“อ๊า! พวกเจ้าสมคบคิดกันตั้งตนเป็นศัตรูกับตระกูลมู่ของข้า! ข้าจะสังหารพวกเจ้าให้หมด! พวกเจ้าต้องตายกันให้หมดทุกคน!” มู่ไน่อี๋ไม่คาดคิดว่าโอวหยางเจิ้นฮว๋าจะกล้าเป็นศัตรูกับตระกูลมู่
อย่างไรเสียตระกูลมู่ก็เป็นตระกูลใหญ่ในแดนเหนือ
ตระกูลโอวหยางไม่นับเป็นตัวอะไรนอกเสียจากตระกูลเล็กๆ ที่สร้างหุ่นเชิด นอกเหนือไปจากนั้น โอวหยางเจิ้นฮว๋าที่เป็นประมุขตะกูลก็เป็นแค่ผู้บำเพ็ญเพียรในระดับผู้ทุกข์ยากขั้นเก้า
ดังนั้นมู่ไน่อี๋จึงรู้สึกตกใจที่ตระกูลเล็กๆ เช่นนั้นถึงขั้นบังอาจตั้งตนเป็นศัตรูกับตระกูลมู่ พวกมันไม่ไว้หน้าตระกูลมู่เลยสักนิด!
มู่ไน่อี๋ร้องตะโกนเสียงดังลั่น ผิวพรรณขาวผ่องของนางเริ่มมีโลหิตไหลซึมจนร่างของนางชุ่มโชกไปด้วยโลหิตแดงฉาน แลดูน่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุด
ขณะที่โลหิตไหลซึมออกมา หมอกสีแดงประดุจโลหิตก็โอบล้อมมู่ไน่อี๋เอาไว้อย่างน่าประหลาด
หมอกสีแดงประดุจโลหิตที่แผ่ออกไป พกพากลิ่นคาวโลหิตรุนแรงและปราณเย็นมาด้วย
อาณาบริเวณรอบตัวพวกเขาบิดเบี้ยวภายใต้หมอกสีแดงประดุจโลหิตดังกล่าว
ปราณเย็นหลายระลอกแผ่ออกมาจากร่างของมู่ไน่อี๋ ทำให้อุณหภูมิของอากาศโดยรอบลดฮวบลงทันที อาณาบริเวณภายในรัศมีหลายร้อยไมล์เริ่มที่จะจับตัวเป็นน้ำแข็งไม่ว่างเว้น
ปราณเย็นทำให้ทุกคนตัวสั่นสะท้านแล้วบีบให้พวกเขาต้องถอยร่นอีกครั้ง
เมื่อทุกคนเห็นมู่ไน่อี๋ที่กลายเป็นบางอย่างที่ใกล้เคียงกับสัตว์ประหลาด พวกเขาต่างพูดไม่ออกโดยสิ้นเชิง
แม้แต่มู่เย่าก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก เขาไม่รู้ว่ามู่ไน่อี๋ใช้เคล็ดวิชาแบบไหนถึงกลายสภาพเป็นเช่นนั้นไปเสียได้
“ถอย!” มู่เย่าร้องเรียกคนตระกูลมู่ที่เหลืออีกสองคน แล้วสั่งให้พวกเขาถอยกลับมา
เพราะเขาสัมผัสได้ว่าปราณเย็นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจต้านทานได้ ยิ่งไปกว่านั้น มู่ไน่อี๋ก็ดูเหมือนจะเสียสติไปแล้ว เขาเกรงว่านางอาจจะสังหารพวกเขาได้
หมอกปราณเย็นสีเลือดรอบตัวมู่ไน่อี๋หนาทึบขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน เฉินผิงก็ขมวดคิ้วพร้อมแววตาที่แผ่เจตนาสังหาร
แก่นมังกรบนหน้าอกของเฉินผิงวูบไหว จากนั้นมังกรทองตนหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏตัวข้างหลังเขาพร้อมส่งเสียงคำรามดังหูดับตับไหม้
เสียงกู่ร้องคำรามของมังกรทองดังก้องไปทั่วทั้งสำนักเซียนอู๋จี๋
การที่มังกรทองมีเพลิงอัคคีแผดเผาทั่วร่าง บ่งบอกว่าเฉินผิงที่เลื่อนขึ้นสู่ระดับผู้ทุกข์ยากขั้นสี่ก็เพิ่มพลังให้มังกรทองด้วย
จู่ๆ มังกรทองก็กู่ร้องคำรามพลางพุ่งเข้าใส่มู่ไน่อี๋ ลำตัวของมันพุ่งผ่านอากาศอย่างไร้ร่องรอย เพียงชั่วพริบตาเดียว มันก็มาอยู่ตรงหน้ามู่ไน่อี๋
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...