อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถูซินเยว่ได้รับมานั้นไม่ใช่การศึกษาเชิงอุดมการณ์ในสมัยโบราณ ดังนั้นการที่ว่าผู้ชายต้องออกไปทำงานผู้หญิงต้องดูแลบ้าน สำหรับเธอดูแล้วมันไร้สาระสิ้นดี
ตราบใดที่สามารถทําให้ครอบครัวดีขึ้นได้ เธอก็ยินดีที่จะทํา ยิ่งไปกว่านั้น ความปรารถนาของถูซินเยว่ในตอนนี้คือรวยขึ้นมา
ถ้าให้เธอต้องมาอยู่บ้านทุกวันและไม่ยอมให้เธอออกไปไหนเลยจริง ๆ ล่ะก็ เกรงว่าถูซินเยว่คงจะต้องบ้าไปก่อนแล้วแน่ ๆ
ชีวิตที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้นั้นได้มาจากการที่เธอสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระในชนบทโบราณมาต่างหาก ถูซินเยว่ชอบชีวิตแบบนี้มากกว่า
"ท่านพี่ซู ข้าล่ะอิจฉาท่านจริง ๆ เลยนะ ข้าล่ะอยากมีเมียแบบนี้บ้างเหมือนกันจัง" หลี่เม่ายิ้มเขิน ๆ ให้กับถูซินเยว่พลางพูดขึ้น
ซูจื่อหังชําเลืองมองอีกฝ่ายหนึ่งแล้วขวางถูซินเยว่ไว้ด้านหลังตัวเองและพูดอย่างเย็นชาว่า "งั้นเจ้าก็คิดไปก็แล้วกัน"
ถ้ารู้แต่แรกว่าหลี่เม่าชอบเมียของตัวเอง เขาก็ไม่ควรขึ้นรถม้า
ส่วนถูซินเยว่นั้น พอเห็นแผ่นหลังของเขาที่ขวางอยู่ด้านหน้าตนแล้ว ก็ค่อยๆ ยื่นมือออกมากอดแผ่นหลังอันกว้างหนาของซูจื่อหังไว้จากด้านหลัง
อยากได้เมียที่ดีอย่างเธอ แล้วทนความอัปลักษณ์ก่อนหน้านี้ของเธอได้หรือเปล่าล่ะ?!
เมื่อนึกถึงสภาพหญิงอ้วนอัปลักษณ์ที่เมื่อก่อนนั้นหนักถึง 200 กิโลกรัมของตัวเอง ทั้งยังผมเผ้ายุ่งเหยิงและทั้งตัวมันเยิ้มส่งกลิ่นเหม็น แต่ซูจื่อหังอาศัยความรับผิดชอบของตัวเอง แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเมียคนนี้ก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยปฏิบัติต่อเธออย่างไม่ยุติธรรมและไม่เคยทําร้ายเธอ
มีแต่ผู้ชายที่ทนสภาพที่แย่ที่สุดของเธอได้เท่านั้นถึงจะคู่ควรกับสภาพที่ดีที่สุดของเธอ
หัวใจของหญิงสาวเต็มไปด้วยความอบอุ่น
ซูจื่อหังที่ถูกถูซินเยว่กอดไว้ในอ้อมกอดนั้นตัวแข็งทื่อไปทั้งร่าง เมื่อรับรู้ถึงความนุ่มนวลของหญิงสาว ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก็ปรากฏสีแดงระเรื่ออย่างไม่เป็นธรรมชาติออกมา
แต่เอวของเขาตอนนี้ถูกกอดถูซินเยว่กอดอยู่ รับรู้ถึงอีกฝ่ายนั้นอยู่ข้าง ๆ เขา ซูจื่อหังนั้นก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกสบายใจเช่นนี้มันราวกับว่าถูซินเยว่เป็นส่วนหนึ่งของตนเองอย่างไหนอย่างนั้น
ทางด้านนี้ ถูซินเยว่ ซูจื่อหังและหลี่เม่า ทั้งสามคนกำลังนั่งเกวียนวัวไปยังอําเภอเมือง กลับไม่รู้ว่านางหยูที่อยู่บ้านนั้นบัดนี้กำลังหาเสื้อบังทรงของตัวเองไปทั่วบ้านอย่างกระวนกระวายอยู่
เดิมทีนางหยูคิดว่าเสื้อบังทรงของตนนั้นถูกหนูขโมยไป ดังนั้นนางจึงพลิกหาทุกซอกมุมของบ้าน แม้แต่กองฟืนก็ไม่เว้น
แต่นางหยูก็ต้องผิดหวัง ในกองฟืนนั้นไม่มีเสื้อบังทรงของนาง แม้แต่สายรัดเสื้อบังทรงก็ยังหาไม่เจอด้วยซ้ำ
นางหยูก็ใช่ว่าจะไม่กังวล เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว นางมั่นใจว่าต้องมีคนขโมยมาเสื้อบังทรงของตนไปแล้วแน่ ๆ
แต่คน ๆ นี้จะเป็นใครกันล่ะ?
นางหยูคิดไม่ออก สิ่งเดียวที่นางรู้ก็คือ ถ้าเรื่องนี้ถูกแม่เฒ่าตระกูลซูรู้เข้า ตัวเองจะต้องถูกหย่าแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น นางก็ไม่ต้องคิดจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว ไม่เพียงแค่นั้น หากมีแม่ที่มีชื่อเสียงไม่ดีอย่างนางแล้วล่ะก็ ต่อไปซูจื่อหังเองก็ไม่สามารถตั้งหลักอยู่ในหมู่บ้านต้าเย่ได้เหมือนกัน
นางหยูนั้นกลัวจริง ๆ หลังจากซูจื่อหังและถูซินเยว่จากไปแล้วนั้น นางก็เอาแต่นั่งอยู่ในลานบ้านคนเดียวอย่างกระสับกระส่าย
ในขณะนั้นเอง ซูฟาเสียงก็มาอีกแล้ว
"อาซ้อ ข้าเอาตะกร้าผักครั้งที่แล้วมาคืนน่ะ" ซูฟาเสียงเอาเสื้อบังทรงของนางหยูวางไว้ตรงอก เมื่อมองนางหยูที่นั่งอยู่ที่ลานบ้านแล้ว ดวงตาคู่นั้นของเขาก็คอยเอาแต่จ้องมองร่างของอีกฝ่ายตลอดเวลา ราวกับแทบอยากจะจ้องเสื้อผ้าของนางหยูให้ขาดเป็นรูอย่างไหนอย่างนั้น
"ฟาเสียง" นางหยูรีบลุกขึ้นมาแล้วถามอย่างใจลอยว่า "ท่านแม่ทานอาหารพวกนั้นหรือยัง? รู้สึกยังไงบ้าง?"
แม่เฒ่าตระกูลซูรู้สึกยังไงกับอาหารพวกนั้น เขาจะไปรู้ได้ยังไงกันเล่า


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...