เฉินผิงหยิบหนังสือโบราณเล่มนั้นมาดู เขาพบว่ามันมีคาถาเครื่องรางอยู่จริง โดยเฉพาะคาถาของสำนักผนึกสวรรค์ นี่เป็นเพราะว่าเฉินผิงได้รับคำสอนที่แท้จริงของสำนักผนึกสวรรค์ ย้อนกลับไปในตอนนั้น ภายในซากปรักหักพังโบราณเฉินผิงมีโอกาสได้เห็นความรุ่งโรจน์ของสำนักผนึกสวรรค์ด้วย
เฉินผิงไม่เข้าใจเลย บันทึกคาถาเครื่องรางของสำนักผนึกสวรรค์มาอยู่ที่อาณาจักรนิรันดร์ได้ยังไง? แล้วที่เฉิงปู้ฉีอ้างว่าตัวเองเป็นผู้สืบทอดที่แท้จริงของสำนักผนึกสวรรค์ล่ะ? ทั้งหมดนี้มันเรื่องอะไรกัน?
เฉินผิงคืนหนังสือโบราณให้เฉิงปู้ฉีและถามว่า “คุณเฉิงปู้ฉี คุณรู้จักสำนักผนึกสวรรค์ไหม?”
“รู้จักสิ สำนักผนึกสวรรค์เป็นสำนักใหญ่สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านคาถาเครื่องรางเมื่อหลายพันปีก่อน อย่างไรก็ตาม หลังศึกแห่งทวยเทพสำนักก็ถูกทำลาย แต่แล้วคาถาเครื่องรางบางส่วนจากสำนักผนึกสวรรค์ก็ได้รับการสืบทอดต่อกันมา ว่ากันว่าเครื่องรางที่ตระกูลเฉิงใช้มาจากสำนักผนึกสวรรค์ จึงถือได้ว่าตระกูลของเราเป็นทายาทสำนักผนึกสวรรค์ แม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันก็ตาม ตอนนี้เรามีหนังสือโบราณของสำนักผนึกสวรรค์เล่มนี้แล้ว ตระกูลของเราจึงกลายเป็นผู้สืบทอดของสำนักผนึกสวรรค์อย่างแท้จริง” ใบหน้าของเฉิงปู้ฉีเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อย
เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉิงปู้ฉี เฉินผิงก็เข้าใจอะไรบางอย่าง สำนักผนึกสวรรค์น่าจะเป็นสำนักในอาณาจักรแดนสรวงซึ่งล่มสลายระหว่างศึกแห่งทวยเทพ
ตอนอยู่ที่โลกมนุษย์ ซากปรักหักพังของสำนักผนึกสวรรค์ที่เฉินผิงตามหูหม่าซือเข้าไปดูเหมือนจะเป็นอาคมเคลื่อนย้ายมากกว่า โดยสามารถเคลื่อนย้ายจากโลกมนุษย์ไปยังสำนักผนึกสวรรค์
ดูจากคำพูดของประมุขสำนักผนึกสวรรค์ เฉินผิงก็พอเดาได้ว่าสำนักผนึกสวรรค์ไม่ใช่สำนักจากโลกมนุษย์
ท้ายที่สุดแล้ว ในวันที่ประมุขสำนักผนึกสวรรค์เห็นหุ่นเชิดผีดิบของมารโลหิต เขาก็จำมันได้ทันทีและยังปั่นหัวมันเล่นอยู่พักหนึ่ง
แสดงให้เห็นว่าสถานะของสำนักผนึกสวรรค์ไม่ได้ต่ำอย่างแน่นอน
ผู้อาวุโสของหูหม่าซือในสมาคมเทียนซือเคยเป็นศิษย์รุ่นน้องของสำนักผนึกสวรรค์ในตอนที่เขายังหนุ่ม ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความแข็งแกร่งอันน่าเกรงขามของสำนักผนึกสวรรค์
แน่นอนว่าเฉิงปู้ฉีรู้สึกตื่นเต้นเมื่อเขาเห็นคาถาเครื่องรางที่สำนักผนึกสวรรค์บันทึกไว้ เขารู้สึกตื้นตันใจมากจนเขาทั้งค้อมหัวด้วยความเคารพและหัวเราะอย่างสุขใจ
แต่ถ้าเฉิงปู้ฉีพบว่าคาถาเครื่องรางทั้งหมดของสำนักผนึกสวรรค์ถูกเก็บไว้ในจิตของเฉินผิง ก็คงไม่อาจนึกภาพได้เลยว่าเขาจะทำหน้ายังไง
“คุณเฉิงปู้ฉี แม้ว่าคุณจะได้รับคาถาเครื่องรางเหล่านี้มา แต่ก็ไม่รับประกันว่าคุณจะสามารถใช้มันได้ คาถาเครื่องรางขั้นสูงแบบนี้จำเป็นต้องสยบวิญญาณเวทย์เสียก่อน ดังนั้นอย่าเพิ่งดีใจเร็วเกินไป…” เฉินผิงคิดว่าคำพูดของเขาคงทำเอาเฉิงปู้ฉีห่อเหี่ยว
เฉินผิงหัวเราะเบา ๆ แต่ไม่ได้พูดต่อ คาถาเครื่องรางของอาณาจักรนิรันดร์เหือดแห้งร่อยหรอ เมื่อตอนนี้ตระกูลเฉิงได้รับคาถาเครื่องรางของสำนักผนึกสวรรค์มาแล้ว พวกเขาย่อมคุยโตได้ตามสะดวก
เขาไม่นึกว่าฉีเป่ยเจี๋ยจะไล่ล่าเขาสุดชีวิตขนาดนี้ ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่จะกัดไม่ยอมปล่อย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...