หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 2700

เฉินผิงอดคล้อยตามคำพูดของเจ่อเยี่ยนไม่ได้ เขารู้เรื่องมารในอาณาจักรนิรันดร์แค่นิดเดียว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเชื้อสายของมารอเวจี เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

ถ้าเฉินผิงจะเพิ่มพลังของเพลิงปีศาจในร่างกายของเขา เขาจะต้องตามหาผู้ใช้วิชามารที่มีเชื้อสายมารอเวจี

“ก็ได้ ผมจะไว้ชีวิตคุณ” หลังจากพูดจบ เขาก็สลายเพลิงปีศาจของเขา และทำการกลืนกินเพลิงปีศาจบรรพกาลของเจ่อเยี่ยนอย่างฉับไว

จากนั้น เฉินผิงก็ใช้พลังวิญญาณของเขาผนึกเพลิงปีศาจบรรพกาลของเจ่อเยี่ยน และส่งมันลงสู่ทะเลจิตสำนึกของเขา

การทำแบบนี้ช่วยให้เฉินผิงสามารถสื่อสารกับเขาได้สะดวกขึ้น และเขายังสามารถได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อสายมารอเวจีจากเจ่อเยี่ยนอีกด้วย

หลังจากที่เขาปราบเจ่อเยี่ยนลงได้ คาถาย้ายมิติก็เริ่มสั่นสะเทือนและพังทลายลงทันที

ขณะมองดูคาถาย้ายมิติที่กำลังโคลงเคลง เฉินผิงก็ยิ้มอย่างไม่แยแส จากนั้นเขาก็โบกมือพร้อมปลดปล่อยพลังวิญญาณที่หลั่งไหลออกมาทุกทิศทาง

ในชั่วพริบตา คาถาย้ายมิติก็พังทลายลง และร่างของเฉินผิงก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้น

ฝูงชนเฝ้าดูการต่อสู้ระหว่างเฉินผิงและเจ่อเยี่ยนอย่างไม่คลาดสายตา แม้ว่าการต่อสู้จะเกิดขึ้นภายในคาถาย้ายมิติ แต่การสั่นสะเทือนที่รุนแรงในอากาศก็ทำให้ทุกคนสัมผัสได้ว่าพวกเขาผลัดกันรุกรับอย่างดุเดือด

ด้วยการพังทลายของคาถาย้ายมิติ ทุกคนจึงรู้ว่าการต่อสู้ระหว่างทั้งสองสิ้นสุดลงแล้ว

“เจ่อเยี่ยนคงเป็นฝ่ายชนะ เพราะเขาสืบทอดสุดยอดวิชาจากเชื้อสายมารอเวจี” เมื่อผู้อาวุโสรอง เห็นว่าคาถาย้ายมิติพังทลาย เขาก็มีท่าทียินดี

เขารู้ว่าเจ่อเยี่ยนเป็นคนวางคาถาย้ายมิติเอาไว้ เท่ากับว่าเจ่อเยี่ยนสามารถผสานทักษะของเขาเพื่อสังหารเฉินผิงได้อย่างเหมาะเจาะ

การที่มิตินั้นพังทลายบ่งบอกว่าการต่อสู้สิ้นสุดลงแล้ว ผู้อาวุโสรองมั่นใจว่าเจ่อเยี่ยนจะเอาชนะเฉินผิงได้

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสรอง ผู้อาวุโสสาม หลิ่วหรูเยี่ยนและคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึง พวกเขาหวังอย่างแรงกล้าว่าเฉินผิงจะออกมาจากมิตินั้นโดยไม่เป็นอันตราย

“ทำไมคุณถึงมั่นใจขนาดนั้น?” ผู้อาวุโสสามมองดูเนี่ยเหิงด้วยความสงสัย เขาคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำอยู่เสมอ ดูเหมือนว่าเขาจะเชื่อมั่นในตัวเฉินผิงอย่างเต็มร้อยมาโดยตลอด

“นั่นคุณเฉิน เป็นคุณเฉินจริงๆ ด้วย!” ฟางซูอุทานด้วยความตื่นเต้น

ผู้อาวุโสสามและหลิ่วหรูเยี่ยนก็ตัวสั่นเช่นกันเมื่อเห็นเฉินผิง

ทุกสายตาจับจ้องไปที่เฉินผิงด้วยความประหลาดใจ เขาเพิ่งจะเพิ่มระดับพลังและไปถึงขั้นกึ่งเซียนได้ไม่นาน แต่เขาก็ยังสามารถเอาชนะเจ่อเยี่ยนได้ ฝูงชนแทบไม่เชื่อสายตา

ใบหน้าของผู้อาวุโสรองเผยความเหลือเชื่ออย่างที่สุดขณะมองดูเฉินผิง จากนั้นเขาก็กวาดตามองไปรอบๆ ตัวเขาเพื่อดูว่าเจ่อเยี่ยนยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

“ไม่ต้องมองหาหรอก เขากลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว” เฉินผิงตอบ พร้อมกับรอยยิ้มเย็นชาที่ปรากฏบนริมฝีปากของเขา

คำพูดของเฉินผิงทำให้ผู้อาวุโสรองและผู้ใช้วิชามารที่ติดตามเจ่อเยี่ยนตื่นตระหนก

การตายของเจ่อเยี่ยนเป็นหลักฐานว่าความแข็งแกร่งของเฉินผิงนั้นเหนือกว่าเขา ความตกใจอย่างรุนแรงทำให้ผู้ใช้วิชามารที่เจ่อเยี่ยนพามายังที่แห่งนั้นตัวสั่นและเสียขวัญกำลังใจ