เฉินผิงมองดูกลุ่มดาวจุติเพลิงที่กำลังส่องแสงระยิบระยับ เขาใจเต้นด้วยความปีติยินดี
ยามนี้ต่อให้เขาจะซึมซับเพลิงปีศาจของมารตนอื่นๆ ไม่ได้และได้แต่ใช้ทรัพยากรธาตุไฟทั้งหลายมาฝึกบำเพ็ญฌาน แต่จุติเพลิงกับเพลิงปีศาจภายในตัวเขาก็ยังเลท่อนระดับขั้น
เพลิงปีศาจของเฉินผิงเป็นแบบที่บริสุทธิ์มากที่สุดซึ่งสืบทอดมาจากเผ่ามาร แม้เขาจะซึมซับและหล่อหลอมเพลิงปีศาจของมารนรกทั่วๆ ไป แต่เขาก็ไม่สามารถผสานพวกมันเข้ากับเพลิงปีศาจที่บริสุทธิ์ที่สุดในตัวเขาได้
ตอนนี้เฉินผิงได้ครอบครองจุติเพลิงแล้ว เขาจึงไม่จำเป็นต้องค้นหาเพลิงปีศาจมาหล่อหลอมอีก ขอเพียงเขายังคงสัมผัสรับรู้ถึงจุติเพลิงเพิ่มเติมได้ เพลิงปีศาจของเขาก็จะเริ่มแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“คุณเฉิน ดูเหมือนว่าจุติเพลิงของคุณจะแข็งแกร่งกว่าเพลิงปีศาจบริสุทธิ์เสียอีกนะ! ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่หลังจากบรรลุถึงระดับวิบัติแล้ว คุณจะสัมผัสรับรู้ถึงจุติได้ เคล็ดวิชานี้ช่างน่าสะพรึงกลัวเสียยิ่งกว่าก่อนที่จะถึงระดับวิบัตินัก! คุณเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเพียรระดับกึ่งเซียนเท่านั้น แต่กลับครอบครองจุติภูมิและสามารถสัมผัสรับรู้จุติทั้งสองแบบได้ ช่างมหัศจรรย์อะไรอย่างนี้นะ! คุณเฉิน วันหน้าผมขออุทิศชีวิตเพื่อติดตามคุณ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟก็ช่าง”
เจ่อเยี่ยนรู้ว่าจุติเพลิงที่เฉินผิงสัมผัสรับรู้ได้ถึงขั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าเพลิงปีศาจของเผ่ามารนรกเสียด้วยซ้ำไป ช่างน่าเหลือเชื่อนักเชียว
เฉินผิงเองก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะไม่คาดคิดเลยว่าตนเองจะสัมผัสรับรู้ถึงจุติได้เร็วขนาดนั้น ตามที่เกาฉี่เฉียงว่ามานั้น จุติสัญชานมีความยากเย็นอย่างถึงที่สุด
บางคนพยายามมาชั่วชีวิต ยามที่บรรลุถึงระดับวิบัติก็สัมผัสรับรู้ถึงจุติได้เพียงแบบเดียวตามมีตามเกิดเท่านั้น
ผู้ที่สามารถสัมผัสรับรู้ถึงจุติได้ถึงสองสามอย่างจัดว่าเป็นอัจฉริยะ แต่เฉินผิงที่เป็นผู้บำเพ็ญเพียรระดับกึ่งเซียนไม่เพียงมีจุติภูมิขนาดกว้างใหญ่ไพศาลพอๆ กับดาราจักรแห่งหนึ่ง แต่เขายังสัมผัสรับรู้ได้ถึงจุติสองอย่างในชั่วเวลาอันสั้นอีกด้วย
นั่นคือผลสำเร็จอันบ้าบอสิ้นดี
ตอนนี้จินซาล่องลอยอยู่กลางอากาศเพราะกำลังรอคอยให้เฉินผิงปรากฏตัว แต่เมื่อเขาสัมผัสรับรู้ได้ถึงพลังมหาศาลที่กำลังพุ่งออกมาจากพื้นดิน กลับมีสีหน้าประหลาดใจอยู่บ้าง
เงาร่างของเฉินผิงค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินจนกระทั่งยืนอยู่บนพื้น
จินซาก็มองเฉินผิงพลางขมวดคิ้ว “แกทำอะไรอยูใต้ดิน?”
“อย่าบอกฉันนะว่าแกกลืนกินศิลาเพลิงก้อนนั้นลงไปแล้วน่ะ?” จินซาถึงกับใจสั่นระรัว เท่าที่มองดูแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะกลืนกินศิลาเพลิงก้อนนั้นลงไปโต้งๆ เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...