เข้าสู่ระบบผ่าน

หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 2837

“เมิ่งเหอ ความจริงได้ปรากฏต่อหน้าทุกคนแล้ว คุณเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แล้วล่ะ มีอะไรจะพูดอีกมั้ย?” ผู้ตัดสินอาวุโสถามเมิ่งเหออย่างเย็นชา

“มันเป็นไปได้ยังไงกัน? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?” เมิ่งเหอเดินไปเดินมาเป็นวงกลมราวกับเสียสติไปแล้ว

“ตอนนี้ฉันขอประกาศว่าผู้ที่ชนะเลิศงานของสมาคมนักกลั่นยาในครั้งนี้ก็คือ เฉินผิง!” ผู้ตัดสินอาวุโสประกาศเสียงดัง

เมื่อประกาศผลอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้ชมก็ต่างปรบมือแสดงความยินดี

“เรามีดาวดวงใหม่ในโลกของนักกลั่นยาแล้ว!”

“เตาหลอมเสินหนง! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเตากลั่นยาพิเศษแบบนี้”

“ต่อให้มีเตาหลอมเสินหนงเป็นตัวช่วย แต่ฉันคิดว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถกลั่นยาระดับสูงสุดขั้นที่เจ็ดได้โดยใช้เวลาแค่เพียงไม่กี่นาที”

ในตอนนี้ผู้คนต่างพากันชื่นชมเฉินผิง ไร้ซึ่งคำพูดจาดูถูกเย้ยหยันหรือสงสัยในตัวเขาอีกแล้ว

“เมิ่งเหอ ผลการตัดสินก็ได้ออกมาแล้ว ถึงเวลาที่คุณจะต้องทำตามสัญญาแล้วไม่ใช่เหรอ?” เฉินผิงเอ่ยถามเมิ่งเหอ

เมิ่งเหอมองเฉินผิงด้วยสายตาที่เฉื่อยชา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความแข็งขืน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือฝ่ายที่พ่ายแพ้

“เฉินผิง ก่อนหน้านี้ฉันก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น ดังนั้นแกไม่ต้องจริงจังกับคำพูดของฉันก็ได้ นอกจากนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นข้อระบุว่าอนุญาตให้เราวางเดิมพันได้ในระหว่างการแข่งขันในงานของสมาคมนักกลั่นยาสักหน่อย” ไม่มีทางที่เมิ่งเหอจะยอมคุกเข่าต่อหน้าเฉินผิง หรือแม้แต่การยอมเสียเตาหลอมหลิงติ้งของเขาไป

“คุณคิดว่าผมโง่หรือไง?” เฉินผิงหรี่ตาลง

“แล้วถ้าฉันคิดแบบนั้นล่ะ? เราอยู่ในเมืองเจียหลิงนะ แกจะกล้าลงมือกับฉันที่นี่อย่างนั้นเหรอ?” ที่เมิ่งเหอกล้าทำตัวหยิ่งผยองเพราะตามกฎของเมืองเจียหลิงแล้ว ได้มีข้อห้ามมิให้ผู้ใดทำการต่อสู้หรือมีปัญหากันจากเรื่องบาดหมางส่วนตัว

เฉินผิงจึงกำหมัดแน่นเมื่อเห็นท่าทางอันแสนเย่อหยิ่งของเมิ่งเหอ

“กฎของเมืองเจียหลิงไม่อนุญาตให้ผู้ใดก็ตามต่อสู้กันยกเว้นเสียแต่จะต่อสู้กันในสนามประลองเท่านั้น นี่คือเวทีสำหรับจัดการแข่งขันสำหรับนักกลั่นยา ดังนั้นเมื่อพิจารณาแล้วที่แห่งนี้จึงถือว่าเป็นเวทีประลองด้วยเช่นกัน” ผู้ตัดสินอาวุโสพูดขึ้น

ไม่มีสิ่งใดจะชัดเจนไปกว่าความหมายของผู้ตัดสินอาวุโสอีกแล้ว เขาชี้ให้เฉินผิงเห็นว่า เมื่อพวกเขาอยู่ในสนามประลอง เฉินผิงก็ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงข้อห้ามของเมืองเจียหลิง

แม้ไม่ต้องบอก เฉินผิงก็สามารถเข้าใจคำพูดของผู้ตัดสินอาวุโสได้ทันที

ทันทีที่ผู้อาวุโสพูดจบประโยค เฉินผิงก็เหวี่ยงหมัดของเขาออกไปเสียแล้ว

“จงคุกเข่าและเอ่ยคำขอโทษเดี๋ยวนี้!” เฉินผิงออกคำสั่งอย่างเย็นชา

เมิ่งเหอคุกเข่าลงเสียงดังและกล่าวขอโทษเฉินผิงอย่างจริงใจ

“แล้วเตาหลอมหลิงติ้งของคุณล่ะ?” เฉินผิงเอ่ยถาม

“ฉันยอมแล้ว เอามันไปได้เลย ฉันไม่ต้องการมันอีกแล้ว!” เมิ่งเหอไม่อาจทนต่อการโจมตีอย่างทารุณและโหดเหี้ยมของเฉินผิงได้อีก

เมื่อมองดูท่าทางขี้ขลาดของเมิ่งเหอ เฉินผิงก็โบกมือไล่เขาก่อนจะพูดว่า "ไปให้พ้น!"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เมิ่งเหอก็รีบลุกขึ้นเพื่อจากไป แต่จูจูก็ห้ามเขาไว้อย่างรวดเร็ว “เมิ่งเหอ พี่บอกฉันเองไม่ใช่หรือว่าจะพาฉันไปกับพี่ด้วย? เราไปด้วยกันเถอะ"

จูจูรู้ดีว่าถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ต่อไปคงมีแค่เพียงช่วงเวลาที่ยากลำบากเท่านั้นที่รอเธออยู่ เพราะยังไงเสีย สั่วซิงเยว่ก็เริ่มสงสัยในตัวของเธอแล้ว

“ไปไกลๆ เลย! ใครบอกว่าฉันจะไปกับเธอ? ฉันก็แค่โกหก เธอควรส่องกระจกมองดูเงาตัวเองซะบ้างนะ แค่เห็นเธอฉันก็อยากจะอ๊วกแล้ว!” เมิ่งเหอด่าจูจูอย่างรุนแรงก่อนจะผลักเธอจนล้มลงกับพื้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร