หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1860

สรุปบท ตอนที่ 1860 เรียกตัวเองว่าราชา: หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอนที่ 1860 เรียกตัวเองว่าราชา – ตอนที่ต้องอ่านของ หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอนนี้ของ หัตถ์เทวะราชันมังกร โดย อาร์ม ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 1860 เรียกตัวเองว่าราชา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

พนักงานให้บริการบนเครื่องบินรีบเข้ามาห้ามเจิ้งไค “คุณผู้ชายคะ พวกเราอยู่บนเครื่องบินกันอยู่นะคะ คุณคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?”

น่าเสียดายที่เจิ้งไครู้สึกไม่สบายตัวมากเสียจนเขาไม่สนใจมารยาทอีกต่อไปแล้ว เขาผลักพนักงานให้บริการบนเครื่องบินออกไปพลางถอดเสื้อผ้าออกไปแล้วถูกตัวเองกับเบาะที่นั่ง ผู้โดยสารคนอื่นๆ ต่างรู้สึกตกตะลึงอย่างที่คาดคิดเอาไว้เลย

สิ่งที่ทำให้เจิ้งไครู้สึกประหลาดใจก็คือ ตอนที่เขาถอดกางเกงออกจู่ๆ ก็หายคันทันที

นั่นคือตอนที่เขาสังเกตเห็นว่ามียันต์แผ่นหนึ่งติดอยู่ข้างหลัง

เจิ้งไคโกรธจัดและมองหูหม่าซืออย่างแฝงเจตนาร้าย ไม่ต้องนึกก็รู้ว่ายันต์มาติดอยู่ข้างหลังได้อย่างไร

“ฮ่า! ใครจะไปรู้ว่าตาแก่จะกลายเป็นผู้ใช้เวทย์เล่า? เอาไว้พวกเราลงจากเครื่องเมื่อไหร่ ฉันจะถลกมันทั้งเป็นซะเลย...” เจิ้งไคกัดฟันพูดก่อนจะสวมเสื้อผ้า

หูหม่าซือยังคงไม่สะทกสะท้านและเอาแต่มองเจิ้งไคด้วยความขบขัน

เมื่อเห็นตาเฒ่าอวดดีถึงขนาดไหน ในที่สุดโจวเจี๋ยก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาว่า “คุณกำลังจะประสบปัญหาหนักเพราะไปยุ่งเกี่ยวกับลูกชายคนโตของตระกูลเจิ้ง...”

“โอ้? คุณรู้จักมันด้วยเหรอ?”

“ทุกคนในเมืองหนานหูรู้จักเขากันหมดนั่นแหละ!” โจวเจี๋ยเยาะเย้ย “เจิ้งอันกั๋วพ่อของมันเป็นนายกเทศมนตรีประจำเมือง พูดง่ายๆ ก็คือตระกูลของพวกมันครองทั้งเมืองเอาไว้หมดแล้ว...”

หูหม่าซือฟังด้วยความยากจะเชื่ออย่างถึงที่สุด และแม้แต่เฉินผิงก็อดไม่ได้ที่จะลืมตามองด้วยความประหลาดใจ

“เดี๋ยวนี้ยังมีเรื่องพรรค์นี้อยู่อีกงั้นเหรอเนี่ย? ขาดก็แค่พวกมันยังไม่ได้เรียกตัวเองว่าราชาไม่ใช่หรือไงกัน? ทำไมถึงไม่มีใครก้าวเข้ามาทำอะไรสักอย่างบ้างเลยล่ะ?” เฉินผิงถาม

ตลกน่า!สมัยนี้ยังจะมีคนที่สามารถยึดครองเมืองและตั้งตนเป็นเจ้าเมืองอยู่ได้ยังไงกัน?

“เมืองชายแดนอย่างเมืองหนานหูถือว่าเป็นแดนเถื่อน การที่มีช่องว่างแห่งอำนาจเพราะไม่มีใครสามารถสละเวลามาควบคุมดูแล” โจวเจี๋ยอธิบายให้ฟัง “ตระกูลเจิ้งทำงานและอาศัยอยู่ในเมืองมาหลายปี ดังนั้นก่อนที่เจิ้งอันกั๋วจะกลายมาเป็นนายกเทศมนตรีก็เป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาเท่านั้นแล้ว”

ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าทักษะฝีมือของเจิ้งไคไม่ได้เหนือไปกว่าระดับเจ้ายุทธ์เลย เช่นนั้นจะคู่ควรกับตระกูลที่มีอิทธิพลได้อย่างไรกัน?

ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกมันจะขโมยทรัพยากรในเมืองเอาไว้กับตัวเอง!ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตระกูลเจิ้งจะร่ำรวยและมีอิทธิพล!

“ฮ่า! งั้นเจิ้งไคก็เป็นเศษสวะชิ้นหนึ่งเท่านั้น ตระกูลของมันไม่ขาดแคลนทรัพยากร แต่มันกลับเป็นแค่เจ้ายุทธ์คนหนึ่งเท่านั้น...” หูหม่าซือเอ่ยพลางยิ้มเยาะ

“หูหม่าซือ ผมคิดว่าคุณควรจะควบคุมตัวเองบ้างนะ” เฉินผิงเตือน “ต่อให้เจิ้งไคจะไม่นับเป็นตัวอะไรนอกจากเจ้ายุทธ์ ตอนที่คุณก้าวเข้ามาในถิ่นของมันก็ยังต้องอยู่ภายใต้การคุ้มครองของมันอยู่ดี”

ให้ตายสิ หูหม่าซือควรจะทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ พวกเรากำลังจะไปที่เมืองหนานหูเพื่อหารือเรื่องความร่วมมือกับสำนักมารและคิดวางแผนช่วยซูอวี่ฉีออกมา พวกเราไม่ด้มาที่นั่นเพื่อเริ่มการต่อสู้สักหน่อย!

จากนั้นก็มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเฉินผิง “คุณโจว ในเมื่อทั่วทั้งเมืองหนานหูเป็นของตระกูลเจิ้ง สำนักมารเองคงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกมันไปด้วยใช่ไหม?”

อย่างไรเสียจะมีใครทนให้ตระกูลหรือสำนักอื่นใดบุกเข้ามาในถิ่นของพวกเราได้อย่างไร?

โจวเจี๋ยขบขันแกมเหน็บแนม “สำนักมารอยู่ในอาณาจักรลับ มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลเจิ้งกันเล่า?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร