หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1881

ดังนั้นเฉินผิงจึงตั้งใจที่จะทำให้เจิ้งอันกั๋วใจเย็นลงด้วยการเน้นย้ำจุดประสงค์ของการที่เขามาอยู่ในเมืองหนานหู

“น่าเสียดายจัง ผมหวังว่าคุณจะสามารถอยู่ต่อในเมืองหนานหูได้อีกสองสามวันนะครับ ถึงอย่างนั้นถ้าคุณว่างเมื่อไหร่ก็มาแวะที่เมืองหนานหูได้ทุกเมื่อ สถานที่แห่งนี้ทั้งห่างไกลและแยกตัวโดดเดี่ยว แต่ทิวทัศน์ที่นี่กลับไม่เลวเลย ทว่าพวกเราก็ยังขาดแคลนทรัพยากร”

ทั้งๆ ที่เขาพูดแบบนั้น แต่เจิ้งอันกั๋วกลับยิ้มกว้าง

ไม่ว่าการมาเยือนของเฉินผิงจะมีเหตุผลอะไรอยู่เบื้องหลัง แต่การมาเยือนของเขาก็ทำให้เจิ้งอันกั๋วเครียดมากจริงๆ

“คุณเจิ้งมีบางอย่างที่ผมอยากรู้ แต่ผมไม่แน่ใจว่าควรจะถามดีหรือเปล่า” เฉินผิงกล่าวขึ้น

“คุณเฉิน ไม่จำเป็นต้องเกรงใจผมขนาดนั้นก็ได้ครับ ถามมาได้เลย ผมจะบอกทุกอย่างที่รู้เลยล่ะ” เจิ้งอันกั๋วตอบด้วยความจริงใจอย่างสุดซึ้ง

เฉินผิงถามด้วยความสงสัย “คุณเจิ้ง นับตั้งแต่ตระกูลเจิ้งก่อตั้งขึ้นในเมืองหนานหูซึ่งเป็นสถานที่ขาดแคลนทรัพยากร ผมขอทราบได้ไหมครับว่าคุณฝึกบำเพ็ญฌานยังไง? เพราะผมได้ยินมาว่าคุณฝึกบำเพ็ญฌานด้วยการซึมซับพลังธรรมชาติของทั่วทั้งเมือง”

เจิ้งอันกั๋วระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หลังจากได้ยินคำถามของเฉินผิง

“ฮ่าฮ่าฮ่า! คุณเฉิน คุณเชื่อข่าวลือพวกนั้นด้วยเหรอ? ผมเป็นใครกันถึงได้มีความสามารถพอที่จะซึมซับพลังธรรมชาติของเมืองได้ล่ะครับ? เรื่องพวกนั้นเป็นแค่ข่าวลือเท็จบางส่วนที่แพร่สะพัดในคนหมู่มาก สิ่งที่ผมทำก็คือใช้สถานะของตัวเองเพื่อซึมซับพลังศรัทธาของชาวเมืองบางส่วน ในฐานที่เป็นนายกเทศมนตรีแห่งเมืองหนานหู ผมยังมีอำนาจที่จะให้ทุกครัวเรือนตั้งรูปปั้นของผมเอาไว้ในบ้านของพวกเขา นอกเหนือไปจากนั้น บรรพชนของผมก็ถ่ายทอดเคล็ดวิชาชุดหนึ่งที่ทำให้ผมสามารถฝึกบำเพ็ญฌานโดยใช้พลังศรัทธาจากฝูงชนอีกด้วย ถึงจะพูดแบบนั้น แต่พลังปริมาณน้อยนิดก็ไม่เป็นประโยชน์เลย ถ้าหากคนผู้หนึ่งอยากจะเสริมกำลังความสามารถจริงๆ ล่ะก็ คนผู้นั้นก็จะต้องอาศัยทรัพยากรจำนวนมหาศาล ถ้าหากผมสามารถรับเอาพลังธรรมชาติของเมืองหนานหูมาได้จริงๆ ผมก็คงไม่จมปลักดักดานอยู่ในเมืองชายแดนเล็กๆ แบบนี้หรอก” เจิ้งอันกั๋วอธิบายให้เฉินผิงฟัง

“พลังศรัทธา...”

