หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 3865

อสรพิษวิญญาณพวกนั้นถูกฟันขาด แต่กลับไม่มีทางที่จะหยุดยั้งพวกมันได้ เพราะพวกมันจะหลอมรวมเข้าด้วยกันอีกครั้ง

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกมันฆ่าไม่ตายนั่นเอง

เฉินผิงชักจะเริ่มปวดศีรษะเสียแล้ว

“อย่ามัวแต่อาศัยหมอกอันเหน็บหนาวเช่นนี้อยู่เลย ขอเพียงคนที่ร่ายคาถาตายไป หมอกก็จะสลายไปเช่นกัน” จ้าวมารสีชาดเอ่ยปากเตือนสติ

เฉินผิงแววตาเปล่งประกาย จากนั้นเขาก็สำแดงท่าเท้าประกายไฟแล้วเงาร่างของเขาก็หายวับไปทันที

เมื่อเฉินผิงปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาก็อยู่ตรงหน้ามู่ไน่อี๋แล้ว

“ตายเสียเถอะ!” เฉินผิงเหวี่ยงกระบี่ไปทางมู่ไน่อี๋

น่าแปลกที่มู่ไน่อี๋ไม่หลบหลีกหรือถอยหนี แต่นางกลับหัวเราะคลุ้มคลั่งด้วยหน้าตาบิดเบี้ยว “ เจ้าคิดจะสังหารข้ารึ? เพ้อฝันสิ้นดี!”

หลังจากพูดจบ ร่างของมู่ไน่อี๋ก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับว่ากำลังจะระเบิด

ตู้ม!

ร่างของมู่ไน่อี๋ระเบิดเสียงดังสนั่นขึ้นมาทันที หมอกสีแดงประดุจโลหิตอันเย็นเฉียบโอบล้อมเฉินผิงเอาไว้

ในยามนี้ ทุกคนต่างตะลึงงันเพราะไม่เข้าใจสาเหตุที่มู่ไน่อี๋ปลิดชีพตนเอง

แต่เฉินผิงรู้ว่ามู่ไน่อี๋ไม่ได้ปลิดชีพตนเองหรอก แต่อีกฝ่ายผสานรวมเข้ากับหมอกโลหิตต่างหากเล่า

เฉินผิงผลักดันปราณสัมผัสของตนเองจนถึงขีดสุด แต่เขาก็ตรวจหารัศมีพลังของมู่ไน่อี๋ไม่พบ

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เฉินผิงจึงได้แต่ถอยร่นอย่างสุดกำลัง เพราะหวังว่าจะหลีกพ้นจากหมอกอันเหน็บหนาวได้

แต่ดูเหมือนว่าปราณเย็นดังกล่าวที่ตามติดเขาเหมือนเงา ราวกับว่ามีชีวิตเป็นของตัวจึงเข้าโอบล้อมร่างของเฉินผิงทันที

เฉินผิงรู้สึกแต่เพียงว่าการเคลื่อนไหวของเขาเริ่มจะเชื่องช้าลง แล้วร่างของเขาก็แข็งทื่ออยู่บ้าง

“พลังระดับมหายานช่างน่าเกรงขาม ยากเกินจะรับมือไหวนัก...” การเคลื่อนไหวของเฉินผิงชักจะเริ่มช้าลงเรื่อยๆ ร่างของเขาเริ่มที่จะมีน้ำแข็งเกาะ

น้ำแข็งเป็นสีแดงประดุจโลหิตเช่นเดียวกันอย่างน่าประหลาด

ไม่นานนัก เฉินผิงก็ชุ่มโชกไปด้วยโลหิต แต่กลับไม่ใช่โลหิตของเขาเอง

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เช่นนั้นเข้า ปิงลู่กับคนอื่นๆ ต่างรู้สึกกังวลใจยิ่ง

โอวหยางเจิ้นฮว๋ากับเหล่าผู้บำเพ็ญเพียรเองก็มีสีหน้าสิ้นหวังสุดขีด

สีหน้าของมู่ไน่อี๋เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด และมีสีหน้ายุ่งยากใจเพิ่มมากขึ้น

ไม่มีใครรู้ว่าลำแสงสีทองดังกล่าวคืออะไรกันแน่ แม้แต่เฉินผิงเองก็ไม่รู้

ลำแสงสีทองค่อยๆ จางหายไป จากนั้นทุกคนก็เห็นได้ชัดว่ามีแผ่นหยกชิ้นหนึ่งอยู่กลางอากาศ

หลังจากลำแสงสีทองจางหายไปแล้ว แผ่นหยกก็พลันร่วงตกใส่มือของเฉินผิงทันที

เฉินผิงถือแผ่นหยกเอาไว้ในมือ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสนสุดขีด

นั่นคือตราบัญชาอู๋จี๋ที่เจ้าสำนักเซียนอู๋จี๋มอบให้ ซึ่งมีมรดกของสำนักเซียนอู๋จี๋อยู่

เจ้าสิ่งนี้เป็นแค่แผ่นหยกแท้ๆ มันพุ่งออกมาเองได้อย่างไรกัน? ขณะที่เฉินผิงกำลังสับสนอยู่นั้น คำว่า “ตราบัญชาอู๋จี๋” ก็เริ่มเปล่งแสง

แสงสว่างแล่นผ่านตราบัญชาอู๋จี๋ ต่อมาก็ทำให้เกิดพายุปราณอันแกร่งกล้า

สิ่งที่เขาได้ยินคือเสียงลมลมพัดดังอู้ ราวกับพลังทั้งหมดในโลกถูกพายุดังกล่าวสั่นสะเทือนถึงแก่นแท้อย่างไรอย่างนั้น

พายุขนาดมหึมาเริ่มที่จะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง และดูเหมือนพลังดูดอันมหาศาลก็แทบจะกลืนกินทั่วทั้งสำนักเซียนอู๋จี๋ได้อยู่แล้ว

พลังปราณทุกรูปแบบโดนดูดเข้าไปในตราบัญชาอู๋จี๋จนหมด แม้แต่อากาศก็โดนดูดจนบิดเบี้ยว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร