หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 4110

สรุปบท ตอนที่ 4110 เด็กอมมือ: หัตถ์เทวะราชันมังกร

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 4110 เด็กอมมือ – หัตถ์เทวะราชันมังกร โดย อาร์ม

บท ตอนที่ 4110 เด็กอมมือ ของ หัตถ์เทวะราชันมังกร ในหมวดนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย อาร์ม อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เหว่ยฉีพยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร โชคดีที่ชายหนุ่มคนนี้ใช้พลังทั้งหมดของเขาไปกับการผสานอักขระอาคม ไม่อย่างนั้นฉันคงได้รับบาดเจ็บแน่นอน ดูเหมือนว่าเขาจะมีระดับบำเพ็ญเพียรที่ไม่สูงนัก แต่เมื่อเขาลงมือกลับหนักหน่วงอย่างไม่น่าเป็นไปได้ อย่าสอนอักขระมารให้เขาอีกในอนาคต ให้เขาเชี่ยวชาญอักขระศักดิ์สิทธิ์ก่อน จากนั้นจึงค่อยให้ฝึกฝนอักขระมาร หากเขาพยายามฝึกทั้งสองอย่างพร้อมกันคงเป็นเรื่องแน่! แม้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีพรสวรรค์ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ยังน้อยเกินไป เขาไม่สามารถรับมือทั้งหมดในครั้งเดียว หากเขาฝืนผสานอักขระก็เท่ากับทำลายตัวเอง อย่างไรก็ตาม การที่ชายหนุ่มคนนี้สามารถผสานอักขระศักดิ์สิทธิ์และอักขระมารเป็นหนึ่งเดียว ทำให้อักขระอาคมทั้งสองอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ต่อต้านกันถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก บางทีเราคงต้องหวังให้เขาทำลายอาคมฟ้าดิน...”

“เข้าใจแล้ว!” เจิ้นมัวพยักหน้าตอบรับ

แม้ว่าทั้งสองจะขัดแย้งกันตลอดเวลา ไม่มีใครยอมใคร แต่เมื่อถึงเวลาคับขันก็ยังห่วงใยกัน

แม้เจิ้นมัวจะเป็นคนแบบนั้น แต่เขาก็ยังฟังสิ่งที่เหว่ยฉีพูด

หลังจากติดอยู่ในอาณาจักรนิรันดร์มาหลายปี พวกเขาก็กลายเป็นมิตรสหาย

หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง เฉินผิงก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เมื่อนึกถึงสภาพของเขาตอนที่ผสานอักขระอาคม เฉินผิงก็ชะงักไป

จ้าวมารสีชาดไม่เข้าใจแนวคิดของอักขระศักดิ์สิทธิ์และอักขระมาร เขาจึงพูดว่า “เจ้าหนู เจ้าเกือบจะพลาดท่าแล้ว! อักขระศักดิ์สิทธิ์และอักขระมารนี่มันอะไรกัน? คิดจริงๆ เหรอว่าพวกมันจะสามารถเผยความลับของกฎแห่งสวรรค์ได้? พวกมันทำให้เจ้าตกอยู่ในภวังค์จนแทบแย่”

แม้ว่าเฉินผิงจะยังตัวสั่นอยู่เล็กน้อย แต่ลึกๆ เขาก็ยังแอบยินดี “มันไม่เหมือนกับว่าผมกำลังเห็นความลับของกฎแห่งสวรรค์ แต่มันรู้สึกเหมือนกับว่าผมเปิดประตูสู่ดินแดนใหม่ เพียงแต่ว่าพลังของผมยังไม่มากพอจนเกือบเสียท่า เมื่อความแข็งแกร่งของผมถึงขั้นสูงสุด ผมจะสามารถสร้างได้ทุกสิ่ง!”

“ฮ่าๆ! เมื่อเจ้าได้ขึ้นสู่อาณาจักรแดนสรวง ดินแดนใหม่ที่เจ้าจะได้พบจะไม่มีที่สิ้นสุด...” จ้าวมารสีชาดหัวเราะอย่างพอใจ ดูเหมือนเสียงหัวเราะของเขาจะแทรกด้วยความเย้ยหยันเล็กน้อย

ท้ายที่สุดแล้ว สำหรับเขาเฉินผิงก็แค่เด็กอมมือคนหนึ่งเท่านั้น

เฉินผิงไม่โกรธเคืองต่อคำเยาะเย้ยของจ้าวมารสีชาด เพราะถึงอย่างไร ชายชราผู้นี้ก็แกร่งพอที่จะเย้ยหยันเขา

เมื่อเห็นเฉินผิงตื่นขึ้น ไป๋ฉู่ก็พูดว่า “เฉินผิง คุณตื่นแล้ว! อาจารย์สั่งให้ผมพาคุณไปพบหลังคุณฟื้น!”

เฉินผิงพยักหน้า เขาลุกขึ้นยืนและเดินตามไป๋ฉู่ออกไป

ไม่นานเฉินผิงก็ถูกพาไปที่กระท่อม อย่างไรก็ตาม กระท่อมหลังนี้ไม่ใช่กระท่อมเดียวกับที่เฉินผิงเคยใช้ฝึกอักขระศักดิ์สิทธิ์ขั้นต้นของเขา

สำหรับพวกเขา การกินเป็นเรื่องเสียเวลา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการนั่งดื่มคุยกัน

“นั่งลงสิ มาดื่มกันเถอะ...” เหว่ยฉีชี้ไปทางเฉินผิงและเรียกเขาเข้ามา

เฉินผิงนั่งลงที่โต๊ะโดยไม่รีรอและรินเหล้าใส่แก้ว

พลังวิญญาณอันเข้มข้นพร้อมกับกลิ่นเหล้า ทำให้ทั้งห้องอบอวลด้วยพลังวิญญาณ

จากกลิ่นเพียงอย่างเดียวก็ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่เหล้าธรรมดา แต่เป็นสุราวิญญาณระดับสูง

“ดื่มสิ นี่คือสุราชั้นดี มันถูกกลั่นอย่างพิถีพิถันจากหญ้าเซียนหลายชนิด” เจิ้นมัวพูดกับเฉินผิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร