เมื่อคืนนี้กอดเกี้ยวกันทั้งคืนแล้วก็แล้วไป แต่นี่กลางวันฟ้ายังสว่างก็ยังไม่เลิกรา ซูเฟิ่งอี๋กังวลว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ลูกชายตนเองจะถูกเจิ้งหมานหม่านรีดไถจนแห้งเหือดเข้าให้สักวัน
ซูเฟิ่งอี๋ยืนฟังอยู่ริมหน้าต่างครู่หนึ่งก็จากไป
เพียงแต่นางก็รู้สึกเปล่าเปลี่ยวในใจเช่นกัน ปีใหม่ทั้งที ลูกชายพาลูกสะใภ้กลับมาที่บ้าน แต่สามีกลับไม่กลับมา
สามีของซูเฟิ่งอี๋ หม่าเจ๋อหวน เป็นเขยแต่งเข้าบ้าน ในอดีตสองสามีภรรยาก็รักกันดี แต่หม่าเจ๋อหวนก็ค่อยๆ ทนนิสัยของซูเฟิ่งอี๋ไม่ได้ ดังนั้นหลายปีมานี้จึงออกไปทำงานซ่อมบำรุงเขื่อนอยู่นอกบ้าน และไม่ได้กลับบ้านมาหนึ่งปีแล้ว
ช่วงเวลาปกติก็ว่าไปอย่าง แต่ตอนนี้เป็นช่วงเทศกาลวันหยุด เมื่อเห็นลูกชายกับลูกสะใภ้เง้าง้อคลอเคลียกัน ไม่ต้องพูดถึงเลยว่านางรู้สึกไม่สบอารมณ์มากเช่นไร
ซูเฟิ่งอี๋ถอนหายใจ ตอนนี้ขอแค่เจิ้งหมานหม่านจะรีบๆ คลอดหลานตัวน้อยให้นางสักคน นางก็จะไม่ต้องเหงามากมายเช่นนี้
อีกด้านหนึ่ง กู้อวิ๋นเม่ยกับซูจื่อหังมาถึงหน้าประตูบ้านตระกูลถูแล้ว
ทั้งสองคนยังไม่ทันจะเข้าประตู ก็เห็นเหลียงปินกำลังพาถูหมิงซวนมาจากที่ไกลๆ
ทั้งสองฝ่ายเจอกันพอดี
เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างกันคือเหลียงปินกับถูหมิงซวนนั้นนั่งเกวียนวัวมา ส่วนซูจื่อหังกับถูซินเยว่เดินมา
สำหรับชุมชนชนบท เกวียนวัวไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ ก็นั่งได้
แม้แต่บ้านต้าจู้เองก็ยังเป็นแค่สาลี่เท่านั้น
ในหมู่บ้านนี้นอกจากบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน ก็ไม่มีบ้านไหนที่มีเกวียนวัวอีกแล้ว
เดิมทีซูจื่อหังกับถูซินเยว่ใกล้จะเดินถึงตรงหน้าประตูแล้ว ทว่ากลับเห็นเลียงปินบังคับเกวียนพุ่งตรงเข้ามา
ทั้งคู่จึงถูกบังคับให้ก้าวถอยหลังไปโดยปริยาย ส่วนเกวียนวัวก็มาจอดปิดอยู่ตรงหน้าทางเข้า เหลียงปินนั่งอยู่บนเรือนเกวียนพูดด้วยท่าทีหยิ่งยโสว่า "อะอ้าว ต้องขอโทษด้วยจริงๆ วัวมันไม่เชื่อฟัง เลยหยุดไม่อยู่ รบกวนพวกเจ้ายืนข้างหลังนะ"
ถึงแม้ที่พูดมาจะเป็นประโยคขอโทษ แต่ไม่มีใครรับรู้ได้ถึงการขอโทษจากเขาเลย
ถูหมิงซวนนั่งอยู่ข้างๆ เหลียงปิน สวมชุดคลุมสีแดง ซึ่งยิ่งส่งเสริมให้เธอดูสดสวย เช้าวันนี้ก่อนจะออกจากบ้าน เหลียงปินเพิ่งมอบความชุ่มฉ่ำให้นาง ดังนั้นตอนนี้จึงยังสามารถมองเห็นความอิ่มเอมได้จากใบหน้าของหญิงสาว
เมื่อคิดถึงความอับอายที่ซูจื่อหังฝากไว้ นางก็เกิดความรู้สึกอึดอัดใจและไม่ยอม
นางไม่ได้กล่าวโทษซูจื่อหัง แต่กลับพุ่งความเคียดแค้นและความเกลียดชังไปที่ถูซินเยว่แทน
เมื่อเห็นว่าไม่เจอกันเพียงแค่ครึ่งเดือน ถูซินเยว่ก็ผอมลงไม่น้อย และผิวพรรณก็ขาวผ่องขึ้นอีก ขนาดที่เธอแต่งหน้าแล้วก็ยังสู้ไม่ได้ ดวงตาของถูหมิงซวนก็ฉายแววอิจฉาทันที
"ที่รัก พวกเราเข้าไปข้างในกันเถอะ ท่านแม่รอเราอยู่ข้างใน"
"อื้อ!" เหลียงปินตบที่หลังมือถูหมิงซวนเบาๆ และถือโอกาสจับมือนางด้วย
ครึ่งปีที่ผ่านมา ถูหมิงซวนก็นับว่าเข้าใจนิสัยของเหลียงปินเป็นอย่างดี และปรนนิบัติจนเหลียงปินยอมกำราบให้ทุกอย่าง ผู้ชายน่ะเมื่อเรื่องบนเตียงได้รับความพึงพอใจแล้ว การจะพูดจะจาก็เป็นเรื่องง่าย
ถูหมิงซวนเข้าใจในเรื่องนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นไม่ว่าเหลียงปินจะมีข้อเรียกร้องอะไรที่เกินความสมเหตุสมผล นางก็รับปากทุกอย่าง เพราะกลัวเพียงอีกฝ่ายจะไม่พอใจ
เหลียงปินโอบถูหมิงซวนเดินเข้าไปในลานบ้านด้วยกัน
ถูซินเยว่ขมวดคิ้ว มองไปยังเกวียนวัวที่ขวางอยู่ตรงประตู แล้วหันไปพูดกับชายหนุ่มข้างๆ ด้วยความเซ็ง "พวกเราจะเข้าไปอย่างไร?"
ประตูถูกขวางไว้หมดแล้ว

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...