หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 2953

ทันใดนั้นเฉินผิงก็รู้สึกตัวสั่นสะท้านแล้วร่างของเขาก็ถูกประกายไฟโอบล้อม

พลังดูดอันมหาศาลที่อุบัติขึ้นลากพวกมันทั้งคู่ขึ้นมาโดยไม่เปิดโอกาสให้พวกมันได้กลับมาควบคุมอีก

เมื่อพวกมันมาถึงดวงดาวอันแสนห่างไกล พลังอันไร้ซึ่งความปรานีก็หยุดยั้งการดูดของมันลงแล้วประกายไฟที่โอบล้อมเฉินผิงก็พุ่งเข้าปะทะกับดวงดาวเอง

ด้วยความช่วยเหลือของอัสนีบาตที่ปะทุผ่านร่างของเฉินผิง ดวงดาวที่เคยเป็นสีทึมเทาก็เริ่มที่จะเปล่งแสงสว่างเจิดจ้า

ในที่สุด มันก็ส่องแสงเจิดจ้าบดบังรัศมีของดาวดวงอื่นๆ ในละแวกข้างเคียง

เกาฉี่เฉียงรู้สึกตกตะลึงกับภาพที่เห็นโดยสิ้นเชิง

“อะไรกันน่ะ? กลายเป็นว่าจุติภูมิครอบคลุมทั้งดาราจักรเลยงั้นรึ? ชักจะเหลวไหลกันไปใหญ่แล้ว” เขาบ่นพึมพำพลางส่ายหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ

ความคิดที่ว่าจุติภูมิของคนผู้หนึ่งสามารถกว้างใหญ่ไพศาลได้พอๆ กับดาราจักรช่างเป็นเรื่องที่เขาไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย

ความยิ่งใหญ่ในจุติภูมิของเฉินผิงบอกเป็นนัยว่าเฉินผิงมีศักยภาพไร้ขีดจำกัด อะไรก็สามารถเกิดขึ้นกับเขาได้ทั้งนั้น

จุติภูมิของเฉินผิงคงจะไม่มีข้อจำกัดแต่อย่างใดจึงทำให้เขาหยั่งรู้และซึมซับจุติรัศมีได้เรื่อยๆ

ผู้บำเพ็ญเพียรบางคนมีความสามารถในการสร้างจุติภูมิ แต่เนื่องจากขนาดอันจำกัดจึงทำให้การหยั่งรู้มีข้อจำกัดทั้งๆ ที่พวกเขาสามารถสัมผัสและซึมซับจุติรัศมีได้ ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องยกระดับความสามารถของตัวเองเพื่อขยายขอบเขตของจุติภูมิ

แต่เฉินผิงไม่เคยประสบพบเจอปัญหาแบบนั้นมาก่อน การหยั่งรู้ที่เขาได้มาในคราวนี้จะคงอยู่ไปชั่วชีวิต เพราะไม่มีจุติภูมิใดที่จะมีขนาดใหญ่ไปกว่าดาราจักรอีกแล้ว

เขาแบมือที่เผยให้เห็นประกายไฟออกมา ดวงดาวที่มีจุติอสนีเริ่มกระพริบวูบหนึ่ง

“คุณเฉิน จุติสัญชานไม่ใช่การเดินเล่นในสวนสาธารณะ นับประสาอะไรกับการควบคุมและปรับปรุงพลังที่หาตัวจับยากด้วยเล่า นับว่าไม่ฉลาดเอาเสียเลยที่จะถลุงจุติอันยากจะพบได้เช่นนี้ เนื่องจากแหล่งเก็บกักของคุณก็ค่อนข้างมีอยู่จำกัด เก็บมันเอาไว้จะมีประโยชน์มากกว่านะ” เกาฉี่เฉียงเอ่ยแนะนำ

สำหรับเฉินผิงแล้ว การทำความเข้าใจถึงความซับซ้อนของจุติภูมิและเอ่ยถึงจุติรัศมีได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เขาไม่ค่อยตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงสักเท่าไหร่ การได้รับจุติแบบนี้ไม่นับว่าเป็นเรื่องท้าทายอะไรนักสำหรับเขาเลย ยกตัวอย่างเช่นคำโบราณที่กล่าวเอาไว้ว่าผู้มั่งคั่งมักจะเข้าใจในตัวผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

เฉินผิงชักจุติรัศมีบนฝ่ามือกลับมาแล้วถามว่า “ยังมีวิธีอื่นเพื่อให้ได้จุติรัศมีอีกหรือเปล่า แบบที่ไม่ต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจกับมันน่ะ?”

เฉินผิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าวิธีสัมผัสรับรู้แบบค่อยเป็นค่อยไปคงต้องใช้เวลามาก ถ้าหากเขาได้รับจุติรัศมีง่ายดายเหมือนการซึมซับพลังวิญญาณผ่านการกินผลวิญญาณกับแก่นอสูร เช่นนั้นเรื่องก็คงจะง่ายขึ้นเยอะโดยไม่ต้องสงสัยเลย