หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 3455

ในเวลาเดียวกัน โจวฉีพาคนของเขาเข้าสู่วงแหวนอาคม เมื่อกลไกป้องกันของวงแหวนอาคมถูกกระตุ้น ในตอนที่หลายๆ คนกำลังจะถูกวงแหวนอาคมซัดกระเด็น ทันใดนั้นมันก็หายไป

โจวฉีรู้สึกสับสนอย่างมาก กระนั้นทุกคนก็คิดว่าเป็นฝีมือของเขา

“นายท่าน วงแหวนอาคมถูกทำลายแล้ว เราเข้าไปได้แล้ว” โจวฉีอุทาน

เมื่อเห็นว่าโจวฉีมีฝีมือไม่ใช่น้อย ฉีเป่ยเจี๋ยก็พยักหน้ารับรู้และเริ่มมุ่งหน้าไปยังยอดเขาเช่นกัน

ยอดเขาถูกล้อมรอบด้วยหมอกสวรรค์

ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือสัตว์อสูร ดูเหมือนว่าทุกสิ่งจะมีจิตวิญญาณของตนเอง

เฉินผิงเดินไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวังยิ่งยวด เพราะเขาไม่แน่ใจว่าจะมีวงแหวนอาคมอยู่รอบๆ ยอดเขาอีกหรือไม่

“คุณเฉิงปู้ฉี เราลำบากมากกว่าจะเข้ามาได้ ถ้าเราไม่ได้สมบัติแม้แต่ชิ้นเดียวจะไม่เป็นการเสียเที่ยวหรือ?” ระหว่างเดินทาง ฝูเล่ยถามเฉิงปู้ฉีด้วยความสับสน

เฉิงปู้ฉีเหลือบมองฝูเล่ยแล้วพูดว่า “คุณนี่หัวช้าจริง ถ้าเราไม่เอาสมบัติไป มันอาจทำให้คุณเฉินรู้สึกติดค้างเรา ยิ่งไปกว่านั้น ในเมื่อคุณเฉินเก่งเรื่องวงแหวนอาคม แม้แต่คำชี้แนะทั่วๆ ไปของเขาย่อมเป็นประโยชน์ต่อตระกูลเราอย่างมาก แบบนั้นดีกว่าสมบัติอีกไม่ใช่หรือ? อีกอย่าง ดูจากความองอาจของคุณเฉินแล้ว... หากเขาได้แต่งงานกับลูกสาวของผม ทั้งวงแหวนอาคม ทั้งเครื่องรางและมนต์คาถาของตระกูลเฉิงจะเป็นที่หนึ่งในอาณาจักรนิรันดร์…”

ปรากฎว่าเฉิงปู้ฉีตั้งใจจะคลุมถุงชนลูกสาวของเขากับเฉินผิง เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยอมที่จะสละส่วนแบ่งสมบัติของเขา โดยมอบทั้งหมดให้กับเฉินผิง

ฝูเล่ยกล่าว “คุณเฉิงปู้ฉี ดูเหมือนว่าคุณเฉินจะมีผู้หญิงอยู่ข้างกายแล้ว ดูจากสายตาที่หญิงสาวสองคนนั้นมองเขา ดูก็รู้ว่าพวกเธอหลงรักเขา คุณกำลังขอให้คุณหนูเฉิง...”

ก่อนที่ฝูเล่ยจะพูดจบ เฉิงปู้ฉีก็ขัดจังหวะด้วยเสียงหัวเราะ “มันก็เรื่องปกติไม่ใช่หรือที่ผู้ชายจะมีภรรยาและหญิงข้างกายหลายคน? ยิ่งไปกว่านั้น ดูจากความสามารถของคุณเฉินแล้ว ตราบใดที่เขาไม่รังเกียจ ลูกผมก็คงไม่ว่าอะไร แม้จะต้องเป็นหญิงข้างกายคนที่สามหรือสี่ของเขาก็ตาม”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฝูเล่ยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาได้แต่มองดูเฉิงเจียฮุ่ยที่ยังคงไม่รู้อะไรเลย

เฉิงปู้ฉียังไม่รู้ว่าผู้หญิงของเฉินผิงไม่ได้มีแค่สองคนนี้เท่านั้น

หากเฉิงเจียฮุ่ยลงเอยกับเฉินผิงจริงๆ การที่เธอต้องเป็นภรรยาคนที่สามหรือสี่ก็คงไม่เป็นปัญหา เธออาจจะได้เป็นภรรยาคนที่สิบหรือเกือบจะสิบก็ได้

หลังจากพูดจบ เฉินผิงก็ท่องคาถาสงบจิต จากนั้นจึงส่งกระแสรัศมีเข้าสู่ร่างกายของคนตระกูลเฉิง

ไม่นานนัก คนเหล่านั้นก็เลิกกรีดร้องอย่างเจ็บปวด จากนั้นพวกเขาก็ลุกขึ้นพร้อมทำหน้าฉงน ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน

“เกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณ?” เฉิงปู้ฉีถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

สมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเฉิงกล่าวว่า “นายท่าน เมื่อครู่นี้ฉันรู้สึกคันทั่วร่างกายจนทนไม่ไหว ราวกับว่าตัวฉันเต็มไปด้วยแมลงพิษ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังให้ความรู้สึกราวกับว่าฉันถูกรายล้อมไปด้วยไฟนรกลุกโชน ความร้อนนั้นรุนแรงมาก”

“อันที่จริง เราก็รู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน...” คนอื่นๆ พยักหน้าเห็นด้วย แต่ละคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน

“แปลกจริง ถ้ามันคือวงแหวนลวงตา เราทุกคนก็ควรจะโดนกันถ้วนหน้า ทำไมบางคนถึงไม่ได้รับผลกระทบ ในขณะที่บางคนโดนเต็มๆ? ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่รู้สึกถึงวงแหวนอาคมในบริเวณใกล้เคียงเลย ดังนั้นไม่น่าจะเป็นวงแหวนลวงตา” ฝูเล่ยรู้สึกสับสนไปหมด

“ตรงนี้ไม่มีวงแหวนลวงตาหรอก และพวกเขาก็ไม่ได้ถูกวงแหวนลวงตาเล่นงานด้วย” หลังจากเฉินผิงพูดจบ เขาก็เดินไปหาสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลเฉิง