หลังจากผ่านการต่อสู้กับฉีเป่ยเจี๋ย เฉินผิงก็เหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก หากต้องต่อสู้กับหนิงจื้อในตอนนี้ เขาก็คงสามารถต้านทานได้แค่เพียงไม่กี่ยกเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อเขาคิดที่จะลงมือ เขาจึงนำเอาอาวุธที่ทรงพลังที่สุดออกมาซึ่งนั่นก็คือธนูศักดิ์สิทธิ์
เมื่อธนูศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัว รัศมีพลังอันรุนแรงของมันก็แผ่ขยายไปทั่วทั้งถ้ำ
หนิงจื้อขมวดคิ้วเป็นปมแน่นขณะมองธนูศักดิ์สิทธิ์ในมือของเฉินผิง เขาตระหนักถึงพลังของธนูศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างดีว่ามันช่างน่าเกรงขามเพียงใด
ยิ่งไปกว่านั้น หากทั้งสองต่อสู้กันภายในถ้ำแห่งนี้ มันอาจทำให้ทั้งถ้ำเกิดการถล่มลงมาได้ อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วยผนึกสะกดมากมาย หนิงจื้อที่ยังคงครุ่นคิดหาวิธีที่จะฝ่ามันออกไป หากมีการต่อสู้เกิดขึ้น ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกทำร้ายจากผนึกสะกดเหล่านั้น
“เฉินผิง ถ้ำบนภูเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยผนึกสะกดมากมาย ถ้าพวกเราต่อสู้กัน ก็มีโอกาสที่เราทั้งคู่จะได้รับบาดเจ็บ สุดท้ายแล้ว เราทั้งคู่ก็จะถูกฝังอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าแกเข้ามาในนี้ทำไม แต่พวกเราทั้งสองคนจำเป็นต้องพึ่งพาความสามารถของกันและกันเพื่อฝ่าด่านผนึกสะกดนี้ไป เอาเป็นว่าเราค่อยมาตัดสินแพ้ชนะหลังจากที่ออกจากถ้ำนี้ได้จะไม่ดีกว่าเหรอ?”
หนิงจื้อรู้สึกกลัวเล็กน้อย เขาต้องใช้ความอดทนมากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เพียงแค่เขาได้ศิลาเทียนโหมวมาและฟื้นฟูร่างกายของเขาเท่านั้น เขาก็สามารถขึ้นสู่ระดับมหายานได้
การเป็นผู้ฝึกบำเพ็ญฌานระดับมหายานนั้นเป็นความสำเร็จที่เขาไม่กล้านึกฝันมาก่อน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หนิงจื้อจึงไม่ต้องการเสี่ยงที่จะสูญเสียทุกอย่างในการต่อสู้กับเฉินผิงอย่างแน่นอน
“ตกลง เราจะรอจนกว่าออกไปข้างนอกได้แล้วค่อยต่อสู้กัน” เฉินผิงกล่าวพร้อมเก็บธนูศักดิ์สิทธิ์ลง
อันที่จริงแล้วเฉินผิงเองก็ไม่อยากต่อสู้เช่นกัน เขาใช้ประโยชน์จากธนูศักดิ์สิทธิ์เพียงเพื่อข่มขู่หนิงจื้อและช่วยขัดขวางไม่ให้อีกฝ่ายต้องลงมือเท่านั้น
หากตอนนั้นหนิงจื้อเลือกที่จะลงมือ เฉินผิงก็คงไม่สามารถต้านทานได้นานนักแม้จะใช้ธนูศักดิ์สิทธิ์แล้วก็ตาม เนื่องจากเขาอ่อนแรงลงไปมาก
เมื่อเห็นเฉินผิงเก็บธนูศักดิ์สิทธิ์ลง หนิงจื้อก็หันความสนใจไปที่ผนึกสะกดเหล่านั้นอีกครั้ง
ตอนนี้เขาสามารถฝ่าทะลุผ่านไปยังตำแหน่งตรงกลางได้แล้ว ตราบใดที่เขาสามารถจัดการกับผนึกสะกดได้อีกไม่กี่ด่าน เขาก็จะสามารถมองเห็นคัมภีร์เคล็ดวิชาลับแห่งการฝึกบำเพ็ญฌานของสำนักเทียนโหมวได้
เมื่อเขาได้คัมภีร์เคล็ดวิชาลับมาแล้ว หนิงจื้อก็จะสามารถนำมันไปแลกเปลี่ยนกับศิลาเทียนโหมวเพื่อฟื้นฟูร่างกายของเขาได้
หนิงจื้อมองดูเส้นไหมจำนวนมากมายที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างระมัดระวัง ก่อนที่เขาจะเดินหน้าต่อไปด้วยความไม่ประมาท
เมื่อเห็นท่าทางที่รอบคอบของหนิงจื้อ รอยยิ้มแสนเย็นชาก็ปรากฏที่มุมปากของเฉินผิง ทันใดนั้น แสงสีทองก็พวยพุ่งออกมารอบตัวของเฉินผิง เขาเดินตรงไปข้างหน้าโดยไม่สนใจเส้นด้ายเหล่านั้นแม้แต่น้อย
เฉินผิงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แซงหน้าและขึ้นนำหนิงจื้อในทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...