กั๋วเว่ยชี้แจงข้อห้ามต่างๆ ที่มีอยู่มากมายหลายข้อต่อไป แต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจเขานัก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้เข้าร่วมการประลอง และพวกเขาต่างอดใจรอที่จะได้เข้าไปในสุสานแทบไม่ไหวแล้ว
เมื่อกั๋วเว่ยพูดจบลงเสียที เขาก็หันไปทางตระกูลหูแล้วมองที่หูปาฉี “ได้เวลาแล้ว หูปาฉี เปิดประตูสุสานได้”
“รับทราบ!” หูปาฉีตอบพร้อมรีบพาเหล่าศิษย์ตระกูลหูไปที่ด้านหน้าของประตูสุสานอันหนาหนัก
ประตูสุสานถูกสร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาว สูงเกินกว่าสิบฟุตและหนักหลายหมื่นปอนด์ ถ้าคนทั่วไปบังเอิญมาเจอเข้ากับประตูสุสาน เขาก็คงไม่คิดว่าจะเปิดประตูได้ จะเข้าไปในสุสานก็ยิ่งแล้วใหญ่
ครู่ต่อมา หูปาฉีก็หยิบเอาถ้วยใส่ถั่วแดงออกมาแล้วโปรยจนทั่วหน้าประตู ในขณะที่ศิษย์ตระกูลหูยืนขนาบสองข้าง ในมือแต่ละคนมีเทียนสีขาวที่จุดไฟแล้ว
หูปาฉีเริ่มทำการร่ายคาถา ครู่ต่อมาถั่วแดงที่จมลงไปในดินก็เริ่มงอกขึ้นมา
ทุกคนมองไปที่เขา ไม่อยากพลาดแม้แต่รายละเอียดเล็กน้อยของพิธีกรรมที่น่าตื่นตา
ไม่ช้าต้นถั่วแดงขนาดเล็กก็ขึ้นเป็นหย่อมๆ หน้าประตูสุสาน หูปาฉีคว้าขึ้นมาทุกต้นด้วยมือข้างเดียว ยัดถั่วแดงเข้าไปในปากแล้วเคี้ยว
ในขณะเดียวกันมือของเขาก็เริ่มเปล่งแสง ส่องสว่างมากขึ้นเรื่อยๆจนดูราวกับไฟหน้ารถยนต์สองดวง
“จงเปิด” หูปาฉีพึมพำขณะกุมมือทั้งสองเข้าด้วยกันและปลดปล่อยพลังอันเข้มข้นใส่ประตู
ทุกคนประหลาดใจเมื่อเห็นว่าประตูสุสานหนักอึ้งเริ่มเลื่อนออก จนเกิดเป็นช่องว่างที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
พลังงานด้านลบพวยพุ่งออกมากะทันหัน ส่งผลให้อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างมาก
ไฟบนเทียนบางเล่มเริ่มสั่นไหวระรัว เมื่อประตูสุสานเปิดออกกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ม่านหมอกสีดำก็แผ่ออกมา
เทียนทุกเล่มดับลงในชั่วพริบตา ทุกคนหนาวเหน็บไปถึงกระดูก
หูปาฉีขมวดคิ้วก่อนจะถ่มถั่วแดงที่เขาเคี้ยวอยู่เข้าไปในหมอกดำ ทำให้หมอกกระจายออกและสลายไป
จากนั้นประตูสุสานก็เปิดออกเต็มที่ แต่ภาพด้านในดำสนิทราวกับถ่าน
“คุณกั๋ว ประตูสุสานเปิดแล้วครับ” หูปาฉีรายงาน
หลังจากเดินเข้าไปตรวจดู กั๋วเว่ยก็พยักหน้าพึงพอใจ “ครั้งนี้ตระกูลหูทำได้ดีมากหูปาฉี สมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้จะไม่ลืมผลงานครั้งนี้ของนาย
“เป็นเกียรติที่ได้ช่วยเหลือสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้ครับ” หูปาฉีตอบพลางรีบโค้งคำนับ
“ทุกคนตามผมเข้าในสุสานได้! และระวังตัวกันด้วย!” กั๋วเว่ยออกคำสั่งแล้วหันไปหาหูปาฉี “อยู่ใกล้ฉันเอาไว้นะหูปาฉี ถ้านายรู้สึกได้ว่ามีอะไรผิดปกติก็ให้บอกฉัน”
แม้ว่ากั๋วเว่ยจะเป็นปรมาจารย์ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงสุด เขาก็ไม่ได้รู้เรื่องสุสานหรือกับดักมากนัก ตรงกันข้ามกับหูปาฉีที่ชำนาญในด้านนี้ กั๋วเว่ยจึงให้อีกฝ่ายอยูข้างกายเขาไว้เพื่อความรอบคอบ
“ไม่ต้อห่วงครับคุณกั๋ว ผมสำรวจสุสานมาแล้วเป็นร้อยแห่ง ผมมีประสบการณ์อยู่มากพอตัว ทุกอย่างจะเรียบร้อย!” หูปาฉีเอ่ยอย่างมั่นใจ
ใช่แล้ว คราวนี้แหละพวกเราตระกูลหูจะได้เฉิดฉาย!
