“คุณเฉิน หากคุณต้องการอะไรก็รีบบอกได้เลยครับ หากทำได้ ผมไม่ปฏิเสธแน่นอน!”
ซูเหวินจงพูดอย่างรีบร้อน
“คุณเฉินคะ พู่กันและชาดแดงในใบสั่งยานี้นำมาใช้ทำอะไรหรือคะ”
ซูอวี่ฉีเอ่ยถามขึ้น
ทั้งพู่กันและชาดแดงก็ดูไม่เหมือนสิ่งที่จะใช้รักษาโรคได้เลย อีกทั้งของทั้งสองอย่างนี้ก็หาซื้อได้ทั่วไปตามท้องถนน!
“อวี่ฉี ในเมื่อคุณเฉินเขียนเอาไว้ก็ย่อมต้องมีเหตุผล อย่าถามให้มากความ!”
ซูเหวินจงพูดพลางถลึงตาในซูอวี่ฉี
“ไม่เป็นไรครับ!” เฉินผิงยิ้ม “ของสองสิ่งนี้ก็นำมาใช้รักษาโรคนี่แหละ เพียงแต่มันไม่ใช่พู่กันและชาดแดงธรรมดาๆ ของสองสิ่งนี้จะต้องมีจิตวิญญาณจึงจะใช้ได้!”
“จิตวิญญาณ?” คราวนี้ซูอวี่ฉีมึนแล้ว!
ซูเหวินจงเองก็สับสนไม่แพ้กัน พวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าอะไรคือจิตวิญญาณ
เมื่อเห็นทั้งสองกำลังงุนงง เฉินผิงจึงอธิบายให้ฟัง “ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ล้วนมีเกิดมีดับ และทุกสิ่งล้วนมีจิตวิญญาณ แม้แต่สิ่งไม่มีชีวิตที่มนุษย์เรามองเห็น เหมือนเช่นโต๊ะและเก้าอี้ที่นี่ ต่างก็มีจิตวิญญาณด้วยกันทั้งสิ้น แต่ก็ต้องอาศัยโอกาสหรือเงื่อนไขที่รุนแรงเป็นพิเศษ!”
“เหมือนเช่นเก้าอี้ตัวนี้ที่ผมกำลังนั่งอยู่ หากผมนั่งฝึกฝนตนเองบนเก้าอี้ตัวนี้เป็นแรมเดือนแรมปี อาจจะสิบปี ห้าสิบปี หรือร้อยปี เก้าอี้ตัวนี้ก็จะค่อยๆ มีจิตวิญญาณเกิดขึ้น”
เฉินผิงเกรงว่าทั้งสองจะไม่เข้าใจ จึงต้องอธิบายด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย
“อ้อ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ!” ซูอวี่ฉีตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น “ความหมายของคุณเฉินก็เหมือนกับละครในทีวี ต้นไม้ที่มีเทพเซียนสถิตอยู่ พอนานๆ ไปก็เกิดจิตวิญญาณขึ้น บางทีก็แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ด้วย!”
“อวี่ฉี อย่าพูดจาเหลวไหล!” ซูเหวินจงพูดไม่ออกหลังจากฟังคำอธิบายของลูกสาว
ตามความคิดของเขา โลกนี้มีเทพเซียนที่ไหนกันล่ะ นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว!
“คุณหนูซูอธิบายได้ถูกต้องแล้ว ความหมายก็เป็นเช่นนี้...”
เฉินผิงตอบพลางฉีกยิ้มจางๆ
เมื่อก่อนนี้ เฉินผิงเองก็ไม่เชื่อ แต่หลังจากสามปีมานี้ที่อยู่กับตาเฒ่ามังกร เขาก็ตระหนักได้ว่า โลกใบนี้ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาไม่รู้
เช่นเดียวกับจิตตวิสุทธิซึ่งเป็นวิถีแห่งการบำเพ็ญเซียนที่ตาเฒ่ามังกรถ่ายทอดให้เขา ขอเพียงเฉินผิงฝึกฝนจนสำเร็จ เขาก็จะบรรลุเป็นเซียนจริงๆ!
ซูเหวินจงยิ้มอย่างเขินอาย เขาคิดไม่ถึงว่าซูอวี่ฉีจะอธิบายได้ถูกต้อง หากเป็นคนอื่นมาพูดเรื่องเกี่ยวกับจิตวิญญาณหรือเทพเซียน ซูเหวินจงคงจะเยาะเย้ยไปแล้ว แต่เมื่อเป็นคำพูดของเฉินผิงกลับทำให้ซูเหวินจงรู้สึกครั่นคร้ามขึ้นมา!
ขณะที่เฉินผิงและซูเหวินจงกับพูดคุยกันอยู่นั้น พวกเขาไม่ได้เหลือบมองไปที่ซุนซ่งที่กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้นเลย แม้ว่าซุนซ่งจะไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แต่ก็ไม่ใช่คนที่มีความรับผิดชอบดีนัก เฉินผิงจึงไม่คิดจะรับเขาเป็นศิษย์ อีกทั้งไม่ได้ผ่านการอนุญาตจากตาเฒ่ามังกร เฉินผิงยิ่งไม่กล้ารับลูกศิษย์ส่งเดช!
หลังจากการสนทนาผ่านไปกว่าสิบนาที เฉินผิงจึงได้รู้ว่าซูเหวินจงได้รับบาดเจ็บอย่างไร ที่แท้เมื่อตอนยังหนุ่ม ซูเหวินจงถูกฝ่ามือของคู่ปรับทางการค้าซัดใส่ แต่เพราะไม่มีบาดแผลภายนอก และตรวจสุขภาพก็ไม่พบเจอปัญหา เขาจึงไม่ได้ใส่ใจ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ยิ่งอ่านตอนก็ยิ่งสั้นลงๆ ของฟรีไม่มีในโลกจริงๆ เลิกอ่านกันเถอะเสียอารม...
เริ่มตั้งแต่ตอนที่ 1886 ตอนเริ่มสั้นลงๆ ต้องทำไง...
ไม่มีระบบจ่ายเงินผ่านหักบัญชีธนาคารหรือจ่ายผ่านทรูฯ บ้างหรือผมไม่ได้ใช้บัตรเครดิต...
3065-3074 ไม่มี...
อ่านมาถึงตอนที่ 136 แล้วแต่ต้องอ่านแบบผ่านๆเพราะแต่ละฉากวนอยู่ที่พระเอกโดนดูถูกตลอด จากคนทั้งเรื่องรวมทั้งพ่อแม่ด้วยเลยมั้ง พระเอกต้องเป็นโรคจิตอ่อนๆแน่เลย ไม่ได้คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้นนอกจากคิดในใจว่าฉันเก่ง รอให้เขาดูถูกก่อนแล้วนิ่งๆ ยอมรับแล้วผ่านไป พยายามหาเรื่องที่พระเอกเก่ง หรือสู้ชีวิตแล้วดีขึ้น แต่แบบเหมือนฉันเก่งอยู่ในใจคนเดียว มันน่าอึดอัดมาก...
ทำไมพระเอกเก่งต้องทนให้คนดูถูกตัวเองดูถูกพ่อแม่แบบไม่คิดจะทำอะไรเลย แบบตามน้ำไปวันทั้งที่มีฝีมือ ทนลำบากกันไป...
หน้าด้านจังอีกู่หลิงเอ๋อร์ หลงรักแฟนเพื่อน แล้วเสือกเสนอตัวออกนอกหน้าเกิ๊น นิสัยแบบนี้เขาเรียกดอกทอง คนเขียนไม่เข้าใจหรอว่านิสัย ผู้หญิงสันดานแบบนี่ น่าขยะแขยง...
ชักจะเบื่อ หายอีกแล้ว หมดไปเกือบ 2 พัน แล้วนะ...
มีเรื่องอื่นที่จบแล้วบ้างไหมจะหาซื้ออ่าน...
มีหนังสือขายมั้ยครับ รอวันละ 20 ตอน ไมทันใจ...