เดิมทีถูซินเยว่คิดจะใช้สิ่งอื่นเบี่ยงเบนความสนใจนางหลิน แต่เมื่อเธอได้ยินดังนั้นแก้มก็แดงระเรื่อทันที เธอรีบคว้าตัวนางหลินที่คิดจะลุกขึ้น และพูดด้วยความร้อนรนว่า "ท่านแม่ ท่านอย่าไปนะ!"
เรื่องแบบนี้นางหลินมาถามตนเองส่วนตัวก็น่ากระอักกระอ่วนใจมากพออยู่แล้ว หากเรื่องไปถึงซูจื่อหังละก็ ถูซินเยว่คิดว่าตนเองคงไม่กล้าออกจากประตูบานนี้ไปเผชิญหน้ากับเขาแน่ๆ
"ถ้าเจ้าไม่ให้แม่ไปบอกกับจื่อหัง เช่นนั้นเจ้าก็บอกแม่มาสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้ากันแน่?"
เมื่อก่อนซินเยว่รูปร่างอ้วน ซูจื่อหังไม่อยากร่วมหอกับเธอก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ตอนนี้ซินเยว่ผอมลงแล้ว หน้าตาก็สวยงามมากขึ้นด้วย
ตามหลักจื่อหังก็ไม่น่าจะรังเกียจอีกฝ่ายแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเท่าที่เห็นท่าทีที่ซูจื่อหังปฏิบัติต่อซินเยว่ก็ไม่เหมือนว่ารู้สึกรังเกียจอีกฝ่ายเลย
นางหลินรู้สึกงุนงง เมื่อมองท่าทางเขินอายของถูซินเยว่ นางที่นึกคิดอยู่นาน ทันใดนั้นก็ตาสว่างขึ้นมาทันที
จริงสิ เมื่อก่อนลูกสาวมักจะซื่อๆ โง่ๆ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย ซูจื่อหังก็ร่ำเรียนแต่ตำราวิชา ท่าทางดูเป็นคนน่าเบื่อ ดังนั้นต้องเป็นเพราะว่าซินเยว่และซูจื่อหังต่างก็ไม่รู้ว่าร่วมหอเป็นอย่างไรแน่ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น นางหลินก็ตบไปที่หลังมือของซินเยว่เบาๆ พูดอย่างลึกซึ้งว่า "เจ้ารอก่อน แม่ไปหยิบของมาให้เจ้า วันนี้เจ้าเอากลับไป แล้วกลางคืนไปดูกับจื่อหังด้วยกันสองคน"
ถูซินเยว่ไม่เข้าใจ เธอมองดูนางหลินที่เดินไปข้างตู้ด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ นางเปิดประตูตู้ออก จากนั้นก็หยิบห่อผ้าห่อหนึ่งออกมาจากข้างใน
ห่อผ้านั้นถูกห่อไว้อย่างมิดชิด ดูเหมือนจะเป็นสิ่งของล้ำค่าอะไรสักอย่าง
ถูซินเยว่ขมวดคิ้ว มองไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่กำลังจะถามว่ามันคืออะไร นางหลินก็เดินมาแล้ว
นางหลินนั่งลงที่ด้านหน้าของถูซินเยว่ ใบหน้าแต้มด้วยรอยยิ้ม
ถูซินเยว่ไม่เคยเห็นนางหลินที่เป็นเช่นนี้ เธอรับห่อผ้าจากนางหลินด้วยความสงสัย ขณะที่กำลังจะแกะออก นางหลินกลับจับมือเธอเอาไว้ และพูดสั่งว่า "คืนนี้กลับไปแล้วค่อยไปแกะดูกับจื่อหัง"
ถูซินเยว่เลิกคิ้ว แม้จะรู้สึกสงสัยมาก ทว่าก็ได้แต่อดทนไว้ก่อน เธอพยักหน้าและพูดว่า "เจ้าค่ะ"
โชคดีที่ตั้งแต่ที่นางหลินให้ห่อผ้ากับเธอ นางก็ไม่ถามเรื่องร่วมหอของเธอและซูจื่อหังอีก นั่นทำให้ถูซินเยว่รู้สึกโล่งอก
หากแม่ถามอีก ต่อให้ถูซินเยว่จะหน้าด้านมากแค่ไหน ก็อยากเอาตัวแทรกแผ่นดินหนีไปเสียให้ได้
หลังจากที่ออกมาจากห้องของนางหลิน ซูจื่อหังกำลังคุยกับถูซานอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อเห็นถูซินเยว่ ก็หันหลังมายิ้มให้เธอ
เมื่อเห็นชายหนุ่มยิ้ม ถูซินเยว่ก็นึกถึงคำพูดเมื่อสักครู่ของนางหลิน แก้มก็แดงทันที และไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอมีความรู้สึกว่าหัวใจนั้นเต้นเร็วขึ้น
"ท่านพ่อ ท่านพี่ซู ข้าออกไปสูดหายใจก่อน" ถูซินเยว่กลัวว่าตนเองจะแสดงท่าทีไม่เป็นธรรมชาติต่อซูจื่อหัง แล้วอีกฝ่ายจะจับได้ จึงรีบหาข้ออ้างให้ตนเอง และเดินออกไปทางประตูข้าง
จะว่าไปแล้ว แม้ว่าเจ้าของร่างเดิมจะเติบโตที่ตระกูลถู แต่ถูซินเยว่ข้ามมิติมาก็แต่งงานไปอยู่ที่ตระกูลซูแล้ว ดังนั้นถูซินเยว่จึงไม่รู้จักสถานที่ที่เจ้าของร่างเดิมเติบโตมาเลย
เมื่อออกจากประตูข้างของเรือนสาม ข้างนอกมีกองฟางที่ตั้งเรียงจนสูง และเมื่อมองต่อไปก็เห็นลำธารเล็กๆ ที่ไหลโค้งเป็นสาย บนลำธารมีหินแบนๆ อยู่ก้อนหนึ่งที่ถูกขัดจนเงาสะอาดเป็นอย่างมาก ซึ่งเดาได้เลยว่าปกติแล้วนางหลินน่าจะซักเสื้อผ้าที่ตรงนี้
ถูซินเยว่เดินต่อไป ขณะกำลังคิดจะกวักน้ำล้างหน้า ก็คิดไม่ถึงว่า เธอที่เพิ่งจะยืนนิ่ง ด้านหลังก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น
"ซินเยว่!"
เสียงนี้...เหลียงปิน!
พูดตามตรงที่จริงแล้วเหลียงปินเรียกชื่อของถูซินเยว่น้อยมาก


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...