ในขณะเดียวกัน ณ มุมหนึ่งของลานบ้านภายในสำนักเซียนเฟิง เจิ้งเจี้ยนกำลังสนทนากับชายคนหนึ่ง ชายคนนี้มีถุงผ้าห้อยอยู่ที่เอว และภายในนั้นมีวิญญาณของเจ่อเยี่ยนที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด
ชายผู้นี้คือมู่ขุ่ย ด้วยความมุ่งหวังที่จะพัฒนาการฝึกบำเพ็ญฌานของตนเองอย่างรวดเร็ว เขาจึงออกเดินทางไปทั่วทุกสารทิศเพื่อตามล่าผู้ฝึกวิชามารเชื่อสายมารอเวจี ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ฝึกบำเพ็ญฌานเหล่านี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้รักสันโดษ น้อยคนนักที่จะสนใจไยดีพวกเขา
มู่ขุ่ยกล่าวด้วยความตื่นเต้นอย่างมากว่า “สหายเต๋าเจิ้ง ต้องขอบคุณคุณจริงๆ ผมไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับผู้ฝึกวิชามารพร้อมด้วยเพลิงปีศาจในสำนักเซียนเฟิง ดูท่าแล้วผมคงถึงเวลาที่จะได้บรรลุเข้าสู่ระดับผู้ทุกข์ยากขั้นที่แปดเสียที ไว้ผมทำสำเร็จเมื่อไหร่ ผมจะกลับไปและแสดงให้พ่อเห็นว่า ต่อให้ผมเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง ผมก็ยังสามารถยกระดับความสามารถของตัวเองได้”
“คุณชายมู่ การขอบคุณซึ่งกันและกันในความสัมพันธ์ของเรานั้น มันออกจะดูฟุ่มเฟือยเกินไปสักหน่อย ว่ามั้ย? เราทั้งคู่ต่างได้ประโยชน์จากการร่วมมือนี้ คุณก็ได้รับทรัพยากรสำหรับการฝึกของคุณ ในขณะที่ผมก็ได้กำจัดคู่แข่งทางด้านความรัก มันผู้ใดที่กล้าแย่งความรักไปจากเจียงอวี้เหลียนของผม มันผู้นั้นเท่ากับรนหาที่ตาย”
เมื่อเจิ้งเจี้ยนพูดจบ สายตาของเขาก็จับจ้องถุงผ้าที่อยู่รอบเอวของมู่ขุ่ย
หากไม่ใช่เพราะมู่ขุ่ยต้องการวิญญาณของเจ่อเยี่ยน เจิ้งเจี้ยนคงเต็มใจที่จะทรมานวิญญาณของเจ่อเยี่ยนให้ตายลงเสียตรงนั้น
ตลอดการเดินทางที่ผ่านมา เจิ้งเจี้ยนไม่อาจทนดูได้อีกต่อไป เพราะเจ่อเยี่ยนแสดงความรักต่อเจียงอวี้เหลียนอยู่ตลอดเวลา
“ฮ่าฮ่า! แม้แต่ผู้เก่งกล้าก็ไม่อาจต้านทานต่อความงามของสตรีได้! ส่วนตอนนี้ สหายเต๋าเจิ้ง คุณก็สามารถไล่ตามผู้หญิงที่คุณรักได้โดยไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว” มู่ขุ่ยตบที่ไหล่ของเจิ้งเจี้ยนเบาๆ พร้อมหัวเราะออกมาเสียงดัง
เจิ้งเจี้ยนก็เริ่มหัวเราะเช่นกัน แต่ความสุขของเขานั้นอยู่ได้ไม่นาน คิ้วของเขาขมวดลงทันทีก่อนจะพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ไม่ดีแล้ว อาจารย์ของผมและผู้ติดตามของเขาจะต้องมาถึงแล้ว จะให้เขารู้ไม่ได้ว่าพวกเราเคยพบกันนะคุณชายมู่ และอย่าได้พูดไปเป็นอันขาดว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความคิดของผม”
ทันทีที่พูดจบ เจิ้งเจี้ยนก็กระโดดหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อเห็นดังนั้น มู่ขุ่ยก็เตรียมพร้อมจะจากไปเช่นกัน แต่ทันใดนั้น ก็มีคนผลักประตูลานบ้านเข้ามา
เซี่ยซิ่งเซียเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม ทันทีที่เห็นมู่ขุ่ย เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “คุณชายมู่ เป็นคุณนี่เองที่มาก่อความวุ่นวายในสำนักเซียนเฟิง และถึงขนาดจับเอาวิญญาณของผู้อื่นไปอีกด้วย คุณไม่มีความเคารพต่อสำนักสำนักเซียนเฟิงเลยอย่างนั้นรึ?”
“คุณเซี่ย คุณพูดเรื่องอะไร? ผมไม่เห็นเข้าใจเลย!” มู่ขุ่ยทำไขสือและเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่รู้ แต่ในระหว่างนั้น เขาได้ทำการแอบซ่อนถุงผ้าของเขาเอาไว้ที่ด้านหลัง
เฉินผิงสังเกตเห็นท่าทีอันแยบยลของมู่ขุ่ยนานแล้ว อีกทั้งเขายังตรวจพบรัศมีพลังของเจ่อเยี่ยนแล้ว “ปล่อยวิญญาณเพื่อนของผมเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นคุณจะต้องตาย...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...