หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 990

แคร๊ง!

กระบี่ทั้งสองเล่มปะทะกันจนเกิดเสียงดังก้องราวกับอสนีบาต ประกายไฟที่เกิดขึ้นทำให้ทั่วทั้งถ้ำยิ่งสว่างไสวขึ้นไปอีก

ในชั่ววินาทีที่กระบี่ของพวกเขาปะทะกัน หลงเซียวก็รู้สึกเจ็บหน้าอก แต่เมื่อเขาเห็นเฉินผิง เขาก็ตระหนักได้ว่าเฉินผิงดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านโดยสิ้นเชิง

“อีกครั้ง!”

หลงเซียวจู่โจมอีกครั้ง เฉินผิงประจันหน้ากับชายผู้นั้นแบบซึ่งๆ หน้าโดยปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้

พลังกระบี่แผ่ออกไปทั่ว ทำให้ก้อนหินปลิวว่อนไปทั่วทุกหนทุกแห่งในถ้ำ พวกเขาสองคนลงมือไปร้อยกระบวนท่าแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีใครเป็นฝ่ายได้เปรียบ

เมื่อเห็นเช่นนั้น กั๋วเว่ยก็พลันส่งพลังลมปราณระลอกหนึ่งไปหาเฉินผิง แล้วซัดใส่เขาอย่างแรง

ร่างของเฉินผิงร่วงจากกลางอากาศราวกับว่าวที่สายป่านขาด แล้วหลงเซียวก็ฉวยโอกาสเล็งกระบี่มายังภาพเขียนที่อยู่กับเฉินผิง หลังจากนั้นไม่นาน ภาพเขียนก็ลอยแล้วตกลงในมือของหลงเซียว

ในทางกลับกัน เฉินผิงก็กระแทกกับพื้นอย่างแรง เจ็บมากเสียจนรู้สึกงุนงงสับสนและเกือบจะมองเห็นดาวอยู่แล้ว

“เฉินผิง!” จ้าวฉวางรีบเข้าไปช่วยพยุงเฉินผิง

เฉินผิงจ้องมองกั๋วเว่ย เจ้าคนไร้ยางอายผู้นั้น! มันซุ่มโจมตีฉัน!

หลังจากได้ภาพเขียนมาไว้ในมือแล้ว หลงเซียวก็รีบไปหากั๋วเว่ยแล้วมอบภาพเขียนให้

เมื่อกั๋วเว่ยเปิดดู เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณอันมีชีวิตชีวาระลอกหนึ่งที่พุ่งมาที่ตนเอง ทั้งยังให้ความรู้สึกน่าอัศจรรย์อีกต่างหาก

ในตอนนั้นภาพได้เปลี่ยนเป็นสระน้ำที่มีบุปผาบานสะพรั่งและน้ำค้างที่แลดูเหมือนฝัน

“ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ...”

กั๋วเว่ยรู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นภาพเขียนตรงหน้า

“แกมันไอ้คนไร้ยางอาย! ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าแกจะซุ่มโจมตีฉัน! คนอย่างแกมันไม่คู่ควรที่จะเป็นผู้อำนวยการของสมาพันธ์ศิลปะการต่อสู้” เฉินผิงสบถพลางจ้องมองมาที่กั๋วเว่ย

กั๋วเว่ยยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “แกบอกว่าฉันซุ่มโจมตีแกงั้นรึ? มีใครเห็นฉันทำเรื่องพรรค์นั้นหรือเปล่าล่ะ? ทำไมแกไม่ถามคนอื่นๆ ที่อยู่ที่นี่ดูเล่า? พวกเขาเห็นอะไรไหมล่ะ? แกไม่แข็งแกร่งพอที่จะปกป้องภาพเขียนของตนเองได้ และนั่นก็คือความจริง ดังนั้นจงอย่าได้โทษผู้อื่นเพราะความไร้สามารถของตนเองเลย อย่าคิดว่าแกอยากจะทำอะไรก็ได้เพียงเพราะแกมีคุณชี่อยู่ข้างๆ ถึงฉันจะฆ่าแกที่นี่และเดี๋ยวนี้ เขาก็ทำอะไรไม่ได้หรอก”

เฉินผิงรู้สึกเดือดดาลเมื่อได้ยินสิ่งที่กั๋วเว่ยกล่าว แต่ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เขาไม่มีทางเลือกนอกจากระงับโทสะเอาไว้

หลังจากเห็นเฉินผิงเงียบไป กั๋วเว่ยก็เก็บภาพเขียนด้วยความดีใจ หลังจากนั้นเขาก็หันหน้าไปทางหูปาฉีพลางถามว่า “ประมุขหู มีกับดักอะไรอยู่บนโลงศพใบนั้นอีกหรือเปล่า?”

หูปาฉีตรวจสอบโลงศพที่อยู่เหนือศีรษะของเขา แต่สนิมกลับทำให้ทุกอย่างพร่าเลือน

“ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติครับ คุณกั๋ว แต่ผมก็ไม่มั่นใจจนกว่าจะได้ตรวจสอบให้ละเอียดเสียก่อน” หูปาฉีตอบ

“ได้ งั้นก็ตรวจสอบเลย ถ้าเป็นไปได้ก็เปิดโลงออกมาดูเสียเลย เผื่อจะมีสมบัติอะไรอยู่ในนั้น” กั๋วเว่ยสั่ง

หูปาฉีพุ่งทะยานร่างขึ้นสู่ฟ้า แล้วร่อนลงบนโลงศพอย่างมั่นคง

หลังจากนั้น เขาก็ใช้มือปัดฝุ่นออกจากโลงศพ ไม่นานหัวมังกรแกะสลักขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นมา มีตัวอักษรบางตัวอยู่ข้างๆ แต่พวกมันก็ตัวเล็กมากเสียจนเขาไม่สามารถอ่านได้

ดังนั้นเขาจึงกุมหัวมังกรแล้วค่อยๆ หมุน เพราะเขารู้ว่าต้องเป็นกลไกเปิดโลงศพ

เอี๊ยด!

เสียงดังแสบแก้วหูดังขึ้นแล้วโลงศพก็เริ่มสั่นสะเทือน เมื่อเห็นว่าหูปาฉีกระโดดลงจากโลงศพและกลับสู่พื้นดินแล้ว

ทุกคนก็แหงนหน้ามองไปที่โลงศพ สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือสนิมที่กำลังหลุดออกมา อักษรไขว้แปลกประหลาดเริ่มฉายส่องลงบนโลงศพ ให้ความรู้สึกราวกับอักษรไขว้เหล่านั้นกำลังห้อยแขวนอยู่กลางอากาศ กว่าพวกเขาจะทันได้รู้ตัว แสงสว่างก็เกือบจะทำให้เขาตาบอดเสียแล้ว

ทุกคนต่างรู้สึกประหลาดใจ ไม่นานตาข่ายสีทองขนาดมหึมาก็กลืนกินทั่วทั้งสถานที่ที่มองเห็นได้ แต่พลังกดดันอันหนักหน่วงกลับจำกัดพลังลมปราณของทุกคนเอาไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร