เมื่อออกจากพลับพลาสมบัติ พวกเฉินผิงก็สังเกตเห็นถนนที่อยู่ข้างๆ โดยปกติแล้วสถานที่นี้จะค่อนข้างว่างเปล่า แต่ในขณะนั้นกลับมีชีวิตชีวา
ผู้บำเพ็ญเพียรหลายคนเร่ขายสิ่งของของตนบนถนน ผู้บำเพ็ญเพียรเหล่านั้นมีทั้งมาร มนุษย์ และแม้แต่สมาชิกของเผ่าพันธุ์อสูร
แน่นอนว่ามีผู้ซื้อจำนวนมากอยู่ที่นั่นเช่นกัน เนื่องจากตลาดที่ทั้งสามเผ่าพันธุ์ขายของด้วยกันนั้นหาได้ยาก
ผู้บำเพ็ญเพียรมนุษย์บางคนมีความสนใจในสินค้าของมาร ในขณะที่มารถูกดึงดูดโดยสินค้าที่ขายโดยคนของเผ่าพันธุ์อสูร แผงลอยหลายแห่งมีคนมากมายมารวมตัวรอบๆ
เฉินผิงเดินเล่นรอบๆ สถานที่นั้นกับเพื่อนๆ ของเขาอย่างสำราญใจ
เป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลายที่สุดตั้งแต่ที่เฉินผิงก้าวเข้าสู่อาณาจักรนิรันดร์ โลกนี้จะน่าอยู่ขึ้นมากหากทั้งสามเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกันเช่นนี้ได้ทุกหนแห่ง ถึงกระนั้น ฉันก็รู้ว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ ในโลกมนุษย์มีเพียงมนุษย์เท่านั้น แต่ความขัดแย้งก็ยังเกิดขึ้นที่นั่นทุกๆ วัน ในขณะที่อาณาจักรนิรันดร์มีถึงสามเผ่าพันธุ์
“ต้องใช้เหรียญวิญญาณหนึ่งแสนเหรียญเพื่อซื้อนาฬิกาชำรุดเรือนนี้เหรอ? บ้าหรือเปล่า?”
“พวกอสูรไม่เคยเห็นเงินมาก่อนหรือไง? หนึ่งแสนแลกกับของห่วยๆ ชิ้นนี้เนี่ยนะ?”
“โลภมากเป็นบ้า เขาขอหนึ่งแสนเหรียญสำหรับขยะแบบนี้”
ทันใดนั้น ที่หน้าแผงขายของใกล้หัวมุมก็มีเสียงเย้ยหยันดังขึ้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉินผิงกับพรรคพวกก็เดินเข้าไปหาแผงลอย
ที่นั่นเขาเห็นชายขนปุยคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าแผงซึ่งมีเศษผ้าอยู่บนพื้น ชายคนนั้นเงียบและไม่แสดงสีหน้าใดๆ แม้จะถูกฝูงชนเยาะเย้ยก็ตาม
สิ่งที่อยู่บนเศษผ้าของเขาคือของที่ดูธรรมดาหลายสิบชิ้น หนึ่งในนั้นดูคล้ายกับนาฬิกาซึ่งปล่อยพลังวิญญาณออกมา
ฝูงชนน่าจะล้อเลียนเขาเพราะของชิ้นนั้น
ทันใดนั้น ผู้บำเพ็ญเพียรคนหนึ่งก็หยิบนาฬิกางี่เง่าเรือนนั้นขึ้นมาแล้วถามว่า “นี่ คุณจะขายนาฬิกาเรือนนี้ในราคาหนึ่งหมื่นเหรียญวิญญาณไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...