“เจ้าสบประมาทใครกัน?” จ้าวมารสีชาดโกรธจัด “เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงเอาอสูรกลืนสวรรค์ของข้าไปเปรียบเทียบกับอสูรปัญจธาตุ อสูรปัญจธาตุไม่นับเป็นตัวอะไรได้นอกจากสัตว์อสูรธรรมดาสามัญในอาณาจักรแดนสรวง เพียงแค่อสูรกลืนสวรรค์ของข้าจามสักครั้งก็ทำให้อสูรปัญจธาตุสลายกลายเป็นควันได้แล้ว แม้เหล่าบรรพชนตระกูลมู่จะเป็นคนที่มาจากอาณาจักรแดนสรวง แต่พลังของพวกเขาก็ไม่น่าจะแกร่งกล้านักหรอก มิหนำซ้ำพวกเขาน่าจะเป็นส่านเซียนชั้นต่ำอีกต่างหาก แต่ถึงจะเป็นสัตว์อสูรไร้ค่าจากอาณาจักรแดนสรวงเสียเป็นส่วนใหญ่ ก็ใช่ว่าเป็นสิ่งที่เจ้าในยามนี้จะจัดการได้ โชคดีที่อสูรปัญจธาตุพวกนี้เป็นแค่ภาพลวงตา ไม่ใช่ตัวจริงของพวกมัน ดังนั้นเจ้าก็น่าจะจัดการได้ไม่ยากนักหรอก”
เมื่อได้ยินคำพูดของจ้าวมารสีชาด เฉินผิงก็รู้สึกศีรษะลั่นดังอื้ออึง
แม้จะเป็นแค่สัตว์อสูรในอาณาจักรแดนสรวง แต่ก็เป็นผู้แกร่งกล้าแห่งอาณาจักรนิรันดร์
ต่อให้เป็นส่านเซียนชั้นต่ำจากอาณาจักรแดนสรวง ถึงจะได้รับบาดเจ็บ แต่ก็สามารถลงมาจากอาณาจักรนิรันดร์ก็สามารถผลิดอกออกผลจนกลายเป็นตระกูลใหญ่
เพียงแต่ไม่รู้ว่าบรรพชนตระกูลมู่สิ้นชีพไปแล้ว หรือหวนคืนสู่อาณาจักรแดนสรวงกันแน่
ถ้าพวกเขายังมีชีวิตอยู่และอาศัยอยู่ในตระกูลมู่ ถึงตอนนั้นเฉินผิงก็คงได้แต่ปลิดชีพตนเองเท่านั้นแล้ว
ลำพังด้วยพลังของเขาก็ยากที่จะรับมือกับคู่ต่อสู้ในระดับมหายานได้แล้ว นับประสาอะไรกับเรื่องรับมือกับเหล่าทวยเทพแห่งอาณาจักรแดนสรวงด้วยเล่า
ในยามนี้เอง อสูรปัญจธาตุก็เปิดฉากจู่โจมแล้ว
เสาค้ำปฐพีสูงตระหง่านหลายต้นผุดขึ้นบนพื้นดิน แล้วเหวี่ยงใส่เฉินผิงกลางอากาศทันที
ทันใดนั้นเอง กำแพงวารีก็ผุดขึ้นมารอบตัวแล้วล้อมเฉินผิงเอาไว้จนสิ้น
ในขณะเดียวกัน กิ่งก้านสาขาของไม้เถาวัลย์นับไม่ถ้วนกลางอากาศ ก็ราวกับหนวดนับร้อยที่ลดเลี้ยงเข้ามาหาเฉินผิง
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงกับมีเพลิงอัคคีแรงกล้ากระจายไปท่ามกลางเสียงระฆังทองเข้ากลืนกินเฉินผิง
เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น ปิงลู่ก็อดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนออกมาว่า “คุณเฉิน!”
ธิดาเทพทุกนางล้วนหน้าตาเคร่งเครียด พวกนางเองก็สัมผัสได้ว่าสัตว์อสูรที่มู่ไน่อี๋อัญเชิญขึ้นมาล้วนแข็งแกร่งยิ่งนัก
“ข้าไม่เคยเห็นสัตว์อสูรเช่นนี้มาก่อนเลย มีความเป็นไปได้มากว่าจะไม่ใช่ของอาณาจักรนิรันดร์ คราวนี้คุณเฉินตกที่นั่งลำบากเข้าแล้ว หรือว่าเจ้าพวกนี้จะเป็นสัตว์อสูรจากอาณาจักรแดนสรวง? แต่ละตนถึงกับมีธาตุเป็นของตัวเอง ถ้าพวกมันรวมร่างกัน คงจะน่าสะพรึงกลัวมากทีเดียว การที่ผู้บำเพ็ญเพียรในระดับมหายานสามารถอัญเชิญสัตว์อสูรของอาณาจักรแดนสรวงได้ ทำให้ไม่ต้องสงสัยเรื่องผลการต่อสู้ครั้งนี้เลย” เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้น โอวหยางเจิ้นฮว๋าและคนอื่นๆ ก็รู้ว่าเฉินผิงคงจบเห่แล้ว
เมื่อมู่ไน่อี๋เห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยแววโทสะและคับแค้นใจ
เพื่อให้มั่นใจว่าเฉินผิงตายแน่ๆ มู่ไน่อี๋ยอมแลกทุกสิ่งทุกอย่าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...