หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 991

“กะ เกิดอะไรขึ้น?”

ทุกคนรู้สึกประหลาดใจ พวกเขาโบกมือแต่พลังลมปราณของตนเองกลับหายไป แล้วเปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นคนธรรมดาสามัญไปถนัดตา

กั๋วเว่ยขมวดคิ้วพลางกำหมัดแน่น แต่พลังลมปราณภายในร่างก็ถูกจำกัดเอาไว้เช่นกัน และไม่มีทางที่จะสำแดงออกมาได้เลย

“ฉันคิดว่านี่คือวงแหวนอาคมที่ถูกออกแบบมาเพื่อจำกัดพลังลมปราณของพวกเรา” หูปาฉีอธิบาย

“มีวิธีใดที่จะทำลายวงแหวนอาคมนี้ได้หรือเปล่า?” กั๋วเว่ยถาม

เนื่องจากพลังลมปราณถูกจำกัดเอาไว้ ย่อมไม่มีทางที่จะสามารถเปิดโลงศพได้ ในทางกลับกันก็หมายความว่าพวกเขาก็จะไม่สามารถตรวจสอบดูว่ามีสมบัติใดอยู่ข้างใน

หูปาฉีส่ายหน้าพลางตอบว่า “วงแหวนอาคมระดับนี้เกินกำลังของผมแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังมีภูผารองรับและธาราเสริมกำลัง นั่นหมายความว่ามีเพียงจอมขมังเวทระดับสูงสุดเท่านั้นที่สามารถสร้างสิ่งแบบนี้ขึ้นมาได้ ถ้าหากผมเดาไม่ผิดล่ะก็ งั้นนี่ก็คือสายแร่มังกรในตำนานที่จักรพรรดิองค์ก่อนๆ เอ่ยถึง”

“สายแร่มังกรงั้นรึ?” กั๋วเว่ยเอ่ยถามด้วยความสงสัย

เขาไม่รู้เรื่องนั้นเลย ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจว่าอู๋ปาฉีกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่

“ในราชวงศ์ก่อน เชื้อพระวงศ์ได้ขอให้จอมขมังเวทผู้แกร่งกล้ามาค้นหาตำแหน่งที่เรียกกันว่าสายแร่มังกร เป็นที่กล่าวขานกันว่าบริเวณดังกลางจะนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศ ไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องที่จักรพรรดิองค์ใดพบสายแร่มังกรแห่งนี้ หรือแม้แต่เรื่องที่สุสานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่” หูปาฉีตอบ

กั๋วเว่ยเพิ่งจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากหูปาฉีอธิบายทุกอย่างให้ฟัง ฝ่ายแรกฝืนใจอยู่บ้างที่จะยอมแพ้ให้กับโลงศพใบนั้น แต่พวกเขาได้สูญสิ้นพลังลมปราณไปหมดแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเข้าใกล้โลงศพได้อีกและได้แต่กลับไปทางเดิม ในเมื่อได้ภาพเขียนแผ่นนี้มา ฉันคิดว่าการเดินทางครั้งนี้ก็ไม่เสียเที่ยวแล้ว

“งั้นก็กลับกันเถอะ พวกเราเจอโลงศพแล้ว แต่ไม่มีวิธีที่จะเปิดมันได้ เช่นนั้นก็คงต้องยุติการสำรวจเพียงเท่านี้แหละ”

กั๋วเว่ยไม่มีทางเลือกนอกจากออกคำสั่งแล้วยุติการสำรวจ

หลายคนรู้สึกผิดหวัง เพราะพวกเขาคิดว่าจะได้ของล้ำค่ามากมายจากสุสานจักรพรรดิ แต่สุดท้ายพวกเขาต้องกลับออกมามือเปล่า สิ่งที่พวกเขาได้คือภาพเขียน... ที่หลงเซียวเอ่ยอ้างเท่านั้น

แต่ในเมื่อกั๋วเว่ยออกคำสั่งแล้ว ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตตาม อย่างไรเสียอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้โดยไร้ซึ่งพลังลมปราณ

ขณะที่กั๋วเว่ยกำลังจะพาคนอื่นๆ กลับไป จู่ๆ เฉินผิงก็ก้าวมาข้างหน้า

“ช้าก่อน! แกคิดจริงๆ งั้นเหรอว่าหลังจากขโมยของของฉันไปแล้วก็จะสามารถจากไปได้น่ะ?”

เฉินผิงแสยะยิ้ม ขณะที่แววอำมหิตวูบผ่านดวงตาของเขาไป

เมื่อสักครู่นี้ตอนที่วงแหวนอาคมทำงานและพลังลมปราณของทุกคนถูกจำกัดอยู่นั้น เฉินผิงได้ลองใช้พลังของตนเองดู ช่างน่าประหลาดที่มันไม่มีผลกับเขาแต่อย่างใด

เฉินผิงไม่เคยใช้พลังลมปราณและเคยใช้แต่พลังวิญญาณเท่านั้น นั่นคือสาเหตุที่ทำให้วงแหวนอาคมไม่มีผลอะไรกับเขา

ตอนนี้พลังลมปราณของทุกคนถูกจำกัดเอาไว้ กั๋วเว่ยและคนอื่นๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาสามัญ และเฉินผิงก็ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขาอีก ช่างเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้เอาภาพเขียนของตนเองกลับคืนมา

“เฉินผิง คิดจะทำอะไรน่ะ?” หลงเซียวเอ่ยถามพลางหันไปทางเฉินผิง

“แน่นอนว่าย่อมต้องเอาภาพเขียนของตนเองกลับคืนมาอยู่แล้ว”

ทันทีที่เฉินผิงพูดจบ เขาก็ก้าวเดินเข้าไปหาหลงเซียว

“พลังลมปราณของฉันอาจจะถูกจำกัดเอาไว้ แต่แกก็ใช่ว่าจะดีไปกว่ากันสักเท่าไหร่นักหรอก เฉินผิง ถ้าหากแกคิดจะทำอะไรล่ะก็ พวกเราจะรุมเล่นงานแล้วอัดแกให้เลยเลยเชียวล่ะ!”

หลงเซียวไม่กังวลสักนิด พลังลมปราณของเขาอาจจะถูกจำกัดเอาไว้ แต่เขาเชื่อมั่นว่าเฉินผิงตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่พอๆ กัน นั่นหมายความว่าไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัวคนผู้นั้นแต่อย่างใด

“งั้นเหรอ? เช่นนั้นทำไมแกไม่ลองดูเล่า?”

เฉินผิงก้าวมาข้างหน้าแล้วชิงเอาภาพเขียนไปได้อย่างง่ายดาย

หลงเซียวรู้สึกประหลาดใจ เขาชกใส่เฉินผิง แต่หมัดดังกล่าวกลับเป็นพลังระเบิดทางกายภาพโดยสิ้นเชิง ไม่มีพลังลมปราณที่คอยช่วยเหลือหรือเสริมกำลังแต่อย่างใด

ปัง!

หมัดของหลงเซียวชกใส่หน้าอกของเฉินผิง แต่เฉินผิงกลับไม่ขยับเขยื้อน วินาทีต่อมา เสียงแผดร้องด้วยความเจ็บปวดของหลงเซียวก็ดังขึ้น

ดูเหมือนความเจ็บปวดจะแผ่ไปทั่วร่างของเขา และหลงเซียวก็รู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งจะชกใส่ท่อนเหล็กมาก็ไม่ปาน

เพี๊ยะ!

เฉินผิงตบหลงเซียว ทำให้ร่างของฝ่ายหลังลอยขึ้นกลางอากาศราวกับว่าวที่สายป่านขาด ก่อนจะกระแทกเข้ากับกำแพงในวินาทีต่อมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร