ตอนที่เฉินผิงปล่อยหลงเซียวไป ฝ่ายหลังก็ร่วงลงกับพื้นราวกับตุ๊กตาเก่าขาดตัวหนึ่ง
จากนั้นหลงซิงซูก็ให้ปรมาจารย์ยุทธ์ของตระกูลหลงทั้งสองคนช่วยพยุงหลงเซียว
เฉินผิงเหลือบมองทุกคนพลางเอ่ยขึ้นมาว่า “ภาพเขียนแผ่นนี้เป็นของผม และไม่มีใครจะเอามันไปจากผมได้ ใครก็ตามที่พยายามจะช่วงชิงมันไปจากผม คุณสามารถเข้ามาลองดูได้ หากไม่มีใครมีความคิดเห็นอื่นใดอีก เช่นนั้นก็จงไสหัวไปให้พ้น!”
หลังจากได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ก็ไม่มีใครกล้ามีความคิดที่จะเอาภาพเขียนไปอีก ดังนั้นพวกเขาจึงกลับไปยังเส้นทางที่จากมา
ในขณะเดียวกัน คนจากตระกูลหลงก็มาพยุงกั๋วเว่ยกับหลงเซียวออกไป
“หากฉันไม่แก้แค้น ฉันสาบานว่าจะไม่ขอเป็นมนุษย์อีก ฉันจะต้องฆ่ามันให้จงได้!” หลงเซียวที่เดินออกมาจากถ้ำตะโกนอย่างโกรธจัด หลังจากพลังลมปราณฟื้นกลับคืนมาแล้ว
“อย่ากังวลไปเลย ไอ้เด็กบ้านั่นออกจาสุสานโบราณไม่ได้หรอก ถ้าหากมันกล้าออกมาล่ะก็ ฉันจะฉีกมันเป็นชิ้นๆ เอง” แววตาของกั๋วเว่ยผุดเจตจำนงสังหารขึ้นมาวูบหนึ่ง
หลังจากทุกคนออกไปแล้ว หนิงจื้อก็ยังคงอยู่ในถ้ำ เขาเอาแต่ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับว่าเขากำลังรอคอยอะไรสักอย่าง
“คุณหนิง ทุกคนจากไปแล้ว ทำไมคุณยังยืนอยู่ตรงนี้ล่ะครับ?” ต่งเจียห่าวเอ่ยถาม
“ฉันแค่สงสัยว่ามีอะไรอยู่ข้างในโลงศพกันแน่ ฉันอยากตรวจสอบดูสักหน่อยน่ะ” หนิงจื้อตอบเสียงเรียบ
“ทว่ายามนี้พลังลมปราณของพวกเราถูกจำกัดเอาไว้ มิใช่เหรอ? พวกเราไม่สามารถเข้าใกล้โลงศพหลังนั้นได้ แล้วคุณจะตรวจสอบได้ยังไงกันเล่า?” ต่งเจียห่าวเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“อืม พวกเรามีเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ?” หนิงจื้อชี้ไปทางเฉินผิง “เขาต้องเปิดโลงศพได้แน่ๆ”
ต่งเจียห่าวมองเฉินผิงแล้วถามว่า “เฉินผิง คุณคิดจะเปิดโลงศพไหมครับ?”
เฉินผิงผงกศีรษะ ในเมื่อฉันอยู่ที่นี่แล้ว ฉันก็อยากจะรู้ว่าโลงศพมีของล้ำค่าอะไรอยู่
“แต่คุณก็ต้องระวังตัวด้วย แถวนี้มีกับดักอยู่มากมาย ถึงคุณจะได้ของล้ำค่าบางอย่างไป คุณก็คงจะออกไปไม่ได้ อย่างไรเสีย คนพวกนั้นก็กำลังรอคุณอยู่ข้างนอก” ต่งเจียห่าวเอ่ยเตือน
“ผมรู้ครับ แต่ผมก็อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในโลงศพก่อน” หลังจากกล่าวเช่นนั้น เฉินผิงก็กระโดดแล้วร่อนลงบนโลงศพ
เมื่อเขาเห็นหัวมังกรที่นูนออกมาเล็กน้อย เขาก็กลั้นหายใจแล้วหมุนเบาๆ
เอี๊ยด!
