หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1952

สรุปบท ตอนที่ 1952 ค่อยเป็นค่อยไป: หัตถ์เทวะราชันมังกร

อ่านสรุป ตอนที่ 1952 ค่อยเป็นค่อยไป จาก หัตถ์เทวะราชันมังกร โดย อาร์ม

บทที่ ตอนที่ 1952 ค่อยเป็นค่อยไป คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ หัตถ์เทวะราชันมังกร ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อาร์ม อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

คำพูดของเฉินผิงทำให้เจียงเหวยตะลึงงัน เขานิ่งไปแล้วใช้ความคิด

หากพลังวิญญาณได้รับการฟื้นฟู สำนักและตระกูลที่ทรงอิทธิพลภายในอาณาจักรลับจะกลับสู่โลกมนุษย์ตระกูลต่างๆ ในโลกมนุษย์จะเปลี่ยนสถานะถูกลดชั้นให้เป็นทาส ยิ่งกว่านั้น ตระกูลที่ทรงอิทธิพลจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงทรัพยากรโดยปราศจากความยับยั้งชั่งใจ ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีกฎใดที่จะบังคับและควบคุมพวกเขาได้ ผลที่ตามมาคือโลกทั้งใบจะจมดิ่งสู่ความโกลาหล และสามัญชนจะกลายเป็นเหมือนมดปลวกที่ไร้ค่าไร้สถานะในสังคม

"คุณเฉิน แผนหยุดการฟื้นตัวของพลังวิญญาณของคุณต้องทำอย่างไรบ้าง?” เจียงเหวยถามอย่างสงสัย

เฉินผิงขมวดคิ้วกับคำถาม ก่อนจะถอนหายใจ “ผมยังคิดหาวิธีแก้ปัญหาไม่ได้ คงต้องค่อยเป็นค่อยไป”

ขณะที่เฉินผิงและเจียงเหวยพูดคุยและดื่มกัน ชายวัยยี่สิบเศษๆ สวมชุดลำลองก็เดินเข้ามาในบาร์ ชายคนนั้นมีลูกสมุนสี่คนตามหลังเขามาด้วย

มองแวบเดียวก็สามารถบอกได้ว่าชายผู้นี้เป็นทายาทผู้มั่งคั่งจากสำนักหรือตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่ไหนสักที่ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ บาร์ จากนั้นเดินข้ามห้องไปนั่งที่มุมหนึ่ง

เฉินผิงขมวดคิ้ว และสังเกตชายผู้นี้อย่างระมัดระวัง

เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของเฉินผิง เจียงเหวยจึงถามว่า “คุณรู้จักเขาหรือ คุณเฉิน?”

เฉินผิงส่ายหัว “ไม่รู้จัก แต่ผมรู้สึกแปลกๆ ถึงรัศมีพลังของเขา แม้ว่าเขาตั้งใจซ่อนรัศมีพลังเอาไว้ แต่ผมรู้สึกได้ว่าความสามารถของเขาน่าจะสูงกว่าขุนพลยุทธ์หรืออย่างต่ำที่สุดเขาน่าจะเป็นขุนพลยุทธ์ระดับสูง”

เจียงเหวยแอบชำเลืองดูชายคนนั้นบ้าง การวิเคราะห์ของเฉินผิงกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเขา “ผมไม่เห็นรู้สึกพิเศษอะไรกับตัวเขาเลย เขาก็ดูเหมือนทายาทเศรษฐีทั่วไปที่มีอยู่ดาษดื่นบนเกาะเผิงไหล นอกจากนี้ โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะบรรลุระดับขุนพลยุทธ์หรือปราชญ์ยุทธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย? คุณเฉิน ขนาดคุณเป็นคนที่มีความสามารถมากที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา คุณก็ยังบรรลุไม่ถึงขุนพลยุทธ์ระดับสูงเลย แล้วอย่างนี้จะมีใครเหนือไปกว่าคุณได้?”

“เขาไม่ใช่ผู้ฝึกวรยุทธ์” เฉินผิงกล่าวอย่างสบายๆ

“ไม่ใช่ผู้ฝึกวรยุทธ์?” เจียงเหวยงุนงง “เขาเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญญาณงั้นเหรอ? เขามาจากอาณาจักรลับเหรอ?”

เฉินผิงไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ ของเจียงเหวยเพราะเขาไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มมาจากอาณาจักรลับหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในบรรดาผู้ฝึกบำเพ็ญญาณทั้งหมดที่เขาเคยพบในโลกมนุษย์นี้ เขายังไม่เคยเจอผู้ฝึกบำเพ็ญที่ทรงพลังเช่นนี้มาก่อนเลย ยกเว้นผู้ฝึกพลังมารที่เป็นเจ้าของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้

ทันใดนั้น ลูกสมุนคนหนึ่งของชายหนุ่มก็โผล่เข้ามา แต่ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเห็นสายตาอันแข็งกร้าว

ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น คือหลิวฉางนั่นเอง เพื่อไม่เป็นการดึงดูดความสนใจใด ๆ เขาจึงพาลูกน้องมาเพียงไม่กี่คนมาด้วยและตั้งใจปกปิดพลังของตัวเอง

เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เฉินผิงจับจ้องที่เขาตั้งแต่ก้าวแรกที่เขาเข้ามา

ในเวลาเดียวกัน หลิวฉางยังสัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังวิญญาณที่เล็ดลอดออกมาจากเฉินผิง ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษที่มีเฉพาะผู้ฝึกบำเพ็ญญาณเท่านั้นที่จะมี ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมั่นใจว่าเฉินผิงเป็นฝึกบำเพ็ญญาณ

เขายังบอกได้อีกว่าเฉินผิงบรรลุถึงขั้นผู้จำแลงระดับแปดแล้ว ซึ่งเทียบเท่ากับขั้นขุนพลยุทธ์ระดับแปด

ความสามารถที่น่าเกรงขามเช่นนี้หาได้ยากในโลกมนุษย์ เพราะไม่มีใครสามารถต่อต้านข้อจำกัดของกฎแห่งธรรมชาติได้ มันเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญในโลกมนุษย์ที่จะบรรลุถึงระดับผู้ประจักษ์แจ้งได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร