“ย่อมต้องมีอยู่แล้ว ของบางอย่างมีจุติรัศมีแฝงอยู่ในตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น ผลอัสนีสวรรค์ที่คุณกินเข้าไปก็มีจุติอสนีด้วย หากปราศจากมันแล้ว การสัมผัสรับรู้ถึงจุติอสนีก็คงจะเป็นงานที่น่ากลัวมากทีเดียว ในทำนองเดียวกัน สิ่งมีชีวิตอย่างอสูรวิญญาณน้ำแข็งในดินแดนอุดรวิทูรก็มีขีดความสามารถพอที่จะให้คุณหยั่งรู้ถึงจุติน้ำแข็งได้ ด้วยการพิชิตสัตว์อสูรเช่นนั้นและซึมซับแก่นอสูรหรือดื่มเลือดกินเนื้อของพวกมัน ก็มีโอกาสที่คุณจะสัมผัสรับรู้ได้ถึงจุติน้ำแข็ง แต่ก็รับรองผลลัพธ์ไม่ได้ แต่บางครั้งความพยายามที่จะหยั่งรู้ถึงจุติรัศมีต่างๆ ก็ได้มาจากพลังแห่งเจตจำนงอันแรงกล้าเพียงอย่างเดียว พรสวรรค์และพลังที่มีมาแต่กำเนิดของคนผู้หนึ่งเองก็มีบทบาทสำคัญในการตั้งเป้าเช่นนี้เหมือนกัน” เกาฉี่เฉียงอธิบายเรื่องจุติรัศมีของสำนักตัวเองให้เฉินผิงฟัง
เฉินผิงจึงถามว่า “ยังมีหนทางอื่นให้บรรลุเป้าหมายได้อีกหรือเปล่า?”
“อันที่จริงแล้วยังมีวิธีอื่นอยู่ วิธีแรกคือเข้าร่วมรบกับเหล่าสหายผู้บำเพ็ญเพียรที่มีจุติรัศมี ถ้าคุณสามารถทำลายวิญญาณเซียนของพวกเขาได้ จุติรัศมีของคนพวกนั้นก็จะไร้นายและพร้อมจะให้คนอื่นมาซึมซับและหลอมรวม แต่นี่ก็เป็นงานสุ่มเสี่ยง ต่อให้คุณจะทำลายวิญญาณเซียนของผู้บำเพ็ญเพียรได้สำเร็จ แต่จุติรัศมีของพวกเขาก็จะสลายไปอย่างรวดเร็ว เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีของวิเศษที่สามารถหยุดยั้งการสลายตัวได้เป็นการชั่วคราวซึ่งจะช่วยให้ซึมซับได้ว่องไว”
หลังจากหยุดชะงักไปสักครู่ เขาก็พูดต่อไปว่า “ส่วนอีกวิธีก็คือเสี่ยงอันตรายเข้าไปในสนามรบโบราณ ระหว่างศึกแห่งทวยเทพมีสนามรบแบบนั้นอีกนับไม่ถ้วนทำให้มีผู้บำเพ็ญเพียรต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก ในสถานที่บางแห่ง เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมและภูมิศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร จุติรัศมีของผู้บำเพ็ญเพียรเหล่านี้ก็จะมารวมตัวกันแทนที่จะกระจัดพลัดพรายออกไปและพวกมันก็ยังคงไร้นายอยู่ แต่การค้นหาตำแหน่งที่ตั้งก็มีความท้าทายมากเกินไป ต่อให้มีผู้ที่สามารถหาพวกมันเจอ ทว่าจุติรัศมีที่ไร้นายก็มีความก้าวร้าวและมีเจตนามุ่งร้ายโดยกมลสันดาน หากไม่แข็งแกร่งมากพอ การซึมซับและหล่อหลอมจุติรัศมีไม่เพียงแต่จะเป็นงานที่น่ากลัว แต่อาจจะนำไปสู่หายนะอีกด้วย จุติรัศมีทั้งล้ำค่าและใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ หรอกนะ”
เกาฉี่เฉียงอยากให้เฉินผิงรู้ว่าจุติรัศมีหายากแค่ไหน เพื่อให้เฉินผิงเห็นคุณค่าของมัน
“อ่า ผมเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าการที่จะได้จุติรัศมีอันยากที่จะเข้าใจพวกนั้นมาค่อนข้างท้าทายมากทีเดียว ต่อให้คนผู้นั้นจะบรรลุถึงระดับผู้ทุกข์ยากแล้วก็ปรากฏว่าการบรรลุเป็นเซียนก็ยังเป็นเรื่องน่ากลัวอยู่ดี”
เฉินผิงคิดว่าเมื่อกลายเป็นผู้บำเพ็ญเพียรระดับผู้ทุกข์ยากแล้ว ก็จะสามารถเลื่อนระดับพลังฝึกบำเพ็ญฌานได้ทีละขั้นจนบรรลุเป็นเซียนในที่สุด
แต่ความเป็นจริงกลับละเลงให้ภาพต่างออกไป เส้นทางสู่เป้าหมายของเขาดูเหมือนจะต้องใช้เวลายาวนานและต้องใช้ความเพียรพยายามอันแน่วแน่
เฉินผิงกับเกาฉี่เฉียงเบี่ยงประเด็นจากจุติภูมิของเฉินผิงกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...