หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 3142

สรุปบท ตอนที่ 3142 แกจัดการฉันไม่ได้หรอก: หัตถ์เทวะราชันมังกร

สรุปตอน ตอนที่ 3142 แกจัดการฉันไม่ได้หรอก – จากเรื่อง หัตถ์เทวะราชันมังกร โดย อาร์ม

ตอน ตอนที่ 3142 แกจัดการฉันไม่ได้หรอก ของนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์เรื่องดัง หัตถ์เทวะราชันมังกร โดยนักเขียน อาร์ม เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเฉินผิงพูดว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขา เกาฉี่หลานก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่าในที่สุดเขาก็ยอมรับเธอแล้ว การที่เธอยืนกรานว่าจะติดตามเขามาจากดินแดนอุดรวิทูรนับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว

“งั้นเจ้าก็มาจากเผ่ามังกรทองนี่เอง ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าจะยโสโอหังถึงเพียงนั้น เมื่อหลายพันปีก่อนข้าสังหารบรรพชนของเจ้าโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว เช่นนั้นอะไรทำให้เจ้าคิดว่าข้าจะจัดการกับเด็กอย่างเจ้าไม่ได้เล่า? วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าแล้วดื่มเลือดกินเนื้อของเจ้าเสียเลย โลหิตและกระดูกของเจ้าเหนือชั้นกว่าของคนอื่นๆ มากมายนักล่ะ!” หลังจากกู่หยาพูดจบก็ตัวสั่นเล็กน้อย

ตู้ม!

ทันใดนั้นปรากฎการณ์แปลกประหลาดก็เริ่มสำแดงขึ้นเบื้องหลังของกู่หยา อาณาบริเวณว่างเปล่าแตกเป็นเสี่ยงๆ และบังเกิดเสียงดังก้องไปทั่วทั้งนภา

ทางด้านหลังของเขามีหอกฉิงเทียนราวกับหยกขาวทั้งแปดสิบเอ็ดเล่มปรากฏขึ้นมา โดยที่หอกพวกนี้ถูกหลอมสร้างขึ้นมาจากกระดูกขาของอสูรพยัคฆ์บรรพกาล

อักขระโบราณบนหอกฉิงเทียนที่ค่อยๆ เปล่งแสงก็ฉายส่องไปยังท้องนภา เมื่อมีหอกฉิงเทียนพวกนี้อยู่ข้างหลังตนเอง กู่หยาก็ดูราวกับเทพเซียนที่เสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน

หอกฉิงเทียนทั้งแปดสิบเอ็ดเล่มส่งเสียงคำรามคล้ายกับพยัคฆ์ ราวกับว่าสัตว์อสูรในตำนานถูกปลุกขึ้นมาเพื่อปลดปล่อยพลังอันไร้ที่สิ้นสุดของพวกมัน!

เมื่อทุกคนสัมผัสได้ถึงพลังจากศัตรูของตนเองที่จู่ๆ ก็ปะทุขึ้นมา พวกเขากลับมีสีหน้าเคร่งเครียด

จี้อวิ๋น จิ้นตงและคนอื่นๆ ต่างล่าถอย ขณะที่จี้เหลียนจ้านกับผู้อาวุโสปีศาจโหมวซานยืนหยัดอยู่เคียงข้างเฉินผิง

พวกเขาทั้งสองคนเริ่มปลุกระดมพลังของตน เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่เฉินผิง

ครืน!

ทันใดนั้นอาณาบริเวณว่างเปล่าก็สั่นสะเทือน จากนั้นหอกฉิงเทียนก็หายไปทันที

เฉินผิงขมวดคิ้วแล้วสะบั้นกระบี่พิฆาตมังกรขนตนไปยังอาณาบริเวณว่างเปล่าตรงหน้าอย่างรุนแรงพลางกล่าวว่า “ถอยไปซะ! ผมจะจัดการกับมันเอง มันไม่นับเป็นอะไรได้นอกเสียจากเสี้ยววิญญาณ ไม่มีอะไรให้ต้องกลัวหรอก!”

ตอนนี้เฉินผิงอยู่ในระดับพลังฝึกบำเพ็ญฌานกึ่งเซียนขั้นแปดชั้นยอด ฉะนั้นเขาจึงอยากจะรู้ว่าตนเองแข็งแกร่งสักแค่ไหน

เมื่อกระบี่นี้ฟาดฟันลงมา ทั่วทั้งอาณาบริเวณว่างเปล่าก็แตกเป็นเสี่ยงๆ หอกฉิงเทียนที่หายไปก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งแล้วปะทะกับแสงดาบเงากระบี่ของเฉินผิงอย่างรุนแรง

แรงระเบิดดังก้องราวกับฟ้าคำรนทำให้ทั่วทั้งหมู่เกาะเล็กๆ เกิดการสั่นสะเทือน

ตู้ม!

เมื่อเฉินผิงพูดจบ ประกายแสงส่องสว่างก็พลันเปล่งออกมาจากหน้าอกและพลังมังกรภายในแก่นมังกรก็เริ่มที่จะปะทุขึ้นมา

พลังสามเผ่าพันธุ์ภายในจุดชีพจรตันเถียนเองก็เริ่มที่จะเปล่งแสงเจิดจ้า จากนั้นพลังอันไม่รู้จักสิ้นสุดเริ่มที่จะแผ่ออกมา

ในขณะเดียวกัน จุติภูมิของเฉินผิงเปิดออกกว้าง ทั้งจุติอสนี จุติเพลิงและจุติมายาเริ่มที่จะส่องแสงเป็นประกาย

ถึงแม้ว่าเฉินผิงจะตอบโต้วาจาเหน็บแนมของกู่หยา แต่เขากลับประเมินขอบเขตขีดความสามารถของกู่หยาไม่ได้เลย นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจปลุกระดมพลังที่มีอยู่ทั้งหมด

ทุกครั้งที่ที่จุติถูกปลุกขึ้นมา พลังของเฉินผิงก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่า

เมื่อทุกคนสัมผัสได้ถึงกระปลุกกระตุ้นของจุติทั้งหลายในร่างของเฉินผิง พวกเขาก็รู้สึกตกตะลึงจนพูดไม่ออก เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ? เฉินผิงอยู่ในระดับกึ่งเซียนเท่านั้นแต่กลับสัมผัสรับรู้ได้ถึงจุติภูมิและถึงขั้นใช้พวกมันได้หลายแบบเชียวเหรอ? เป็นเช่นนี้ไปได้ยังไงกัน? ช่างน่าเหลือเชื่อนัก!

ผู้อาวุโสปีศาจโหมวซานเหม่อมองเฉินผิงพลางอ้าปากค้าง ต่อให้จะอยู่ระดับผู้ทุกข์ยาก ทว่าเขาก็ยังต้องปลุกกระตุ้นจุติภูมิ ขณะที่เฉินผิงซึ่งเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเพียรระดับกึ่งเซียนกลับสามารถทำเช่นนั้นได้ เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้ยังไงกัน?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร