หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 4474

เมื่อคำพูดของสั่วเทียนเจิ้งก้องไปทั่วห้องโถง ความเงียบน่าอึดอัดก็เข้าครอบงำ เพียงแค่การกล่าวถึงฉีเต้าจางผู้ลึกลับและนครจันทร์ตะวันที่เต็มไปด้วยปริศนาก็ทำให้แม้แต่ผู้บำเพ็ญเพียรขั้น มหายานมากประสบการณ์ยังรู้สึกไม่สบายใจ กองกำลังเหล่านี้ซ่อนเร้นในเงา ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่มีใครรู้ และไม่มีใครต้องการเผชิญหน้ากับพวกเขา

ผู้อาวุโสเทียน ผู้บำเพ็ญเพียรขั้นมหายานระดับสี่ผู้แข็งแกร่งยังต้องล่าถอยขนาดเจอแค่ร่างเงาของฉีเต้าจาง แค่นี้ก็บ่งบอกได้แล้วว่าฉีเต้าจางน่ากลัวขนาดไหน

สั่วเทียนเจิ้งทำลายความเงียบแล้วพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ “เฉินผิงติดต่อกับทั้งนักพรตฉีเต้าจางและชาวนครจันทร์ตะวัน เราจะปล่อยให้เขาแข็งแกร่งขึ้นไม่ได้ สิ่งที่เราต้องทำคือกำจัดเฉินผิงก่อน จากนั้นเราค่อยเบนเป้าไปที่นักพรตฉีเต้าจาง”

“ประมุขสั่ว” ผู้อาวุโสเทียนพูดอย่างระมัดระวัง “เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเฉินผิงอยู่ที่ไหน เราจะตามหาเขาได้อย่างไร?”

“เขาไปที่แคว้นเซียวแล้ว” สั่วเทียนเจิ้งตอบด้วยความมั่นใจ

เมื่อเอ่ยถึงแคว้นเซียว ความอึดอัดก็แผ่ไปทั่วห้อง ผู้บำเพ็ญเพียรต่างมองหน้ากันอย่างไม่แน่ใจ และความเงียบก็ปกคลุมอีกครั้ง หากเขาไปที่อื่น หลายคนคงยิ่งกว่าเต็มใจที่จะออกตามล่าเฉินผิง แต่แคว้นเซียวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แคว้นเซียวเป็นกองกำลังเดียวในอาณาจักรนิรันดร์ที่อาจทัดเทียมสมาพันธ์ผนึกมารได้ ความแข็งแกร่งและความมั่นคงของแคว้นหยั่งรากลึกผ่านการปกครองที่ต่อเนื่องกันมาหลายศตวรรษของตระกูลเซียว ทำให้พวกเขาเป็นศัตรูที่น่าเกรงขาม มีเพียงไม่กี่คนในสมาพันธ์ที่กล้าเผชิญหน้ากับแคว้นเซียวโดยตรง

เมื่อเห็นความลังเลในห้อง สั่วเทียนเจิ้งก็ยิ้มเยาะ “พวกคุณเชื่อจริงหรือว่าสมาพันธ์ผนึกมารด้อยกว่าแคว้นเซียว?”

แม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไร แต่ความสงสัยบนใบหน้าของพวกเขาก็ชัดเจน ไม่เหมือนกับแคว้นเซียวที่รวมกันเป็นหนึ่งอย่างแน่นแฟ้น สมาพันธ์ผนึกมารเป็นกองกำลังที่ประกอบด้วยกลุ่มต่างๆ มากมาย โดยแต่ละกลุ่มต่างก็มีเป้าหมายของตนเอง ตรงกันข้ามกับตระกูลเซียวที่มีทั้งเมือง กองทัพและดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งทุกฝ่ายต่างเป็นหนึ่งเดียวกัน

“ฉันติดต่อกับเสี่ยวเจียนแล้ว ครั้งนี้ฉันจะไปด้วยตัวเอง ถ้าเราชักจูงให้เขามาอยู่ฝ่ายเราได้ สมาพันธ์ผนึกมารจะช่วยให้เขาอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์ หากได้แคว้นเซียวเป็นพันธมิตร ใครหน้าไหนในอาณาจักรนิรันดร์จะกล้าต่อต้านเรา” ผู้อาวุโสชูสรุป

คำพูดของเขาดังก้องทั่วห้อง จุดประกายความทะเยอทะยานในใจของหลายคน และบางคนยังรู้สึกสงสัย เหล่าผู้ใช้วิชามารสบตากันด้วยความกังวล ตัวตนของเสี่ยวเจียนเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเขา หลายคนไม่เคยได้ยินเรื่ององค์ชายคนที่สอง

แต่ตรงนี้เองที่ความฉลาดของผู้อาวุโสชูได้เปล่งประกาย เขามีความสามารถในการเปิดเผยความลับที่ถูกปกปิดอย่างแน่นหนา เป็นทักษะที่ช่วยสั่วเทียนเจิ้งไว้แล้วหลายครั้ง ตอนอยู่ที่เขาเทียนโหมว ในระหว่างที่ปกป้องสั่วเฉียนผู้เป็นลูกชายของสั่วเทียนเจิ้ง ผู้อาวุโสชูได้แสดงให้เห็นถึงปัญญาของเขาด้วยการวางวงแหวนอาคมอันซับซ้อน

ถึงกระนั้นเฉินผิงก็ไม่ใช่ศัตรูธรรมดา เขาเคยแก้วงแหวนอาคมที่ซับซ้อนที่สุดของผู้อาวุโสชูมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าฝีมือของเขายากจะหยั่งถึง