หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1864

แต่เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของโจวเจี๋ยก็พลันทำให้เขาตะลึงงันไปทันที

“นี่คืออาณาจักรลับของสำนักมาร และนี่คือทั้งหมดที่มีอยู่ ส่วนสีเทาคือมิติโกลาหลและไม่อนุญาตให้ให้ใครเข้าไปทั้งนั้น” โจวเจี๋ยอธิบายให้เฉินผิงกับหูหม่าซือฟัง

“อะไรกัน? นี่มัน?”

เฉินผิงรู้สึกประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเทียบกับอาณาจักรลับของตระกูลเก๋อแล้ว สถานที่สุดขั้วทั้งสองแห่งต่างตั้งอยู่คนละโลก

ถึงแม้ว่าเฉินผิงจะไม่รู้ว่าอาณาจักรลับของตระกูลเก๋อจะใหญ่โตสักแค่ไหน แต่สถานที่หลายแห่งที่เขาเคยเห็นมีขนาดใหญ่กว่าอาณาจักรในตอนนี้หลายเท่าตัว

“ทั้งๆ ที่อาณาจักรลับมีขนาดเพียงเท่านั้น แต่สำนักมารกลับต้องใช้ทรัพยากรเป็นจำนวนมหาศาลในการพัฒนาสถานที่แห่งนั้น ย้อนกลับไประหว่างเกิดภัยพิบัติ ตระกูลและสำนักที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมากได้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ อาณาจักรลับแห่งนี้จึงเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้สำนักมารยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้” โจวเจี๋ยอธิบายเพิ่มเติม

ระหว่างที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้น ชายสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวก็เดินเข้ามาหาพวกเขา โดยมีกระบี่วิเศษแขวนไว้ที่เอว

เมื่อพิจารณาถึงความหล่อเหลาและท่าทางอันโดดเด่นของชายคนนั้น ก็ยากจะเชื่อมโยงเขากับสำนักมารเข้าด้วยกันได้

“คุณโจว คงไม่ใช่ว่าสมาชิกของสำนักมารคือวิญญาณมารกันหมดหรอกใช่ไหม?” เฉินผิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย

เมื่อล่วงรู้ถึงสิ่งที่เฉินผิงกำลังคิดยู่ โจวเจี๋ยก็กลอกตาใส่เขา “วิญญาณมารเองก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน พวกเขาเพียงแค่ฝึกตนเองด้วยวิธีการที่ต่างออกไป คุณคิดว่าวิญญาณมารล้วนแล้วแต่เลวทรามชั่วร้ายไปเสียหมดหรือไง? ผู้ฝึกฝนพวกนั้นอาจจะดูมีคุณธรรม แต่การกระทำของพวกมันกลับน่ารังเกียจยิ่งกว่าวิญญาณมารเสียอีก”

เฉินผิงหมดคำพูดไปในทันที

“โจวเจี๋ย คุณกลับมาแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวอย่างอ่อนโยนพลางเดินเข้ามาหาโจวเจี๋ย

“อืม-มมม!” โจวเจี๋ยมองไปทางชายหนุ่ม สายตาของเธอเต็มไปด้วยความรักใคร่

เห็นได้ชัดว่าเธอมีความรู้สึกให้เขา

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หูหม่าซือรู้สึกคับข้องใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคนแก่อย่างเขาย่อมไม่อาจเทียบได้อยู่แล้ว

การระดมทุน

ขอขอบคุณผู้บริจาคที่มีใจกว้างทุกท่าน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร