เมื่อเฉินผิงได้ยินคำพูดของจ้าวมารสีชาด สีหน้าของเขาก็ยิ่งทวีความสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าภาพเขียนม้วนนี้มีเจตนาเพื่อปิดผนึกอะไรสักอย่าง ทำไมถึงไร้วี่แววของพลังวิญญาณเล่า? ภาพเขียนแบบนี้จะหยุดยั้งมารที่ปรากฎตัวในเรือนของศิษย์ทั่วไปได้อย่างไรกัน? เรื่องนี้ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ว่ากันตามหลักเหตุผลแล้ว ควรจะเก็บเจ้าสิ่งนี้เอาไว้ในห้องที่ปลอดภัยที่สุดในสำนัก!
ถึงแม้ว่าเฉินผิงจะไม่ได้พูดอะไร แต่จ้าวมารสีชาดก็เข้าใจคำถามที่เฉินผิงไม่ได้พูดออกมา
“ข้าสงสัยว่าสาเหตุที่ทำให้ภาพเขียนม้วนนี้ไม่ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาเลย ก็เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครตรวจพบ แน่นอนว่าย่อมต้องมีคนที่คิดจะช่วยผู้ที่ถูกภาพเขียนม้วนนี้ผนึกเอาไว้ นั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้สำนักเซียนอู๋จี๋สร้างให้ภาพเขียนม้วนนี้ไร้ซึ่งความผันแปรของพลังวิญญาณ ทำให้ยากที่ใครก็ตามจะหาภาพเขียนที่ไร้ซึ่งความผันแปรของพลังวิญญาณใดๆ การที่มันอาจจะเป็นวัตถุผนึก ทั้งยังอยู่ในห้องของศิษย์ทั่วไปน่าจะมีเจตนาเพื่อให้คนอื่นเข้าใจผิด คนนอกย่อมไม่มีทางสงสัยว่าของสำคัญเช่นนั้นจะเก็บอยู่ในห้องของศิษย์ทั่วไป บางทีการล่มสลายของสำนักเซียนอู๋จี๋อาจจะเกี่ยวข้องกับคนในภาพเขียนก็เป็นได้...” จ้าวมารสีชาดวิเคราะห์สถานการณ์ แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจเป็นพิเศษนัก สิ่งที่เขาทำได้ก็คือการคาดคะเนเท่านั้น
“ใครเป็นผู้ที่ผนึกคนผู้นี้เอาไว้ในภาพเขียน จนทำให้สำนักใหญ่เช่นนั้นต้องรู้สึกกระวนกระวายใจกันแน่?” เฉินผิงค่อนข้างสับสน แต่เขาก็ไม่รู้จักคนในภาพเขียน เพราะฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจเก็บภาพเขียนลงเป็นการชั่วคราว
ในยามนี้เอง โอวหยางเจิ้นฮว๋าและคนอื่นๆ ก็มาถึง พวกเขาเริ่มสำรวจโดยไม่ทันรอให้เฉินผิงได้พูดอะไรสักคำ
ในเมื่อเฉินผิงเข้ามาตรวจสอบแล้ว พวกเขาจึงคิดว่าปลอดภัยดี
ถ้ามีของดี เฉินผิงก็น่าจะได้ไปก่อน พวกเขาได้แต่เก็บส่วนที่เหลือเท่านั้น อย่างไรเสียหากไม่มีเฉินผิง พวกเขาก็คงเข้ามาไม่ได้เสียด้วยซ้ำไป
เฉินผิงยังคงสำรวจเรือนแห่งอื่นๆ ถึงแม้ว่าเรือนสองแห่งแรกจะไม่ได้อะไรมากนัก แต่ก็พบวงแหวนอาคมกับม้วนภาพ ถึงแม้ว่าตอนนี้เฉินผิงจะไม่ได้ใช้พวกมันก็ไม่ได้หมายความว่าวันข้างหน้าจะไม่ใช้สักหน่อย
เฉินผิงพร้อมกับปิงลู่และคนอื่นๆ ต่างเดินลึกเข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งพวกเขาเดินลึกเข้ามาในสำนักมากเท่าไหร่ กลับยิ่งตกตะลึงกับภาพของซากปรักหักพังกับกำแพงที่แตกหักมากขึ้นเท่านั้น ความเสียหายรุนแรงจนถึงขั้นที่ยากจะพบอาคารลานเรือนที่ยังสมบูรณ์อยู่ได้
แต่สิ่งที่ทำให้เฉินผิงแปลกใจอยู่บ้างก็คือ ทั้งๆ ที่เดินลึกเข้ามาในอาณาเขตของสำนัก เขากลับไม่เห็นซากศพสักร่างเดียว
ต่อให้ผ่านไปหลายปีจนร่างเสื่อมสลายไป แต่ก็น่าจะเหลือกระดูกขาวโพลนเอาไว้
แต่กลับไม่พบกระดูกสักท่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...