ่งหว่านเฉิง ใกล้กับชายแดนเขตตะวันตกเฉียงใต้

แม้ว่าเมืองนี้จะไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็เป็นเมืองสำคัญที่อยู่ติดชายแดน อีกทั้งมีภูเขาและป่าไม้มากมายรายล้อม จึงมีสำนักและตระกูลระดับสูงหลายแห่งตั้งอยู่ที่นั่น

นับตั้งแต่ที่เฉินผิงฆ่าเฟ่ยชิงผิงแห่งสำนักอสูรศักดิ์สิทธิ์ สำนักนั้นก็ตกต่ำลงและสูญเสียสถานะสำนักระดับต้นๆ ในแดนใต้

สำนักอสูรศักดิ์สิทธิ์ตกเป็นของเซียวต๋า แต่คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าเขาจะสามารถนำสำนักกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองได้เหมือนเดิม

ในวันหนึ่ง ขณะที่เซียวต๋ากำลังจัดการกับธุระปะปังของสำนักอสูรศักดิ์สิทธิ์ สมาชิกคนหนึ่งก็รีบเข้ามารายงานให้เขาทราบ

“คุณเซียว โจวเทียนเฉิงจากตระกูลโจวแห่งทุ่งหว่านเฉิงขอเข้าพบคุณครับ” ชายคนนั้นกล่าว

“โจวเทียนเฉิง? เขามาที่สำนักของเราทำไม?”

เซียวต๋ามึนงง สำนักอสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่มีความสัมพันธ์อันใดเลยกับตระกูลโจว ยิ่งกว่านั้นตระกูลโจวมักจะอ้างว่าพวกตัวเองเป็นตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ ของแดนใต้ จึงเป็นศัตรูกับสำนักอสูรศักดิ์สิทธิ์ไปโดยปริยาย

ด้วยเหตุนี้ เซียวต๋าจึงรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่างเมื่อพวกตระกูลโจวมาเยือนกะทันหัน

“คุณเซียว เราจะทำยังไงดีครับ?” ชายคนนั้นถามเมื่อเห็นเซียวต๋าขมวดคิ้วไม่พูดจา

“ให้เข้ามาได้” เซียวต๋าตอบในที่สุด

เซียวต๋าเพิ่งได้ครอบครองสำนักอสูรศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกเก่าหลายคนก็ออกไปแล้ว สถานะของสำนักอสูรศักดิ์สิทธิ์จึงตกต่ำกว่าที่เคยเป็นมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร