หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 985

“หลงซิงซู ไปเอาภาพวาดมา”

หลงเซียวเห็นว่าภาพวาดนั้นเปลี่ยนสีได้เองและรู้ว่ามันต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน เขาจึงรีบสั่งให้หลงซิงซูไปนำมันมา

เขาจะไปหยิบเองก็ได้ แต่เขากลัวว่ามันจะเป็นกับดักที่ซ่อนเอาไว้ ดังนั้นจึงสั่งให้หลงซิงซูทำแทน

หลงซิงซูนิ่วหน้าอย่างไม่พอใจ แต่เขาไม่กล้าขัดคำสั่งของหลงเซียว ดังนั้นเขาจึงก้มหน้าเดินไปเอาภาพวาดมา

“หยุดเขาไว้!” จ้าวฉวางสั่ง ขณะที่รีบรุดเข้ามาพร้อมกับปรมาจารย์ยุทธ์อีกสองคนจากแดนไร้เงา เขาตั้งใจจะเข้ามาขวางหลงซิงซูไว้

“พวกคุณสองคนเป็นอะไรไปเนี่ย? เฉินผิงดิ้นรนต่อสู้อย่างหนักเพื่อช่วยให้เราเข้ามาที่นี่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ก็คงไม่มีใครเข้ามาไกลได้จนถึงขนาดนี้ ถ้าจะให้ถูกต้อง เขาจะต้องเป็นคนที่ได้ภาพวาดนี้ไป แล้วพวกคุณสองคนจะมาเอามันไปเองได้ยังไง? นี่มันแย่ไม่ต่างอะไรจากการเป็นหัวขโมยเลย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร

“อ้าว ช่างหัวคุณสิ การประลองมันก็เป็นเช่นนี้แหละ ภาพวาดจะต้องเป็นของคนที่ได้มันมาในมือก่อนอยู่แล้ว และคุณก็ไม่ต้องมาเสนอหน้าสั่งสอนผมหรอก” หลงเซียวบอกปัด

เขาเลิกคิ้วขึ้นและหันความสนใจไปยังซวนหยวนไคหลังจากพูดประโยคนั้นจบ “ซวนหยวนไค คุณพาคนของคุณไปสั่งสอนไอ้เด็กเมื่อวานซีนคนนี้หน่อย แล้วผมจะให้รางวัลคุณอย่างงามหลังจากที่เราออกไปจากที่นี่ได้แล้ว”

ซวนหยวนไคพยักหน้า “ขอบคุณครับ คุณหลงเซียว”

เมื่อพูดจบ ซวนหยวนไคก็นำคนในตระกูลซวนตรงเข้าไปหาจ้าวฉวางทันที

จ้าวฉวางไม่มีทางเลือกนอกจากนำลูกน้องเขาเข้าไปสู้กับซวนหยวนไค

หลงเซียวส่งสัญญาณผ่านสายตาให้หลงซิงซูเพื่อให้เขารีบไปคว้าเอาภาพวาดมาโดยเร็ว

จ้าวฉวางหงุดหงิดเมื่อเห็นหลงซิงซูตรงเข้าไปหาภาพวาด แต่เขาทำอะไรไม่ได้เพราะการต้องจัดการกับซวนหยวนไคก็ท้าทายมากพออยู่แล้ว ปกติแล้วจ้าวฉวางนั้นเป็นเพียงนักสู้ผู้ไม่ได้เก่งกาจมากที่ต้องพึ่งพาลูกน้องซึ่งเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ในการต่อสู้

ต่งเจียห่าวมองหน้าเฉินผิงและเห็นเขาไม่ขยับตัวเลยสักนิด แม้แต่เปลือกตายังไม่ขยับเลย ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะอ่อนแอลงไปมากแล้ว และนั่นทำให้ต่งเจียห่าวถอนใจด้วยความโมโห

เมื่อเห็นว่ามือของหลงซิงซูเกือบจะสัมผัสภาพวาดแล้ว เขาจึงรูดซิปลง และทันใดนั้นเขาก็โบกมือขึ้นทำให้พลังลมปราณพุ่งตรงเข้าไปหาหลงซิงซูจนกระเด็นออกไปทันที

“คุณทำบ้าอะไรน่ะ ต่งเจียห่าว?” หลงเซียวคำรามเมื่อเห็นเช่นนั้น

“เอาจริงเหรอ หลงเซียว คุณยังมียางอายเหลือบนหน้าบ้างไหม? เฉินผิงเป็นคนที่พยายามอย่างหนักเพื่อทำลายวงแหวนอาคม และพวกคุณก็คงไม่มีใครเข้ามาที่นี่ได้หรอกถ้าไม่ได้เป็นเพราะเขา แล้วคุณจะมาฉกฉวยผลประโยชน์ในสถานการณ์นี้ได้ยังไง? ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะมาเอาภาพวาดไปเป็นของตัวเองหลังจากที่เขาทำให้คุณมาได้ขนาดนี้” ต่งเจียห่าวดูแคลนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหยามเหยียด

“นี่เป็นการประลองของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้นะ ต่งเจียห่าว และมันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่มย่ามอะไรกับเรื่องนี้ หรือคุณลืมสิ่งที่พูดกับคุณกั๋วไปหมดแล้วล่ะ?” หลงเซียวพูดขณะที่มองไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง

“โอ๊ย ช่างหัวสัญญานั่นปะไร ผมไม่ยอมรับและยืนกรานจะขวางทางคุณแน่นอน คุณจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีล่ะ?”

ต่งเจียห่าวหงุดหงิดมาก เขาจ้องมองหลงเซียวอย่างไม่พอใจและพ่นคำสบประมาทสารพัดอย่างที่เขาพอจะนึกออก

“แก...”

หลงเซียวโกรธมากที่ได้ยินคำพูดที่น่ารังเกียจของต่งเจียห่าว เขาดันฝ่ามือไปที่ชายอีกคนทันที

“ถ้ายืนกรานจะให้ตัวเองซวยแล้วล่ะก็ ได้เลย!” หลงเซียวคำราม การเคลื่อนไหวอย่างเดือดดาลของเขาเปี่ยมไปด้วยพลังลมปราณ

เกิดมีลมพัดหมุนไปรอบๆ และสีหน้าของต่งเจียห่าวก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะถอยออกไปในทันที

เขาเข้าใจดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับหลงเซียว และรู้ว่าการต่อสู้แบบตัวต่อตัวนั้นรังแต่จะนำเขาไปสู่ความตาย

เมื่อต่งเจียห่าวถอยไป ปรมาจารย์ยุทธ์ผู้อยู่ใต้อาณัติของต่งเจียห่าวก็ก้าวเข้ามาทันที เขาเคลื่อนไหวเพื่อลดแรงกระทบจากการปล่อยพลังของหลงเซียว

ทั้งสองต่างเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ระดับเจ็ด ดังนั้นการปะทะกันของพลังนั้นจึงส่งพวกเขาให้กระเด็นไปข้างหลังทั้งคู่

“พวกเรา จัดการมัน!” หลงเซียวสั่ง

เขาปล่อยออร่าออกมาจากร่างกายเขา และมือของเขาก็ส่องแสงออกมา

“นี่มันโง่มาก” ต่งเจียห่าวบ่นก่อนจะเยาะเย้ย

เขามีปรมาจารย์ระดับเจ็ดอยู่ข้างกายถึงสองคน ส่วนหลงเซียวเป็นปรมาจารย์ระดับเจ็ดเพียงคนเดียวในฝั่งของเขา ลูกน้องทั้งสองของหลงเซียวเป็นเพียงปรมาจารย์ระดับหก ขณะที่หลงซิงซูเป็นแค่ปรมาจารย์ระดับสามเท่านั้นเอง

การต่อสู้ที่รุนแรงเกิดขึ้นทันที ต่งเจียห่าวจะได้เปรียบในการสู้ครั้งนี้หากเขาไม่จำเป็นต้องช่วยจ้าวฉวาง และสุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็ไม่สามารถยุติการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว

ในทางกลับกัน เฉินผิงยังคงยืนนิ่งราวกับรูปปั้นอยู่ด้านข้าง เขาไม่แม้แต่จะกะพริบตาเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร