หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1863

สรุปบท ตอนที่ 1863 ฆ่าแกซะ: หัตถ์เทวะราชันมังกร

ตอน ตอนที่ 1863 ฆ่าแกซะ จาก หัตถ์เทวะราชันมังกร – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1863 ฆ่าแกซะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ หัตถ์เทวะราชันมังกร ที่เขียนโดย อาร์ม เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เขาตบเจิ้งไคก่อนที่ฝ่ายหลังจะทันได้ตอบโต้เสียจนลอยกระเด็นถอยกลับไป

ความเจ็บปวดรุนแรงทำให้แก้มของเขาบวมเป่ง

เหคุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตื่นตะลึงให้แก่คนของเจิ้งไค ทำให้พวกเขาต่างสบตากันด้วยความรู้สึกตกตะลึง

ลูกชายคนโตของตระกูลเจิ้งถูกตบทีเดียวเสียจนลอยกระเด็นออกไป มิหนำซ้ำยังไม่มีโอกาสแม้แต่จะปกป้องตัวเอง

พวกเขาทุกคนแทบไม่อยากเชื่อสายตาตนเองแล้ว

เจิ้งไคที่โทสะท่วมท้นจ้องเฉินผิงตาเขม็ง “ไอ้สารเลว! พ่อของฉันจะไม่ยกโทษที่แกตบหน้าฉันแน่”

เฉินผิงจ้องกลับด้วยสีหน้าเย็นชา “ถ้าแกยังรักชีวิตอยู่ล่ะก็จงไสหัวไปให้พ้นสายตาของฉันซะ ฉันไม่อยากเป็นศัตรูของแก แต่แกมันไม่ยอมปล่อยพวกเราไปสักที ถ้าหากแกยังมัวแต่พูดพล่ามไร้สาระอีกแม้แต่คำเดียว ฉันจะฆ่าแกซะ แกได้ยินที่ฉันพูดไหม?”

เมื่อสัมผัสได้เจตจำนงสังหารของเฉินผิง เจิ้งไคก็รู้สึกว่าหนังตากระตุกริกๆ

“เอาล่ะ แกรอก่อนเถอะ นี่ไม่ใช่จิงตู...”

เมื่อพูดจบ เจิ้งไคก็จากไปพร้อมคนของตนเอง

หลังจากเขาจากไปแล้ว เฉินผิงก็บอกกับโจวเจี๋ยว่า “ไปกันเถอะ...”

“คุณเฉิน อย่างที่ฉันเคยบอกคุณไว้เมื่อก่อนหน้านี้ นายน้อยเจิ้งเป็นคนใจแคบ เขาย่อมต้องกลับมาแก้แค้นที่ตอนนี้คุณทำร้ายเขาไว้เป็นแน่” โจวเจี๋ยเตือน

“ก็ให้มันลองดูสิ ผมไม่สนหรอกว่าจะเป็นนายกเทศมนตรี น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะได้ใช้ทรัพยากรเพื่อการฝึกบำเพ็ญฌานที่มิยู่ที่นี่มันเสียเลย”

เฉินผิงยิ้มไม่ยี่หระ

“คุณเฉิน คุณดูถูกตระกูลเจิ้งเกินไปแล้ว” โจวเจี๋ยเอ่ยเน้นย้ำอีกครั้ง

“มีอะไรต้องกลัวเล่า? ยังมีสำนักมารหนุนหลังผมอยู่ไม่ใช่หรือไง? อย่าบอกผมนะว่าพวกเขากลัวตระกูลเจิ้งน่ะ?” เฉินผิงถามทีเล่นทีจริงพลางจ้องมองโจวเจี๋ย

“ไม่มีทางเสียหรอก! สำนักมารไม่มีทางกลัวตระกูลชั้นต่ำพรรค์นั้นหรอก” โจวเจี๋ยกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

“งั้นมีปัญหาอะไรกันเล่า? ตอนนี้พวกเราร่วมมือกันแล้ว ชัดเจนว่าพวกเราย่อมต้องเป็นพันธมิตรกัน ผมไม่คิดว่าสำนักมารจะทนนิ่งดูดายเรื่องความขัดแย้งระหว่างผมกับพวกมันหรอกใช่ไหม?” เฉินผิงถามพลางยิ้ม

โจวเจี๋ยไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไรดี

แม้จะรู้สึกหงุดหงิด แต่หูหม่าซือก็ยอมทำตามคำสั่งของเฉินผิง

สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือโจวเจี๋ยหยิบก้อนหินที่ดูพิเศษก้อนหนึ่งออกมา พลางพึมพำอะไรสักอย่าง

หลังจากนั้นประตูที่มีลักษณะคล้ายระลอกคลื่นก็เริ่มเปล่งแสงอยู่กลางอากาศ

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ” โจวเจี๋ยบอกเฉินผิงกับหูหม่าซือ

พวกเขาทั้งสามคนก้าวผ่านประตูโดยมีโจวเจี๋ยนำทาง

เมื่อพวกเขาทุกคนเข้ามาแล้ว แสงที่เปล่งประกายออกมาก็เลือนลางจางหายไปแล้วประตูก็ปิดลง

ภายในอาณาจักรลับ ภาพของตำหนักขนาดมโหฬารก็เจ้ามาทักทายเฉินผิง นอกเหนือไปจากอาคารก็ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกเสียจากหมอกสีเทา

นอกเหนือไปจากตำหนักที่ทอดยาวออกไปทั่วทุกสารทิศเป็นระยะทางหลายร้อยเมตร ทุกหนแห่งที่เขาทอดสายตามองล้วนเป็นสีเทาพร่ามัว

เฉินผิงคิดว่าสำนักมารน่าจะมีเจตนาให้หมอกปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่งเพื่อปกป้องความลับเอาไว้

การระดมทุน

ขอขอบคุณผู้บริจาคที่มีใจกว้างทุกท่าน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร