หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1772

สรุปบท ตอนที่ 1772 การตรวจสอบ: หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอน ตอนที่ 1772 การตรวจสอบ จาก หัตถ์เทวะราชันมังกร – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1772 การตรวจสอบ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ หัตถ์เทวะราชันมังกร ที่เขียนโดย อาร์ม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หูหม่าซือกับฟ่านเจียงรออยู่ข้างนอกนานแล้ว แต่เฉินผิงก็ยังไม่กลับมาสักที

“หูหม่าซือ คุณคิดว่าคุณเฉินจะเป็นอะไรไหมครับเนี่ย? ทำไมเขายังไม่ออกมาเลยล่ะ? นี่ก็ผ่านมานานแล้วนะ!” ฟ่านเจียงถาม

“ผมคิดว่าเขาคงไม่เป็นไรหรอก รอต่อไปอีกสักหน่อยเถอะ” หูหม่าซือตอบ

ทั้งสองคนยังคงรอคอยต่อไป กระทั่งร่างของมารโลหิตล้มลงกับพื้นเสียงดังตุ้บจึงทำให้พวกเขารู้ตัวว่ารอคอยมาสองสามวันแล้ว

ในที่สุดหูหม่าซือก็เริ่มตื่นตระหนก

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ? เวลาที่ใช้ในการควบคุมมารโลหิตหมดลงแล้วก็ยังไม่มีวี่แววของเขาเลย ทั้งๆ ที่เปลืองพลังของมารโลหิตไปขนาดนั้นแล้วแท้ๆ...” เมื่อหูหม่าซือเห็นมารโลหิตกำลังนอนอยู่กับพื้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญ

“พวกเราควรจะเข้าไปตามหาเขาดีหรือเปล่า?” ฟ่านเจียงเอ่ยเสนอแนะ

“ใครจะรู้ว่าข้างในมีทุ่นระเบิดอะไรอยู่เล่า ลำพังด้วยพลังความสามารถของพวกเรา ขืนพวกเราเข้าไปก็มีแต่ตายเท่านั้นแหละ”

หูหม่าซือตระหนักดีว่าทุ่นระเบิดภายในสำนักผนึกสวรรค์คงจะน่าประทับใจยิ่งกว่าที่เคยเห็นมาเป็นแน่ พวกเขาสองคนคงจะไม่สามารถต้านทานกับดักได้

พวกเขาทั้งสองคนรอคอยอีกวันหนึ่งทั้งแบบนั้น ทันใดนั้นก็มีแสงสีทองก็ระเบิดในความมืดอยู่ภายใต้ประตูแล้วส่องสว่างไปทั่วทั้งสถานที่

จากนั้นพวกเขาก็เห็นเฉินผิงกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ฟุตเท่านั้น

แสงสีทองกำลังแผ่ออกมาจากร่างที่กระพริบวูบวาบไม่หยุดหย่อนของเฉินผิง เขาดูราวกับดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องสว่างให้กับซากปรักหักพังโบราณทั้งหมด

ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นแล้วลำแสงสีทองสายหนึ่งก็พุ่งออกมา

พลังของเขาเองก็ระเบิดออกในปริมาณมหาศาลเช่นกัน

เขากำหมัดพลางรู้สึกผ่อนคลายสบายใจอย่างน่าเหลือเชื่อ

“ฉันเลื่อนขึ้นสู่ระดับขุนพลยุทธ์ขั้นที่ห้าแล้วงั้นเหรอ?”

ดวงตาของเฉินผิงเต็มเปี่ยมไปด้วยแววประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดเลยว่าหลังจากซึมซับคาถาเวทย์ เขาจะก้าวกระโดดจากระดับขุนพลยุทธ์ขั้นที่สามไปสู่ระดับขุนพลยุทธ์ขั้นที่ห้า

อย่างไรเสีย ก็ต้องใช้ทรัพยากรและพลังเป็นจำนวนมากในการฝ่าทะลวงช่องว่างเกี่ยวกับระดับการฝึกบำเพ็ญฌานขนานใหญ่

แสงสีทองบนร่างของเฉินผิงค่อยๆ หายไป จากนั้นความมืดก็ปกคลุมลงมาบนซากปรักหักพังโบราณของสำนักผนึกสวรรค์

หลังจากนั้นเฉินผิงก็ท่องคาถาแล้ววาดบางอย่างกลางอากาศ

กระดูกเหล่านี้คงจะเป็นของศิษย์สำนักผนึกสวรรค์เป็นแน่!

เมื่อเห็นภาพอันน่าสยดสยองตรงหน้า เขานึกถึงทิวทัศน์อันเงียบสงบที่เคยเห็นเมื่อก่อนหน้านี้ แต่สถานการณ์กลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง! ดูเหมือนศึกแห่งทวยเทพตั้งแต่เมื่อหลายพันปีก่อนจะสิ้นสุดลงอย่างน่าอนาถ...

เฉินผิงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อได้เห็นร่างของมารโลหิต เขาไม่คาดคิดเลยว่าตนจะไปเสียเวลาหลายวัน

ถึงแม้ว่าพลังของเขาจะเพิ่มมากขึ้น แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมมารโลหิตได้อีกต่อไป

เขาถอนหายใจด้วยความจำยอมพลางเก็บร่างของมารโลหิตเอาไว้ในแหวนเก็บของก่อนที่จะเหลือบมองซากปรักหักพังของสำนักผนึกสวรรค์ ต่อมาเปลวเพลิงสีน้ำเงินอ่อนก็ปรากฎอยู่ในมือของเขา

เมื่อโบกมือ เปลวเพลิงก็ลุกท่วมอาณาบริเวณและแผดเผากระดูกที่แตกกระจาย

หลังจากเห็นซากปรักหักพังโบราณของสำนักผนึกสวรรค์กลายเป็นเถ้าธุลีไปแล้ว เฉินผิงกับพรรคพวกก็ออกจากสถานที่แห่งนั้นในที่สุด

เฉินผิงที่เพิ่งจะได้รับการถ่ายทอดคาถาเวทย์ของสำนักผนึกสวรรค์ พลันคิดจะมุ่งหน้าไปที่คุกใต้ดินและคิดหาทางช่วยซูอวี่ฉีออกมา

เขาอยากจะตรวจสอบดูว่าโจวเจี๋ยพูดความจริงหรือไม่

คราวนี้หูซือหม่าเลือกที่จะไม่พักอยู่ที่เมืองไป๋ไห่ อย่างไรเสียซากปรักหักพังโบราณของสำนักผนึกสวรรค์ก็ไม่มีแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีเหตุผลให้อยู่ต่ออีก

อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเขาอยากจะติดตามเฉินผิงแล้วให้ฝ่ายหลังสอยคาถาเวทย์ให้แก่เขา

ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาทั้งสามคนจึงเริ่มเดินทางกลับไปที่จิงตู

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร