หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 937

เมื่อเห็นซูอวี่ฉีเป็นเช่นนั้น เฉินผิงพยายามอย่างหนักที่จะไม่หัวเราะ แน่ล่ะว่าฉันใช้ศาสตร์เวทในการควบคุมไฟได้ ถ้าไม่รู้เรื่องนี้เลย ฉันจะปรุงยาออกมาได้ยังไง?

เมื่อเฉินผิงแบมือออกมา เปลวไฟสีน้ำเงินก็เต้นเร่าอยู่ในฝ่ามือเขา

“อ้อ ผมก็รู้ศาสตร์เวทในการควบคุมไฟเหมือนกันนะ” เฉินผิงกล่าว

ตอนแรกเฉินผิงคิดว่าความสามารถเฉพาะของซูอวี่ฉีนั้นแข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้เขากลับอดไม่ได้ที่จะผิดหวัง

เมื่อเห็นเฉินผิงทำเช่นนี้ ซูอวี่ฉีและกู่หลิงเอ๋อร์ก็หัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้น เปลวไฟรอบกายซูอวี่ฉีก็ค่อยๆ เปลี่ยนร่างกลายเป็นนกฟีนิกซ์และแยกออกมาจากร่างของซูอวี่ฉี

“นกฟีนิกซ์เหรอ?” เฉินผิงยืนทื่ออยู่กับที่เมื่อเห็นดังนั้น

ขณะที่เฉินผิงกำลังอึ้งอยู่นั้น นกฟีนิกซ์ก็อ้าปากออก และต่อมา เปลวไฟในมือของเฉินผิงก็โดนมันกลืนกินเข้าไป

จากนั้น นกฟีนิกซ์ก็อ้าปากอีกครั้งและปล่อยเปลวเพลิงสีน้ำเงินออกมา ด้วยความตกใจกับคลื่นพลังที่ถาโถมเข้าใส่ เฉินผิงจึงรีบขยับแขนและสร้างเกราะสีทองขึ้นมาทันที

เปลวไฟสีน้ำเงินหายวับไปทันทีที่มันสัมผัสเกราะทอง แต่กระนั้น ก็ยังมีรอยแตกบนเกราะทองของเฉินผิงจนมองเห็นได้ชัด

เฉินผิงไม่อยากจะเชื่อสายตาว่านกฟีนิกซ์จะมีพลังมหาศาลขนาดนี้ เพราะตามที่เขาเข้าใจ นักรบจะไม่สามารถปล่อยพลังของตนได้อย่างเต็มที่ผ่านภาพลวงตาที่สร้างมาโดยพลังงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพลังลมปราณ พลังชี่ หรือพลังอื่นๆ ในทุกรูปแบบ

แต่ทว่า นกฟีนิกซ์กลับแตกต่างออกไป เพราะมันมีออร่าที่แข็งแกร่งมากกว่าซูอวี่ฉี ราวกับว่ามันไม่ได้ถูกควบคุมโดยซูอวี่ฉีด้วยซ้ำ

เมื่อซูอวี่ฉีโบกมือ นกฟีนิกซ์ก็กลับกลายเป็นเปลวเพลิงลามเข้าไปรายล้อมรอบตัวเธอจนกระทั่งค่อยๆ จางหายไป

ดวงตาของเฉินผิงเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจขณะที่เขามองซูอวี่ฉี “จริงเหรอ? เป็นไปได้ไงเนี่ย?”

เฉินผิงไม่รู้เลยว่า การดื่มเลือดมนุษย์นั้นสามารถช่วยยกระดับพลังของตนเองได้ นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญในทักษะการแพทย์และการปรุงยาของเขา เขายังได้รับตำรากลั่นยามาจากหัวหน้าหุบเขายาอีกด้วย แต่ในตำรานั้นไม่มีบอกเรื่องนี้เอาไว้เลย

“ฉันจะโกหกคุณทำไมล่ะ? เสี่ยวไป๋ก็แข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่มันบังเอิญเลียมือที่บาดเจ็บของอวี่ฉี คุณไม่เห็นตอนที่เสี่ยวไป๋ฆ่าสัตว์ร้ายตัวใหญ่มหึมาเหรอ?” กู่หลิงเอ๋อร์โต้กลับ

อย่างไรก็ตาม เฉินผิงยังรู้สึกว่ามันยากที่จะเชื่อ แม้ว่าเจ้าหมาป่าสีขาวจะมีพละกำลังมากขึ้น แต่เขาไม่คิดว่าการเลียเลือดของซูอวี่ฉีจะช่วยได้

ในขณะนั้นเอง กู่หลิงเอ๋อร์ก็หมดความอดทนเพราะสัมผัสได้ว่าเฉินผิงนั้นยังยังสงสัยอยู่ เธอจึงรีบเสริมว่า “ถ้าไม่เชื่อ ก็ลองดื่มเลือดอวี่ฉีพิสูจน์ดูเองเลยสิ”