หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 3861

เฉินผิงที่อยู่อีกด้านหนึ่งใช้ท่าเท้าประกายไฟเพื่อให้หลบหลีกได้ว่องไวอย่างต่อเนื่อง จนดูเหมือนว่าเขาหายตัวไปแล้วปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งจากที่ไหนสักแห่ง

เฉินผิงหลบเลี่ยงพลังโจมตีของมู่ไน่อี๋ได้ทุกครั้งไป

ขณะที่เฉินผิงใช้ท่าเท้าประกายไฟจนถึงขีดจำกัดแล้ว มีเงาร่างนับไม่ถ้วนของเขาปรากฏอยู่กลางอากาศ ภาพทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หลงเหลือจากความว่องไวเกินขนาดของเฉินผิง

มู่ไน่อี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย นางเข้าใจแล้วว่าเฉินผิงไม่ได้ตอบโต้ ทว่ากลับเอาแต่หลบหลีกอย่างสุดกำลังเพื่อให้นางอ่อนแรง

ด้วยเหตุนี้ เมื่อถึงเวลาที่มู่ไน่อี๋ต้องระเบิดพลัง นางย่อมต้องพ่ายแพ้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

“ถ้าเจ้าคิดว่าตนเองสามารถบั่นทอนกำลังของข้าได้ เจ้าก็ฝันหวานเกินไปแล้ว!”

มู่ไน่อี๋มองแผนการของเฉินผิงออกแล้วค่อยๆ ขยับนิ้ว จากนั้นปราณเย็นหากสีสันก็เริ่มแผ่ออกมา

ในขณะเดียวกัน ตรงหว่างคิ้วของมู่ไน่อี๋ก็มีประกายแสงวูบไหว แล้วประกายแสงนี้ก็ลอยขึ้นมาพร้อมพุ่งตรงเข้าไปในปราณเย็น

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เฉินผิงก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ เขาสัมผัสได้ว่าดูเหมือนมู่ไน่อี๋จะถ่ายพลังชีวิตเข้าไปในปราณเย็นที่มีอาณาบริเวณอันกว้างใหญ่ไพศาลตรงหน้า

ด้วยเหตุนี้เอง ผลสะท้อนกลับที่มู่ไน่อี๋ต้องเผชิญจึงไม่ธรรมดาสามัญจนเปล่าประโยชน์ แต่มีความเป็นไปได้มากว่าอาจจะทำให้นางสิ้นชีพทันที

“นางคิดจะพินาศไปพร้อมกับฉันเหรอ?” เฉินผิงส่งเสียงพึมพำลอดไรฟัน พลางปลุกกระตุ้นร่างแท้เกราะทองคำ

พลังมังกรปั่นป่วนอยู่ในอก พลังทั้งหมดของเขารวมตัวกันชั่วขณะ

เมื่อเผชิญกับพลังในระดับมหายานอันน่าเกรงขามของมู่ไน่อี๋ เฉินผิงก็ไม่กล้าชะล่าใจ

“คืนชีพ!”

มู่ไน่อี๋แผดเสียงร้อง แล้วแสงสว่างช่วงโชติกับปราณเย็นหลากสีสันอันตระการตาก็รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ทันใดนั้นเอง ปราณเย็นระลอกหนึ่งก็ระเบิดออกมาแล้วปราณเย็นหลากสีสันแต่ละสายก็รวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง

เพียงแต่ว่าคราวนี้ ปราณเย็นกลับก่อตัวขึ้นเป็นสัตว์ร้าย

แต่ละตนมีรูปร่างแตกต่างกันไป สัตว์ร้ายจำพวกดังกล่าวไม่ใช่สัตว์ที่มีอยู่ในอาณาจักรนิรันดร์

เมื่อสัตว์อสูรปรากฏตัว ทุกคนต่างผงะอึ้งด้วยความตกตะลึง

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากเหล่าบรรพชนตระกูลมู่มาจากอาณาจักรแดนสรวง พวกเขามาเรืองอำนาจที่อาณาจักรนิรันดร์ได้อย่างไรกัน?

หลังจากได้ยินคำอธิบายของจ้าวมารสีชาด เฉินผิงก็พอเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว

แต่ฉันควรจะรับมือกับอสูรปัญจธาตุพวกนี้ยังไงดีล่ะ?

“ผู้อาวุโส พวกเราจะรับมือกับอสูรปัญจธาตุพวกนี้ได้อย่างไรกัน?” เฉินผิงเอ่ยถาม

“อสูรปัญจธาตุมีความสามารถในการแยกร่างและรวมร่าง แต่ละตนมีพลังอันเป็นเอกลักษณ์ที่สอดคล้องกับหนึ่งในห้าธาตุของตนเอง แต่เมื่อพวกมันรวมเข้าด้วยกัน ก็จะเป็นตอนที่พวกมันจะน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง เจ้าต้องพิชิตพวกมันลงทีละตนๆ” จ้าวมารสีชาดตอบ

“พิชิตพวกมันลงทีละตนๆ?” เฉินผิงหัวหมุนเสียแล้ว

ฉันจะพิชิตพวกมันลงทีละตนๆ ได้ยังไงเล่า?

“ผู้อาวุโส เมื่อปะทะกับอสูรปัญจธาตุ อสูรกลืนสวรรค์จะเป็นฝ่ายได้เปรียบหรือเปล่า?”

เฉินผิงนึกถึงอสูรกลืนสวรรค์ขึ้นมาได้

ถ้าหากอสูรกลืนสวรรค์ออกมากลืนกินอสูรปัญจธาตุเข้าไปตรงๆ เลย แบบนั้นก็น่าจะทำให้เรื่องง่ายขึ้นมาก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร