ร่างของเฉินผิงเปล่งแสงสีทองสลัวเพื่อต้านทานพลังกดดันจากรัศมีของเนี่ยเฉิง
รัศมีของเนี่ยเฉิงพลันพลุ่งพล่านมากขึ้นในชั่วไม่กี่นาที ขณะที่แสงสีทองจากร่างของเฉินผิงกำลังเปล่งแสงเจิดจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ
ระหว่างที่ต่อสู้กันทั้งสองคนก็อยู่นิ่งกับที่ ไม่มีใครขยับเขยื้อนหรือล่าถอยแต่อย่างใด
รัศมีทั้งสองปะทะกันไม่หยุดหย่อน
เนี่ยเฉิงขมวดคิ้วนิ่วหน้าด้วยความจนตรอก เขานึกว่าพลังความสามารถของเฉินผิงจะอ่อนด้อยกว่าเขาเสียอีก ทว่ากลับต้องตื่นตะลึงเมื่อพบว่านอกจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเฉินผิงยังไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาเลยอีกต่างหาก
เนี่ยเฉิงแผ่รัศมีของตนเองจนถึงขีดสูงสุด แต่เฉินผิงก็ยังไม่ขยับเขยื้อนราวกับรูปปั้น
เหล่านักรบระดับเสื้อคลุมดำที่กำลังโอบล้อมต่างหลบไปข้างหลัง พวกเขาไม่อยากเสียพลังของตนเองไปกับการต้านทานพลังกดดันที่เกิดจากการต่อสู้
ในยามนั้นไม่มีใครทันสังเกตว่ารัศมีในห้องโถงกำลังพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง การปะทะกันระหว่างรัศมีทั้งสองก่อให้เกิดพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่บดขยี้เครื่องเรือนให้เป็นผุยผง
แต่มารโลหิตที่กำลังยืนอยู่ข้างหลังเฉินผิงกลับไม่เป็นอะไรเลย มันไม่ขยับเขยื้อนตัวและหน้าไม่เปลี่ยนสีแต่อย่างใด
ตู้ม!
ในที่สุด เนี่ยเฉิงกับเฉินผิงก็ถอยหลังไปพร้อมกัน รัศมีที่แผ่ออกมาจากร่างของพวกเขาเองก็แพร่กระจายออกไปทันที
การต่อสู้ติดพันทำให้ไม่มีใครเป็นฝ่ายได้เปรียบเลย
“เฉินผิง แกกล้าดียังไงถึงได้บุกเข้ามาในเขตแดนของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ด้วยพลังความสามารถขี้ปะติ๋วพรรค์นั้น! แกมันโอหังจริงๆ เลย ฉันเดาว่าความไม่รู้ก็นับเป็นความสุขอย่างหนึ่ง ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร ลำพังแค่ใช้คฑาวัชระด้ามนี้ของฉัน การเอาชีวิตของแกก็เป็นเรื่องกล้วยๆ แล้ว!” เนี่ยเฉิงกล่าวพลางจ้องมองเฉินผิงด้วยสายตาดูถูกดูแคลน
“งั้นเหรอ? ฉันอยู่ตรงนี้แล้วไง อยากจะเข้ามาฆ่าแกงเมื่อไหร่ก็เชิญตามสบาย”
เฉินผิงยักไหล่พร้อมกางแขนออกด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ
เมื่อเนี่ยเฉิงเห็นท่าทีไม่แยแสของเฉินผิงก็ลังเลที่จะพุ่งเข้าใส่ เขาไม่แน่ใจว่าเฉินผิงจะมีไพ่ตายซ่อนอยู่ในแขนเสื้อหรือไม่
“เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ? ไม่กล้าลงมืองั้นเหรอ? ถ้าแกกลัวก็จงปล่อยตัวแฟนของฉันมาซะ ขืนแกยังฝืนสู้กับฉันอีก สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ก็จะสาบสูญตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป” เฉินผิงเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“หึ! ฉันไม่จำเป็นต้องฆ่าแกให้มือเปื้อนหรอก” เนี่ยเฉิงแค่นเสียงเย็นชาพลางก้าวถอยหลัง “ฆ่ามันซะ!”
เนี่ยเฉิงไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง แต่เขาสั่งการให้นักรบระดับเสื้อคลุมเงินรมดำเป็นฝ่ายลงมือ
เนี่ยเฉิงเต็มไปด้วยความตกตะลึงพลางรีบชะเง้อคอเพื่อมองออกไปข้างนอก ทว่ากลับไม่เห็นมีใครสักคน งั้นฉินผิงกำลังออกคำสั่งกับใครกันล่ะ? หรือว่าจะเป็นเจ้าคนที่มีสายตาว่างเปล่าที่อยู่ข้างหลังมันเล่า?
คนเช่นนั้นคงไม่แข็งแกร่งขนาดนั้นหรอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...