หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 992

สถานการณ์ที่จู่ๆ ก็เกิดเหตุพลิกผันเช่นนี้ทำให้ทุกคนจ้องมองเฉินผิงด้วยความไม่อยากเชื่อ ในเมื่อพลังลมปราณของทุกคนถูกจำกัดเอาไว้ พวกเราล้วนเป็นเพียงแค่คนธรรมดาสามัญ เช่นนั้นคนธรรมดาสามัญตบเสียแรงขนาดนั้นได้อย่างไรกัน?

“เฉินผิง แกไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วใช่ไหม? มอบภาพเขียนมาเดี๋ยวนี้!” กั๋วเว่ยเดินเข้ามาหาเฉินผิงแล้วจ้องมองมาที่เขา

“แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ภาพเขียนเป็นของฉันแล้วฉันก็จะไม่ยอมมอบให้ใครทั้งนั้น ถ้ามีปัญญาก็เข้ามาเอาจากฉันเองสิ ว่าแกเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นสูงสุดไม่ใช่หรอกเหรอ? แกทั้งยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามไม่ใช่หรอกเหรอ? เช่นนั้นก็เข้ามาเอาไปสิ!” เฉินผิงยั่วยุกั๋วเว่ย

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์คิดว่าเฉินผิงบ้าไปแล้ว เพราะเขาเพิ่งจะท้าทายกั๋วเว่ยต่อหน้าผู้คน

“แกกำลังรนหาที่ตายอยู่หรือไง ฮะ?” กั๋วเว่ยที่มีสีหน้าเย็นชายกมือขึ้นแล้วสะบัดไปทางเฉินผิง

ถึงแม้ว่าพลังลมปราณของเขาจะถูกจำกัดเอาไว้ แต่กั๋วเว่ยก็ยังตบได้ค่อนข้างแรง

เนื่องจากเฉินผิงรู้สึกรำคาญกั๋วเว่ยเป็นทุนอยู่แล้ว ตอนที่คนผู้นั้นกำลังจะตบเขาอยู่นั้น เขาจึงยื่นมือไปคว้าคอเสื้อของกั๋วเว่ย จากนั้นเขาก็ยกกั๋วเว่ยขึ้นได้อย่างสบายๆ

ในขณะนั้น กั๋วเว่ยที่แลดูราวกับสัตว์เลี้ยงอ่อนแอที่ดิ้นรนกระเสือกกระสนอยู่ในเงื้อมมือของเฉินผิง

กั๋วเว่ยที่รู้สึกอัปยศอดสูขู่คำรามขึ้นมาว่า “เฉินผิง ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้แกอยู่มิสู้ตาย!”

“ป่านนี้แล้ว แกยังคิดจะขู่ฉันแบบนี้อยู่อีกเหรอ?” ขณะที่เฉินผิงเอ่ยเช่นนั้น เขาก็ยกมือขึ้นแล้วเริ่มตบกั๋วเว่ย

เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!

หลังจากถูกตบซ้ำแล้วซ้ำเล่า แก้มของกั๋วเว่ยก็บวมเป่ง

ทุกคนรู้สึกตกตะลึงเมื่อพวกเขาเห็นเฉินผิงตบตีกั๋วเว่ย แต่กลับไม่มีใครกล้าสอดมือเข้ามายุ่ง

ตอนที่พวกเขามองเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา พวกเขาก็รู้ว่าวงแหวนอาคมไม่ได้จำกัดพลังของเฉินผิงสักนิดเดียว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ตอนนี้เฉินผิงจึงเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่าและไม่มีใครกล้าท้าทายเขา

“แกยังกล้าขู่ฉันอีก” เฉินผิงมองกั๋วเว่ยพร้อมแสยะยิ้ม

กั๋วเว่ยอ้าปากค้าง แต่กลับไม่ได้พูดอะไร ดังนั้นเขาจึงลงเอยด้วยการก้มศีรษะอย่างอับจนหนทาง ขืนฉันตอบโต้ เฉินผิงคงจะสังหารฉันจริงๆ แน่