เสียงเสียดสีดังขึ้น และฝาโลงก็ค่อยๆ เปิดออก
หลังจากมันเปิดออกแล้ว ก็มองเห็นลำแสงสีทองวูบผ่านมาจากด้านใน จากนั้นเฉินผิงก็มองเห็นศพที่แต่งกายในอาภรณ์สีทองพร้อมมงกุฎประดับศีรษะ
ไม่ทราบว่าผ่านมากี่ปีแล้ว แต่ศพก็ยังคงอยู่ในท่าเดิมและมิได้เน่าเปื่อยผุพังแต่อย่างใด ทั้งยังมีเครื่องประดับที่ทำขึ้นมาจากหยกทั้งสองข้างของศพ
ทันทีที่โลงศพเปิดออก เฉินผิงก็สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณระลอกใหญ่ที่ออกมาจากนั้น บางทีการที่ศพไม่เน่าเปื่อยก็เพราะพลังวิญญาณ
“เฉินผิง มีสมบัติอยู่ในนั้นหรือเปล่า?” เมื่อเขาเห็นโลงศพเปิดออก ต่งเจียห่าวก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ไม่มีเลย มีแต่เครื่องประดับบางส่วน แต่พวกมันไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อการบำเพ็ญฌานอย่างแท้จริง” เฉินผิงส่ายหน้า เขาไม่สนใจเครื่องประดับเพราะเขาไม่ได้ต้องการเงิน สุดท้ายเขาจึงหยิบของไม่กี่ชิ้นที่มีพลังวิญญาณแล้วเก็บพวกมันใส่กระเป๋า
ตอนที่เฉินผิงกำลังเข้าใกล้โลงศพนั้น จู่ๆ เขาก็ถูกแหวนสีดำที่ศพสวมใส่อยู่ดึงดูดเข้าให้ จักรพรรดิส่วนใหญ่ชอบสวมใส่แหวนที่ทำขึ้นจากหยก ฉันไม่เคยเห็นจักรพรรดิที่สวมใส่แหวนสีดำที่ไม่มีเสน่ห์ดึงดูดใจมาก่อน
เนื่องจากแหวนดึงดูดความสนใจของเฉินผิง เขาจึงหยิบแหวนแล้วเก็บใส่กระเป๋าก่อนจะปิดโลงศพ
ตอนที่เฉินผิงลงมาจากโลงศพ ต่งเจียห่าวกับจ้าวฉวางก็เดินเข้าไปหาเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เฉินผิง แสดงสิ่งที่คุณพบให้พวกเราดูหน่อยสิครับ!” จ้าวฉวางเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น
ในเวลานั้นเอง หนิงจื้อก็พาผู้เฒ่าหลังค่อมคนหนึ่งมาพร้อมกับเขาด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร
ไม่เด็ดขาดสักที เวลาสู้กัน รอดตลอดทั้งที่พลังว่าแกร่งดาบก็เทพ แต่ฟาดออกไปไม่เด็ดขาดสักครั้ง...
น่าจะฝึกให้แกร่งขึ้นตั้งแต่แรกแล้วมาช่วยร่างน้ำแข็ง เอาแก่นมังกรให้ครบสองอัน น่าจะมีคนบอกวิธีการบำเพ็นเพรียรที่เก่ง เฉินเป่ยซานน่าจะช่วยได้อิอิ อ่อคนละเรื่อง...
ติดตามอ่านทุกวันเลย ขอบคุณที่อัพเดตให้ได้อ่านทุกวันนะครับ สนุกมากๆเลย แต่อยากให้อัพเดตเพิ่มขึ้นอีกนิดจะขอบคุณมากเลยครับ...
ยังไปได้อีกไกล ตอนนี้ยังเทียบได้แค่ฝุ่นในจักรวาล อยากอ่านต่อเร็วๆแล้วสิ...
เรื่องนี้มันมีหนังสือหรือป่าวอ่านแล้วรู้สึกว่านี้แค่เริ่มต้นเรื่องช่วงเก็บเกี่ยววิชาอยู่เลย...
สนุกและติ่นเต้นมากขึ้นๆทุกวันเลยครับ ขอบคุณที่คอยอัพเดตเนื้อหาให้ได้อ่านทุกวันครับ...
สนุกทุกตอนครับ...
รออ่านตอนต่อไป...
ขอบคุณมากครับที่คอยอัพเดตให้ได้อ่านทุๆวัน เป็นกำลังใจให้เสมอครับ...
รออ่านตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว สนุกมากๆเลย ยิ่งอ่านยิ่งสนุกยิ่งตื่นเต้น...