หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 1957

ทันทีมือของผู้สูงอายุแตะโดนวงแหวนอาคม เขาก็ถูกเหวี่ยงไปข้างหลังและกระแทกลงบนพื้น เลือดเริ่มซึมออกทางจมูกและปากของเขาและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ชายสูงอายุมีพลัง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สามารถทําลายวงแหวนอาคมอันทรงพลังที่ขวางทางเข้าซากปรักหักพังโบราณได้ นั่นหมายความว่าไม่มีใครสามารถเข้าไปในซากปรักหักพังได้เลย

“วงแหวนอาคมนี้รุนแรงเกินไป ผมไม่อยากจะเชื่อว่าขุนพลยุทธ์ขั้นก้าวหน้าจะไม่สามารถทําลายมันได้! ” เจียงเหวยพูดด้วยความตกใจ

เฉินผิงอธิบายอย่างสงบ “ เราต้องค้นหาแกนกลางวงแหวนเพื่อทําลายมัน เฉพาะผู้ที่มีอํานาจพิเศษเท่านั้นที่สามารถทําลายล้างมันได้ด้วยความแข็งแกร่งและพลังที่แท้จริง”

เห็นได้ชัดว่าเฉินผิงรู้อยู่แล้วว่าชายสูงอายุคนนี้จะไม่สามารถทําลายวงแหวนอาคมได้

หลงซิงซูถาม “เฉินผิง คุณสามารถทําลายได้ไหม? ”

เฉินผิงพยักหน้า “ ผมต้องใช้ดาบเพื่อทําลายวงแหวนอาคม ”

เขาไม่ได้โม้เรื่องที่เขาสามารถค้นพบแกนกลางของวงแหวนอาคมได้ ด้วยความสามารถของเขาเองและจากความช่วยเหลือของกระบี่พิฆาตมังกร เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถทําลายมันลงได้โดยไม่ยาก

อย่างไรก็ตามเฉินผิงไม่ได้ทําเช่นนั้น เขากําลังรอให้คนอื่นทํา

เขารู้ว่าหนิงจื้อได้นํานักรบเสื้อคลุมทองรมดำทั้งสี่คนมาด้วย หากพวกเขาสามารถร่วมมือ กันก็จะทําลายวงแหวนอาคมได้อย่างง่ายดาย

ชายหนุ่มที่เขาเห็นที่ผับควรมีความสามารถเช่นกัน

คนเหล่านี้ไม่ได้ลงมือทําหรือเปิดเผยตัวเองดังนั้นเฉินผิงจึงตัดสินใจรอดู พวกเขาแข่งขันกันเพื่อดูว่าใครจะสามารถอดทนและสงบภายใต้สถานการณ์แบบนี้ได้มากกว่ากัน

เฉินผิงอดทนได้ แต่คนอื่นไม่สามารถรอได้อีกต่อไป

หงเทียนชิ่วก้าวออกมาและประกาศว่า “ทุกคน ในที่สุดเราก็มาถึงที่เกาะเผิงไหลแล้ว ดังนั้นเราต้องไม่ยอมให้วงแหวนอาคมขวางทางเราได้ ทุกคนที่นี่ต่างก็มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นพวกเรามีความสามารถพอในการจัดการกับวงแหวนได้อยู่แล้ว หากใครมาเข้าร่วมกับเรา เราจะขอบคุณมาก ยิ่งถ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ด้วยแล้ว ! เราจะสามารถแสดงพลังร่วมกันและแสดงให้เห็นว่าวงแหวนนี้ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยเมื่อเราเข้าผนึกกำลังกัน แต่ถึงอย่างไร ผมขอพูดตรงนี้ให้ชัดเจนไปเลย ถ้าหากเราทําลายวงแหวนอาคมได้

ใครที่ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใด ๆ ก็ควรจะถอยออกไป ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมใจร้ายแล้วกัน”

วงแหวนอาคมนอกซากปรักหักพังโบราณเพียงอย่างเดียวก็มีพลังมากพอแล้ว ดังนั้นหงเทียนชิ่วดีรู้ว่าอาจจะมีอันตรายที่มากขึ้นซุกซ่อนอยู่ภายใน เขาต้องการให้มีหลายตระกูลเข้าร่วมกองกําลังกับพวกเขามากขึ้นเพื่อให้สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุม

ทุกคนดูอย่างใจจดใจจ่อ ทันทีที่ค่ายกลพิทักษ์ภูผาถูกทําลายพวกเขาจะบุกเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณอย่างไม่ลังเล

หงเทียนชิ่วและผองเพื่อนของเขาต่างล้อมอยู่ตรงบริเวณทางเข้า แล้วสร้างกําแพงกั้นไม่ให้ใครเข้าผ่านเข้ามาได้

หลายคนไม่พอใจกับการกระทําของเขา แต่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับมัน

บูม!

หลังจากเสียงดังราวกับฟ้าผ่า พลังงานของทุกคนที่รวมกันก็พุ่งเข้าหาวงแหวนอาคม

พื้นดินสั่นสะเทือนพร้อมคลื่นทะเลที่ปั่นป่วนขณะที่เกาะเผิงไหล ตัวสั่นอย่างรุนแรง

นั่นแสดงให้เห็นว่าพลังงานรวมของพวกเขานั้นทรงพลังเพียงใด

อนิจจา การโจมตีที่รุนแรงกลับทำได้เพียงทิ้งรอยจาง ๆ ให้กับค่ายกลพิทักษ์ภูผาแค่นั้น แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากค่ายกล แต่พวกเขาก็ทําลายวงแหวนอาคมไม่สำเร็จ