ถ้าวัดกันที่พลังอย่างเดียว ตระกูลหูคงเป็นเพียงตระกูลระดับล่างในยุทธภพ แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องสำรวจถ้ำหรือสุสาน ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าชื่อเสียงของพวกเขาเป็นที่รู้จักอยู่ไม่น้อยในจิงตู
เมื่อคนอื่นๆ เริ่มกรูกันเข้าไปในสุสาน จ้าวอู๋ฉีก็หันมาบอกเฉินผิง “คุณเฉิน ผมคงมาส่งได้เท่านี้ ช่วยระวังตัวด้วยนะครับ เมื่อคุณเข้าไปในสุสานโบราณแล้ว”
จ้าวอู๋ฉีโชคไม่ดีที่เขาไม่มีรายชื่อลงแข่งการประลอง เขาจึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสุสาน
“ไม่ต้องห่วงครับ นายพลจ้าว ผมจะระวัง” เฉินผิงตอบพลางพยักหน้า
จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในสุสานโบราณกับจ้าวฉวางอย่างไม่รอช้า
เมื่อพวกเขาเข้าไปด้านใน ก็รู้สึกอึดอัดและหายใจลำบากในทันใด ที่แย่ไปกว่านั้น อุโมงค์อันทอดยาวที่อยู่ตรงหน้ายังดูราวกับหุบเหวที่ทั้งลึกและดำมืด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ไม่เด็ดขาดสักที เวลาสู้กัน รอดตลอดทั้งที่พลังว่าแกร่งดาบก็เทพ แต่ฟาดออกไปไม่เด็ดขาดสักครั้ง...
น่าจะฝึกให้แกร่งขึ้นตั้งแต่แรกแล้วมาช่วยร่างน้ำแข็ง เอาแก่นมังกรให้ครบสองอัน น่าจะมีคนบอกวิธีการบำเพ็นเพรียรที่เก่ง เฉินเป่ยซานน่าจะช่วยได้อิอิ อ่อคนละเรื่อง...
ติดตามอ่านทุกวันเลย ขอบคุณที่อัพเดตให้ได้อ่านทุกวันนะครับ สนุกมากๆเลย แต่อยากให้อัพเดตเพิ่มขึ้นอีกนิดจะขอบคุณมากเลยครับ...
ยังไปได้อีกไกล ตอนนี้ยังเทียบได้แค่ฝุ่นในจักรวาล อยากอ่านต่อเร็วๆแล้วสิ...
เรื่องนี้มันมีหนังสือหรือป่าวอ่านแล้วรู้สึกว่านี้แค่เริ่มต้นเรื่องช่วงเก็บเกี่ยววิชาอยู่เลย...
สนุกและติ่นเต้นมากขึ้นๆทุกวันเลยครับ ขอบคุณที่คอยอัพเดตเนื้อหาให้ได้อ่านทุกวันครับ...
สนุกทุกตอนครับ...
รออ่านตอนต่อไป...
ขอบคุณมากครับที่คอยอัพเดตให้ได้อ่านทุๆวัน เป็นกำลังใจให้เสมอครับ...
รออ่านตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว สนุกมากๆเลย ยิ่งอ่านยิ่งสนุกยิ่งตื่นเต้น...