หลังจากกะเทาะเอาความโอหังของกั๋วเว่ยออกแล้ว เฉินผิงก็โยนคนผู้นั้นไปทางด้านข้าง

เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าของหลงเซียวก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ก่อนหน้านั้น เขาคิดจะตวาดด่าเฉินผิง แต่ยามนี้เขารู้ว่าต้องสงบปากสงบคำและห้ามล่วงเกินเฉินผิงเป็นอันขาด

ถึงกระนั้น เฉินผิงก็ยังไม่คิดจะปล่อยเขาไป เขาเดินเข้าไปหาหลงเซียวแล้วคว้าเส้นผมของฝ่ายหลังเอาไว้กำมือหนึ่ง ก่อนจะลากตัวเขาไปด้านข้าง

“เฉินผิง ฉะ ฉันมอบภาพเขียนให้แกแล้ว ทำไมแกยังไล่ตามฉันมาอีกเล่า?” หลงเซียวตัวสั่นพลางเอ่ยถามด้วยความสับสน

“อืม ฉันก็แค่ทนสายตาของแกไม่ไหวแล้ว เหตุผลเท่านั้นเพียงพอหรือยังล่ะ?” เฉินผิงถีบเข้าที่หน้าอกของเขา ก่อนจะโขกศรีษะของเขากับกำแพงหิน

ไม่นาน ใบหน้าของหลงเซียวก็ชุ่มโชกไปด้วยโลหิตและบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บปวด

ทุกคนทำได้เพียงเฝ้ามองดู แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางเฉินผิง ถึงแม้ว่าสีหน้าของกั๋วเว่ยจะเปลี่ยนเป็นอึมครึม แต่เขาก็ไม่กล้าสอดมือเข้าไปยุ่งเช่นเดียวกัน

ปรมาจารย์ยุทธ์ของตระกูลหลงทั้งสองคนกำลังกระวนกระวายใจ ในเมื่อพวกเขาไม่กล้าสอดมือเข้าไปยุ่ง พวกเขาจึงมองไปทางหลงซิงซู

ในขณะนั้น สีหน้าของหลงซิงซูกลับไม่เปลี่ยนแปลง แต่เขากำลังย่ามใจอยู่ข้างในเพราะเขาเองก็รู้สึกรำคาญหลงเซียวมานานแล้ว ถ้าหากเขามีโอกาส เขาก็อยากลงไม้ลงมือกับหลงเซียวเช่นกัน

หลงเซียวใกล้จะตายอยู่แล้ว แต่เฉินผิงก็ไม่คิดจะหยุดมือเลยสักนิด

ไม่มีใครรู้สาเหตุที่ทำให้เฉินผิงลงไม้ลงมือกับหลงเซียวอย่างบ้าคลั่งถึงเพียงนั้น และพวกเขาก็รู้สึกสงสัยถึงสาเหตุที่ทำให้เฉินผิงเกลียดชิงเขามากถึงขนาดนั้น

น้อยคนนักที่จะทราบว่าการที่เฉินผิงทำเช่นนั้น เพราะเขานึกถึงเรื่องที่มารดาของเขาถูกตระกูลหลงข่มเหงจึงทำให้เขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ในยามนั้น ต่งเจียห่าวก็เดินเข้ามาเกลี้ยกล่อมเขา “เฉินผิง พอได้แล้วน่า ถ้าหากคุณสังหารหลงเซียว คุณอาจจะมีปัญหาในอนาคตได้นะ”

เฉินผิงได้แต่ยิ้มตอบอย่างมีเลศนัย ถึงฉันจะไม่สังหารหลงเซียว ตระกูลหลงก็คงไม่ปล่อยเขาไปหรอก แต่เขายังไม่เอาชีวิตมันหรอก ฉันจะรอคอยโอกาสเพื่อแลกชีวิตของมันกับมารดาของฉัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร