ดังนั้นเฉินผิงจึงตั้งใจที่จะทำให้เจิ้งอันกั๋วใจเย็นลงด้วยการเน้นย้ำจุดประสงค์ของการที่เขามาอยู่ในเมืองหนานหู
“น่าเสียดายจัง ผมหวังว่าคุณจะสามารถอยู่ต่อในเมืองหนานหูได้อีกสองสามวันนะครับ ถึงอย่างนั้นถ้าคุณว่างเมื่อไหร่ก็มาแวะที่เมืองหนานหูได้ทุกเมื่อ สถานที่แห่งนี้ทั้งห่างไกลและแยกตัวโดดเดี่ยว แต่ทิวทัศน์ที่นี่กลับไม่เลวเลย ทว่าพวกเราก็ยังขาดแคลนทรัพยากร”
ทั้งๆ ที่เขาพูดแบบนั้น แต่เจิ้งอันกั๋วกลับยิ้มกว้าง
ไม่ว่าการมาเยือนของเฉินผิงจะมีเหตุผลอะไรอยู่เบื้องหลัง แต่การมาเยือนของเขาก็ทำให้เจิ้งอันกั๋วเครียดมากจริงๆ
“คุณเจิ้งมีบางอย่างที่ผมอยากรู้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าควรจะถามดีหรือเปล่า” เฉินผิงกล่าวขึ้น
“คุณเฉิน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจผมขนาดนั้นก็ได้ครับ ถามมาได้เลย ผมจะบอกทุกอย่างที่รู้เลยล่ะ” เจิ้งอันกั๋วตอบด้วยความจริงใจอย่างสุดซึ้ง
เฉินผิงถามด้วยความสงสัย “คุณเจิ้ง นับตั้งแต่ตระกูลเจิ้งก่อตั้งขึ้นในเมืองหนานหูซึ่งเป็นสถานที่ขาดแคลนทรัพยากร ผมขอทราบได้ไหมครับว่าคุณฝึกบำเพ็ญฌานยังไง? เพราะผมได้ยินมาว่าคุณฝึกบำเพ็ญฌานด้วยการซึมซับพลังธรรมชาติของทั่วทั้งเมือง”
เจิ้งอันกั๋วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หลังจากได้ยินคำถามของเฉินผิง
“ฮ่าฮ่าฮ่า! คุณเฉิน คุณเชื่อข่าวลือพวกนั้นด้วยเหรอ? ผมเป็นใครกันถึงได้มีความสามารถพอที่จะซึมซับพลังธรรมชาติของเมืองได้ล่ะครับ? เรื่องพวกนั้นเป็นแค่ข่าวลือเท็จบางส่วนที่แพร่สะพัดในคนหมู่มาก สิ่งที่ผมทำก็คือใช้สถานะของตัวเองเพื่อซึมซับพลังศรัทธาของชาวเมืองบางส่วน ในฐานที่เป็นนายกเทศมนตรีแห่งเมืองหนานหู ผมยังมีอำนาจที่จะให้ทุกครัวเรือนตั้งรูปปั้นของผมเอาไว้ในบ้านของพวกเขา นอกเหนือไปจากนั้น บรรพชนของผมก็ถ่ายทอดเคล็ดวิชาชุดหนึ่งที่ทำให้ผมสามารถฝึกบำเพ็ญฌานโดยใช้พลังศรัทธาจากฝูงชนอีกด้วย ถึงจะพูดแบบนั้น แต่พลังปริมาณน้อยนิดก็ไม่เป็นประโยชน์เลย ถ้าหากคนผู้หนึ่งอยากจะเสริมกำลังความสามารถจริงๆ ล่ะก็ คนผู้นั้นก็จะต้องอาศัยทรัพยากรจำนวนมหาศาล ถ้าหากผมสามารถรับเอาพลังธรรมชาติของเมืองหนานหูมาได้จริงๆ ผมก็คงไม่จมปลักดักดานอยู่ในเมืองชายแดนเล็กๆ แบบนี้หรอก” เจิ้งอันกั๋วอธิบายให้เฉินผิงฟัง
“พลังศรัทธา...”
เฉินผิงพลันตระหนักได้ว่า เคล็ดวิชาเช่นนี้ที่ถ่ายทอดกันมาในตระกูลเจิ้งดูเหมือนจะมีความคล้ายคลึงกับทักษะของมารโลหิตบนเกาะเผิงไหลเมื่อก่อนหน้านี้ อีกทั้งมารโลหิตตนนั้นเองก็อาศัยผู้คนที่มาสักการะรูปปั้นของมันเพื่อซึมซับพลังวิญญาณของพวกเขาด้วย
แต่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในความเชื่อเกี่ยวกับพลังศรัทธาที่ไม่มีประโยชน์ต่อการเร่งความเร็วในการฝึกบำเพ็ญฌานของเจิ้งอันกั๋ว
เจิ้งอันกั๋วพบเจอพลังศรัทธาที่ไร้กำลังเพราะเมืองหนานหูมีขนาดเล็กเกินไปและมีพลเมืองน้อยเกินไป นอกเหนือไปจากนั้น พลเมืองเหล่านั้นก็อาจจะไม่ได้เคารพนับถือเขามากขนาดนั้น ดังนั้นผลกระทบของพลังศรัทธาจึงทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่สลักสำคัญอะไรกับเจิ้งอันกั๋ว แต่ถ้าหากรวบรวมพลังศรัทธาจากผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีประชากรอยู่กันอย่างหนาแน่น ประเทศหรือแม้แต่ทั่วทั้งโลกเล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...