“นั่นอาจจะเป็นชะตาลิขิตและไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ เจตจำนงแห่งสวรรค์ไม่อาจฝ่าฝืน” ในความเป็นจริงแล้ว โจวเจี๋ยก็ไม่อยากให้สถานการณ์มาถึงขั้นนั้นเช่นกัน นานวันเข้าก็มีแต่ความทุกข์ยาก ความทุกข์ทรมานและการต่อสู้อันไร้ที่สิ้นสุด
“อีกอย่างหนึ่งนะครับ คุณโจว สำนักมารก็มีรากเหง้าเดียวกับสำนักใจทมิฬอันเป็นสำนักที่อยู่เบื้องหลังสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ เช่นนั้นทำไมพวกเขาจึงได้รับอนุญาตให้ท่องไปบนโลกใบนี้ได้อย่างอิสระเสรีและไม่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดเดียวกัน?” เฉินผิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย ฉันมักจะคิดว่ากฎแห่งธรรมชาติใช้ได้เฉพาะกับผู้ฝึกบำเพ็ญญาณแต่ไม่ใช่ผู้ฝึกพลังมาร แต่ดูท่าแล้ว ดูเหมือนว่าสำนักมารเองก็ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเดียวกัน นั่นหมายความว่าข้อสันนิษฐานของฉันไม่ถูกต้อง
“ข้อจำกัดเดียวกันใช้กับสำนักใจทมิฬ ทำไมคุณถึงคิดว่าหลังจากคุณยั่วยุสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้แล้ว พวกมันจะไม่ส่งปรมาจารย์ฝีมือดีเพื่อฆ่าคุณได้ยังไงกันเล่า? สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าตัวแทนของสำนักใจทมิฬในโลกมนุษย์ คนของพวกมันเป็นเพียงแค่คนที่มีวิญญาณสิงสู่และกฎแห่งธรรมชาติก็ควบคุมวิญญาณที่ปราศจากร่างจริงของมันไม่ได้ สำนักใจทมิฬใช้ช่องโหว่นั้นเพื่อทำให้คนของมันยอมฆ่าตัวตาย จากนั้นวิญญาณของพวกมันก็จะเข้าสู่โลกมนุษย์ แต่วิธีนั้นก็มีข้อบกพร่องร้ายแรงคือ พลังของคนที่ถูกวิญญาณสิงสู่จะลดลงมาก ยิ่งไปกว่านั้น ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะจะเป็นร่างต้นและการเลือกร่างต้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำนักใจทมิฬทุ่มสุดตัวเพื่อวางแผนของพวกมันในโลกมนุษย์ก่อนจะฟื้นพลังวิญญาณ แต่การฝึกที่มีชัยชนะที่ได้ไม่คุ้มเสียก็โหดเหี้ยมเกินไป” เธอตอบ
เมื่อเฉินผิงได้ยินคำอธิบายโดยละเอียดของเธอกทำให้เขามีสีหน้าตกตะลึง ไม่นึกเลยว่าสำนักใจทมิฬจะไปไกลถึงขนาดทำให้คนของตัวเองต้องปลิดชีพตนเองเพียงเพราะพวกมันต้องการที่จะสร้างวิญญาณขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตอนที่เขาอยู่ในอาณาจักรลับของสำนักมารได้ ตอนที่ฉันแยกวิญญาณของตัวเองออกจากร่างเพื่อข้ามผ่านมิติโกลาหล พลังลึกลับไม่ได้ขวางฉันไว้ ดังนั้นดูเหมือนพลังนั่นก็คือกฎแห่งธรรมชาติ
อีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขาเร็วมาก โจวเจี๋ยไม่ได้ดำรงตำแหน่งสูงๆ ภายในสำนักมาร เช่นนั้นทำไมเธอถึงได้รู้มากนักเล่า? การฟื้นพลังวิญญาณและแผนของสำนักใจทมิฬควรจะถือเป็นข้อมูลลับ เธอรู้เรื่องทั้งหมดนั้นได้ยังไงกัน?
เขาจึงถามด้วยความรู้สึกฉงนใจว่า “ถ้าคุณไม่รังเกียจผมขอถามว่า คุณรู้เรื่องมากมายขนาดนั้นได้ยังไงกันครับ?”
คำถามของเขาทำให้โจวเจี๋ยรู้สึกว่าเธอพูดมากเกินไปแล้ว หากว่ากันด้วยเหตุผลแล้ว คนในตำแหน่งอย่างฉันไม่ควรจะรู้เรื่องมากนักหรอก แต่ในเมื่อเขาเริ่มระแวงสงสัยแล้ว ฉันก็ไม่สามารถปิดบังเขาได้อีกต่อไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...