หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 5322

เฉินผิงกุมมือเรียวบางของหลิงเสวี่ยไว้ ความอบอุ่นแผ่ออกมาจากฝ่ามือ ตรงเข้าสู่หัวใจของเธอ สะเทือนผ่านนิ้วมือจนเธอไม่อาจซ่อนท่าที

เขานำหอสะกดมารไปยังถ้ำลับลึกเข้าไปในภูเขาหลังสำนักดาบ มั่นใจว่าจะไม่มีใครมาเจอ ที่แห่งนี้ไม่มีคนเฝ้าด้วยซ้ำ

ประตูหินปิดผนึกถ้ำ มีอักขระสลักตามพื้นผิวที่แผ่รัศมีโบราณ น้อยคนที่จะบังคับให้ประตูนั้นเปิดออกได้

“ภายในหอคอยนี้ เวลาหนึ่งวันเท่ากับหนึ่งร้อยวัน เราจะบำเพ็ญเพียรได้โดยไม่มีใครรบกวน” เฉินผิงกล่าวหนักแน่น

เขาวาดเส้นโค้งบนประตู ทันทีที่พลังวิญญาณของเขาซึมเข้าไป อักขระทุกตัวก็สว่าง เผยให้เห็นช่องแคบๆ ที่กว้างพอสำหรับสองคน

“ข้าจะเข้าไปกับเจ้า เฉินผิง” หลิงเสวี่ยพึมพำพลางก้มหน้า แก้มเริ่มแดงก่ำ

ทันทีที่พูดจบ เขาก็จับข้อมือเธอไว้ ทั้งคู่ก้าวเข้าสู่ม่านหมอกที่กลืนกินทุกเสียง

โลกภายในหอคอยปรากฏ ไม่ใช่คุกใต้ดินคับแคบ หากแต่เป็นผืนดินกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ส่องสว่างด้วยดวงตะวันที่ล่องลอยบนท้องฟ้าสีม่วง

ปราณเซียนอัดแน่นท่วมท้นบรรยากาศ สายธารแห่งปราณเซียนไหลวนรอบตัวพวกเขา และได้ยินเสียงพลังกระซิบแผ่วเบา

“ทะ-ที่นี่คือภพแห่งเซียนหรือ?” หลิงเสวี่ยหายใจหอบ แววตาของเธอดูสงสัย

ความรู้สึกเกรงขามผุดขึ้นบนใบหน้า เธอดูเหมือนคนที่เพิ่งเห็นแสงอาทิตย์เป็นครั้งแรก

เธอนึกว่าหอสะกดมารจะเป็นคุกขังวิญญาณชั่วร้าย มืดมิดและคับแคบ จึงทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นดินแดนอันเงียบสงบ

เฉินผิงยิ้ม “หอคอยนี้ผนึกมาร ใช่ แต่ก็เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับบำเพ็ญเพียรเช่นกัน เราจะได้ฝึกฝนที่นี่อย่างไร้กังวล ผมจะไปเรียกหูหม่าซือ”

แสงสว่างริบหรี่ แล้วเขาก็หายวับไป

ครู่ต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมหูหม่าซือ

หูหม่าซือรู้สึกยินดียิ่งเมื่อสัมผัสได้ถึงปราณเซียนอันเข้มข้น ดวงตาเบิกกว้าง เขาอ้าปากค้างและอุทาน “โอ้สวรรค์! ปราณเซียนหนาแน่นมาก เจ้ากักตุนทรัพยากรไว้ในนี้สินะ”

พลังมังกรของเขาคำรามด้วยความเป็นชายอันทรงพลัง พลังวิญญาณของเธอหลั่งไหลดุจสายธาร พลังอ่อนปะทะพลังแข็ง เสียงสะท้อนก้องกังวาน

พลังรอบกายดึงเสื้อผ้าของเธอออก ไม่ช้าเธอก็เปลือยกายอยู่ตรงหน้าเฉินผิง

เฉินผิงเข้าสู่ร่างของหลิงเสวี่ยด้วยความเป็นชายของเขา

ระหว่างที่บำเพ็ญเพียร เวลาก็ล่วงเลยไปราวกับเม็ดทรายไหลในนาฬิกาทราย ช้าๆ แต่ก็ไม่หยุด

ด้านนอกหอคอย พระอาทิตย์ขึ้นและตกดินเมื่อหมดวัน ขณะที่ภายในหอคอยนั้น หนึ่งร้อยวันของการบำเพ็ญเพียรผ่านพ้นไปอย่างเงียบงัน

ตอนแรกคิ้วของหลิงเสวี่ยขมวดเล็กน้อย ร่างกายของเธอยังคงปรับตัวเข้ากับกระแสพลังประหลาดที่เฉินผิงส่งผ่านเส้นเลือด ทว่าเมื่อพลังของทั้งสองผสานกันครั้งแล้วครั้งเล่า ความประหลาดใจก็เข้าแทนที่ความไม่สบายใจ และเธอก็ยอมจำนนต่อพลังบำเพ็ญเพียรของเขา

ไม่นานเสียงครางแผ่วเบาก็ดังออกมาจากปากของเธอ และดังขึ้นเรื่อยๆ โชคดีที่กำแพงของหอคอยดูดซับเสียงสะท้อน โลกภายนอกไม่รับรู้ถึงการปลดปล่อยของเธอ

เฉินผิงจมดิ่งลงสู่ห้วงนิทรา ปล่อยให้พลังมังกรของเขาซึมซาบผ่านตัวเธอ กล่อมให้เส้นลมปราณของหลิงเสวี่ยสงบลง ผลักดันพลังวิญญาณที่ถูกกดทับของเธอให้ก้าวสู่ขั้นต่อไป และเมื่อผ่านไปหลายสิบวัน ระดับบำเพ็ญเพียรของเธอก็มีวี่แววว่าจะเปลี่ยนแปลง