“ส่วนเรื่องนี้...”
เสินจี้จื่อลังเลแล้วผุดยิ้มน้อยๆ ให้เฉินผิง
เฉินผิงพลันเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าเขากำลังขอเงินอยู่
เขาหยิบเหรียญวิญญาณสีทองอมม่วงออกมาแล้วโยนให้เสินจี้จื่อ
เมื่อได้เงินแล้ว เสินจี้จื่อก็ยิ้มด้วยท่าทีตื่นเต้นพลางกล่าวว่า “เจ้าก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าการเดินทางไปแดนขั้วโลกหนนี้เต็มไปด้วยอันตราย? มีหลายคนที่ไม่ได้กลับมาอีก เหล่าศิษย์ชั้นนอกแห่งตำหนักก่วงหานตายไปเกือบหมด ส่วนเหล่าผู้บำเพ็ญเพียรบุรษที่มาพร้อมกับพวกนางก็สิ้นชีพลงเช่นกัน ที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณหนูใหญ่ตระกูลมู่เองก็ต้องจบชีวิตลงในแดนขั้วโลกด้วย”
“แล้วอย่างไรเล่า?” เฉินผิงมองเสินจี้จื่อ
“แล้วอย่างไรงั้นรึ?” เสินจี้จื่อยิ้มพลางกล่าวว่า “การสิ้นชีพของคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่ในแดนขั้วโลกเป็นฝีมือของตำหนักก่วงหาน ควรทราบว่านางเป็นถึงผู้อาวุโสแห่งตำหนักก่วงหานเชียวนะ เดิมทีตำหนักก่วงหานคอยติดตามตระกูลมู่ ทว่ายามนี้แตกหักกันไปแล้ว เช่นนั้นก็มารอดูซิว่าจะมีการแสดงอะไรให้ชมดูกันต่อไป! ตระกูลมู่ย่อมต้องแก้แค้นโดยไม่ต้องสงสัยเลย ประมุขตระกูลมู่น่าจะออกจากด่านเก็บตัวฝึกบำเพ็ญฌานในอีกสองสามวัน ถึงตอนนั้นย่อมต้องเกิดการต่อสู้อันดุเดือดอย่างไม่อาจเลี่ยงได้ข้าขอแนะนำให้เจ้าจากไปแต่โดยเร็วไวและอยู่ให้ห่างๆ จากตำหนักก่วงหานเข้าไว้ เจ้าเองก็มีความแค้นกับตระกูลมู่ ถ้าประมุขตระกูลมู่ออกมาจริงๆ เจ้าอาจจะโชคร้ายเอาได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเหรียญวิญญาณของเจ้าล่ะก็ ข้าคงไม่เล่าเรื่องนี้ให้ฟังหรอกนะ”
“เจ้ารู้เรื่องพวกนี้มาได้ยังไงกัน?” เฉินผิงเอ่ยถามพลางขมวดคิ้ว
“ข้าก็มีแหล่งข่าวของตัวเองสิ มิฉะนั้นเจ้าคิดว่าข้าดำรงชีพอยู่ด้วยอะไรเล่า? ดื่มลมตะวันตกเฉียงเหนือรึไงกัน?”
หลังจากพูดจบ เสินจี้จื่อก็หันหลังจากไปทันที
ตอนนี้เฉินผิงรู้สึกลังเลขึ้นมาแล้ว ถ้าหากเขาจากไปแล้วประมุขตระกูลมู่ออกมาจากด่านเก็บตัวฝึกวิชาจริงๆ จากนั้นก็ยกกำลังพลทั้งตระกูลมาต่อกรกับตำหนักก่วงหาน เขาเชื่อว่าตำหนักก่วงหานคงต้านทานไม่ไหวเป็นแน่
อย่างไรเสียตำหนักก่วงหานก็เพิ่งจะเริ่มก่อตั้งขึ้น และความสูญเสียจากการเดินทางไปแดนขั้วโลกก็มากมายนัก อาศัยเจ้าตำหนักก่วงหานเพียงผู้เดียวย่อมไม่มีทางรับมือไหวแน่
แต่ถ้าหากเขาอยู่ต่อ ลำพังด้วยพลังของเขาในยามนี้ ย่อมไม่ใช่คู่ประมือของประมุขตระกูลมู่
หลังจากครุ่นคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เฉินผิงก็ตัดสินใจว่ากลับไปหุบเขาวิญญาณโลหิตเสียก่อนเป็นดีที่สุด พอไปถึงที่นั่นเขาจะมอบศิลาเทียนโหมวให้แก่มารวายุแล้วรอคอยให้อีกฝ่ายหล่อหลอมร่างกายขึ้นมาใหม่และฟื้นฟูพลังขั้นสูงสุด
เฉินผิงก็ไม่ต้องหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว เขาเชื่อมั่นแน่วแน่ว่ามารวายุย่อมต้องช่วยเขาแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ไม่มีตอน 3867-3871 ครับ...
เกินเดือนละ...
รออยู่นะครับ...
จะลงแดงแล้ว...
หายไปหลายวัน ไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...