หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 4248

“ไม่เห็นเลย หรือว่าจะถูกพายุพัดไปแล้ว?”

กู้เทียนเฉารู้สึกใจหวั่นๆ

เขาโทษตัวเองที่ถามคำถามไม่จำเป็นแบบนั้น

“ก็เป็นไปได้ ฉันจะไปตรวจสอบ พวกคุณไปพักที่เกาะนั้นก่อนได้เลย...”

มู่ชี่เฟิงโบกมือส่งสัญญาณให้กู้เทียนเฉาและคนอื่นๆ ไปได้แล้ว

กู้เทียนเฉาถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก พร้อมสั่งให้ลูกน้องเดินเรือวิญญาณ ตั้งใจจะเลี่ยงมู่ชี่เฟิงและเรือวิญญาณของพวกเขา

ขณะดูสถานการณ์ในห้องโดยสาร นักกลั่นยาทุกคนในเรือก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน

เฉินผิงเองก็เริ่มผ่อนคลาย เขาอยู่ในห้องโดยสารพร้อมใช้อาคมอำพรางปกปิดรัศมีของนักกลั่นยาเพื่อไม่ให้ถูกตรวจพบ

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ทุกคนคิดว่ารอดแล้ว เมื่อเรือสองลำแล่นผ่าน คิ้วของมู่ชี่เฟิงก็ขมวดเข้าหากัน

ชายชราคนหนึ่งซึ่งหลังค่อมเล็กน้อยพูดกับมู่ชี่เฟิงว่า “เจ้าสำนักมู่ ยังมีคนอยู่ในเรือวิญญาณลำนี้...”

“เจ้าสำนักกู้ โปรดรอสักครู่!” มู่ชี่เฟิงห้ามกู้เทียนเฉาไว้

หัวใจของกู้เทียนเฉากลับมาเต้นรัวอีกครั้ง

“เจ้าสำนักมู่ มีอะไรหรือ?” กู้เทียนเฉาถาม

“เจ้าสำนักกู้ มีคนอื่นอยู่ในห้องโดยสารไม่ใช่หรือ?” มู่ชี่เฟิงถามอย่างตรงไปตรงมา

“ไม่มี ดูสภาพของเรือวิญญาณสิ มันพังยับเยินไปหมด จะมีใครอยู่ในเรือได้ยังไง?” กู้เทียนเฉาส่ายหัว

“ฮึ! ยังจะโกหกอยู่อีก เห็นๆ อยู่ว่ามีคนอยู่ในห้องโดยสาร แต่คุณกลับบอกว่าไม่มี”

ชายชราหลังค่อมแค่นเสียงและกระโดดเข้าหาเรือวิญญาณของกู้เทียนเฉาในทันใด

กู้เทียนเฉาตกใจเมื่อชายชราหลังค่อมกำลังจะเข้าไปในห้อง

หากเขาเข้าไปในห้อง พวกนักกลั่นยาที่ซ่อนอยู่ข้างในจะต้องถูกเจอตัวแน่นอน

ขณะที่กู้เทียนเฉาทำอะไรไม่ถูก เสียงเย็นยะเยือกก็ดังออกมาจากภายในห้อง

“กล้าดียังไงถึงเข้ามารบกวนการพักผ่อนของผม?”

ตูม!

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อดูจากวัยของเฉินผิงที่ยังหนุ่มอยู่ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเพียงผู้บำเพ็ญเพียรขั้นผู้ทุกข์ยากระดับหกเท่านั้น

ผู้ทุกข์ยากระดับหกปราบผู้บำเพ็ญเพียรขั้นมหายานระดับหนึ่งหมดสภาพ จนอีกฝ่ายไม่อาจตอบโต้ได้อีก ที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าคือดูเหมือนเฉินผิงจะยังไม่เอาจริงด้วยซ้ำ

“หมอนั่นเป็นใครกันแน่? ปราณอัคคีที่เขาใช้บริสุทธิ์อย่างน่าเหลือเชื่อ ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ปราณอัคคีได้อย่างสมบูรณ์แบบ”

มู่ชี่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะมองไปที่เฉินผิง

เพียงแค่โบกมือก็สามารถเรียกปราณอัคคีออกมาได้ ซึ่งบ่งบอกชัดเจนว่าเขาเข้าถึงจุติเพลิงแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ทำได้ถึงขนาดนี้

แต่ถึงแม้จะเข้าถึงจุติเพลิงได้แล้ว ผู้ทุกข์ยากระดับหกก็ไม่น่าจะปลดปล่อยพลังระดับนี้ได้

ขณะที่มู่ชี่เฟิงรู้สึกสับสน เฉินผิงก็พูดกับกู้เทียนเฉาด้วยท่าทีเย็นชา “กู้เทียนเฉา คุณมัวทำอะไรอยู่? ไม่รู้เหรอว่าผมไม่ชอบให้ใครมารบกวน”

เมื่อเห็นอย่างนั้น กู้เทียนเฉาก็รีบก้าวไปข้างหน้าและขอโทษ “ต้องขออภัยจริงๆ ผมประมาทเกินไป”

เมื่อเห็นว่ากู้เทียนเฉาเคารพยำเกรงเฉินผิง มู่ชี่เฟิงก็ยิ่งรู้สึกสับสนขึ้นไปอีก

สำนักเหลี่ยงอี๋เป็นสำนักใหญ่ที่เชี่ยวชาญด้านอาคม เจ้าสำนักใหญ่ระดับนี้กลับก้มหัวให้ผู้ทุกข์ยากระดับหก เรื่องนี้มีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้น ตัวตนของเฉินผิงแตกต่างจากคนทั่วไป