เฉินผิงพลันตระหนักได้ว่า เคล็ดวิชาเช่นนี้ที่ถ่ายทอดกันมาในตระกูลเจิ้งดูเหมือนจะมีความคล้ายคลึงกับทักษะของมารโลหิตบนเกาะเผิงไหลเมื่อก่อนหน้านี้ อีกทั้งมารโลหิตตนนั้นเองก็อาศัยผู้คนที่มาสักการะรูปปั้นของมันเพื่อซึมซับพลังวิญญาณของพวกเขาด้วย

แต่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในความเชื่อเกี่ยวกับพลังศรัทธาที่ไม่มีประโยชน์ต่อการเร่งความเร็วในการฝึกบำเพ็ญฌานของเจิ้งอันกั๋ว

เจิ้งอันกั๋วพบเจอพลังศรัทธาที่ไร้กำลังเพราะเมืองหนานหูมีขนาดเล็กเกินไปและมีพลเมืองน้อยเกินไป นอกเหนือไปจากนั้น พลเมืองเหล่านั้นก็อาจจะไม่ได้เคารพนับถือเขามากขนาดนั้น ดังนั้นผลกระทบของพลังศรัทธาจึงทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่สลักสำคัญอะไรกับเจิ้งอันกั๋ว แต่ถ้าหากรวบรวมพลังศรัทธาจากผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีประชากรอยู่กันอย่างหนาแน่น ประเทศหรือแม้แต่ทั่วทั้งโลกเล่า?

“คุณเฉินถูกเจิ้งไคทายาทของตระกูลเจิ้งพาตัวไปแล้ว รีบคิดหาทางช่วยเขาที!” เธอกล่าวขึ้น

“เขาถูกคนจากตระกูลเจิ้งพาตัวไปงั้นเหรอ? พวกเขาจะจับตัวเขาไปทำไมกัน?” เขาถามด้วยความงุนงง

โจวเจี๋ยจึงทำได้เพียงแต่เล่าเรื่องราวความขัดแย้งกับเจิ้งไคให้ซ่งชิงผิงได้ฟังอีกครั้ง แต่เธอกลับไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่โดนหูหม่าซือเอาเปรียบ

“ทายาทคนนี้จากตระกูลเจิ้งเป็นคนโง่เขลาเสียขนาดนั้น ผมไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะมีความกล้าพอที่จะจับเฉินผิงได้” ซ่งชิงผิงกล่าวพลางยิ้มจางๆ

เมื่อสังเกตเห็นท่าทีขบขันและไม่ยี่หระของเขา โจวเจี๋ยก็เอ่ยขึ้นด้วยความสับสนว่า “รองเจ้าสำนักซ่ง รีบส่งคนไปช่วยคุณเฉินเถอะค่ะ พวกเราคิดจะร่วมมือกับเขาไม่ใช่รึไง?”

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เฉินผิงไม่เป็นไรหรอก ถ้าหากเขาจัดการไม่ได้แม้แต่ตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลเจิ้ง พวกเราจะร่วมมือกับเขาไปทำไมกันเล่า? ผมมั่นใจว่าเขาต้องไม่เป็นไรแน่ แต่กลับไม่อาจพูดแบบเดียวกันกับตระกูลเจิ้งได้ คุณควรจะรีบกลับไปยังที่ๆ คุณจากมา มิฉะนั้นเฉินผิงก็คงไม่สามารถเปิดประตูเข้าสู่อาณาจักรลับเองได้” ซ่งชิงผิงอธิบายด้วยความใจเย็น

การระดมทุน

ขอขอบคุณผู้บริจาคที่มีใจกว้างทุกท่าน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร