หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1774

สรุปบท ตอนที่ 1774 โล่กำบัง: หัตถ์เทวะราชันมังกร

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1774 โล่กำบัง – หัตถ์เทวะราชันมังกร โดย อาร์ม

บท ตอนที่ 1774 โล่กำบัง ของ หัตถ์เทวะราชันมังกร ในหมวดนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาร์ม อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“ทะ ท่านทูตมาร?”

ตอนนี้หนิงจื้อเป็นเพียงแค่สมาชิกระดับเสื้อคลุมทองแดงรมดำเท่านั้น เขาไม่คู่ควรที่จะได้พบคนใหญ่คนโตอย่างท่านทูตมารหรอก

ทว่ายามนี้ท่านทูตมารอยู่ในร่างของเขาแล้วซึ่งหมายความว่าสมาชิกระดับเสื้อคลุมรมดำทุกคนจะต้องฟังคำพูดของเขา

“ไอ้หนู จงเชื่อฟังฉันเสียแต่โดยดีแล้วฉันจะทำให้พลังของแกแข็งแกร่งขึ้น” ท่านทูตมารเอ่ยขึ้นอย่างไม่แยแส

“ครับ!”

หนิงจื้อดวงตาเป็นประกายพลางผุดรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้า “เฉินผิง แกรอฉันก่อนเถอะ”

ในทางกลับกัน ณ สำนักมังกร เฉินผิงกำลังเรียกเหล่าสมาชิกมาประชุมกันซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสำนักมาเลยก็ว่าได้

ในฐานที่เป็นผู้รักษาการแทนประมุขของสำนักมังกร ทำให้หลงอู่ต้องรับผิดชอบสำนักหลังจากหลงซิงซูไปที่เกาะเผิงไหลแล้ว

“คุณหลงครับ คุณเพิ่งจะบอกว่าอะไรนะ? สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้สร้างอาคารขึ้นมาใหม่ในสามวันงั้นเหรอ?” เฉินผิงถาม

“ใช่ สามวันเองล่ะ อย่างกับว่าอาคารพวกนั้นโผล่ออกมาจากที่ไหนสักแห่ง มิหนำซ้ำพวกมันยังโอ่อ่าสง่างามยิ่งกว่าเก่าเสียอีก! ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ก็มีขุนพลยุทธ์ขั้นสูงอีกเจ็ดคนคอยดูแลพวกมันอยู่ นอกเหนือไปจากนั้น พวกมันยังมีเจ้ายุทธ์กับปรมาจารย์ยุทธ์อีกนับไม่ถ้วนเช่นกัน ผมล่ะสงสัยนักว่าตอนที่คุณเพิ่งจะทำลายทั้งสมาพันธ์และถึงกับฆ่าสมาชิกระดับสูงของพวกมันไป พวกมันสามารถจัดการรวบรวมสมาชิกมากมายขนาดนั้นในชั่วเวลาสั้นๆ ได้ยังไงกัน หรือว่าฟ่านเจียงจะพูดถูก? คนพวกนั้นมาจากอาณาจักรลับอะไรเทือกนั้นงั้นเหรอ?”

เนื่องจากหลงอู่ไม่เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับอาณาจักรลับ เขาจึงรู้สึกสับสนงุนงง

แต่เฉินผิงกลับครุ่นคิด

ดูเหมือนว่าสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้จะแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เสียอีก มีเหล่าปรมาจารย์อยู่ในอาณาจักรลับมากขนาดไหนกันนะ? คนที่ทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จักก็เป็นแค่ระดับขุนพลยุทธ์เท่านั้น บางทีผู้เฒ่าหลังค่อมคนนั้นก็อาจจะอยู่ในระดับปราชญ์ยุทธ์ แต่ฉันไม่แน่ใจนัก อย่างไรเสียมารโลหิตที่ฉันอัญเชิญตอนนั้นก็ไล่ตะเพิดมันไปด้วยพลังตบเพียงสองครั้งเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้เลยว่าจริงๆ แล้วมันแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ตอนนี้ฉันไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์และไม่สามารถควบคุมมารโลหิตได้อีกต่อไปแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะเอาความมั่นใจมาจากไหนถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับขุนพลยุทธ์ทั้งเจ็ดคนนั้น ฉันคิดว่าพอสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ถูกทำลายลง ฉันก็จะเข้าไปในคุกใต้ดินได้แล้วพาอวี่ฉีออกมาจากห้องขัง ฉันไม่นึกเลยว่าสมาพันธ์จะฟื้นตัวขึ้นมาได้ในเวลาเพียงแค่สามวันและถึงกับรวบรวมเหล่าปรมาจารย์จากไหนไม่รู้ออกมาได้ด้วย

“มารโลหิตยังไงเล่า!”

“แต่ผมควบคุมมารโลหิตไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ผมทำอะไรไม่ได้เลย” เฉินผิงตอบด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง

“ต่อให้คุณจะไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป แต่การใช้ร่างของมันเป็นโล่ก็เป็นสิ่งที่คุณน่าจะลองพิจารณาดูนะ ร่างของมันแข็งแกร่งจนถึงขนาดที่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถทำลายลงได้ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงระดับขุนพลยุทธ์เลย”

เมื่อเฉินผิงได้ฟังคำแนะนำก็ดวงตาเป็นประกาย “จริงด้วยสิ ผมลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไงกันนะ?”

ถ้าหากฉันใช้ร่างของมารโลหิตเป็นโล่กำบัง ถ้ามันยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็น่าจะโมโหแทบตายเลยเชียวล่ะ

เมื่อนึกได้เช่นนั้นก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เฉินผิงได้มากขึ้น ไม่เป็นไรหรอกน่า เมื่อถึงเวลาฉันจะขอความช่วยเหลือจากเก๋อหยู่หานกับหูหม่าซือ ยังพอมีความเป็นไปได้ที่ฉันจะเอาชนะระดับขุนพลยุทธ์ทั้งเจ็ดคนนั้นได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร