"ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก ก็แค่บังเอิญ เดี๋ยวพอฮูหยินเฒ่าของเจ้าฟื้น ต่อไปเจ้าต้องไส่ใจดูแลนางให้มากหน่อยนะ ข้าเกรงว่าโรคลมบ้าหมูอาจจะกำเริบขึ้นได้อีกในอนาคต" ถูซินเยว่ไม่ได้บอกชื่อของเธอกับอีกฝ่าย แต่หันหลังแทรกตัวออกมาจากฝูงชนแล้วจากไปพร้อมกับซูจื่อหังทันทีที่พูดจบ
ซางเอ๋อร์มองตามหลังถูซินเยว่ไป แววความประหลาดใจปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง
และในตอนนี้เอง ฮูหยินเฒ่าก็ค่อย ๆ ลืมตาขี้นมามองไปที่ซางเอ๋อร์ซึ่งมีคราบน้ำตาติดเต็มหน้าแล้วเอ่ยถามอย่างอ่อนแรงว่า "นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?"
นางจำได้เพียงว่าตัวเองเดินมาถึงปากทางตลาดไม่ทันได้เข้าไปก็เป็นลมไปเสียก่อน
"ฮูหยินเฒ่า" ซางเอ๋อร์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทั้งหมดแล้วจบลงด้วยความว่า "โชคดีที่แม่นางใจดีคนนั้นช่วยฮูหยินเฒ่าไว้ มิเช่นนั้นข้าน้อยก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี"
"แม่นางใจดีหรือ?" ฮูหยินเฒ่าชะงักไป นางคิดตามไม่ทัน
ทางด้านนี้ ถูซินเยว่กับซูจื่อหังก็เดินเข้ามาในตลาดแล้ว เมื่อนึกขึ้นได้ว่าคราวก่อนที่มาตลาด ซูจื่อหังซื้อผ้าให้ตัวเองไปตัดเสื้อผ้าใหม่ คราวนี้ถูซินเยว่ก็อยากซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ซูจื่อหังสักชุดเหมือนกัน
หลังจากซื้อเมล็ดพันธุ์เสร็จ ถูซินเยว่ก็ลากซูจื่อหังเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้า
หลังจากเข้าไปเห็นเถ้าแก่เนี้ย ถูซินเยว่ก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจและตระหนักได้ว่านี่มันเถ้าแก่เนี้ยคนเดียวกับที่เคยหัวเราะเยาะเธอว่าเธออ้วน แถมยังพยายามอ่อยสามีของเธออีกไม่ใช่หรือไง?
พอนึกถึงความทรงจำที่ไม่ดี ถูซินเยว่ก็หมดอารมณ์ที่จะอยู่ต่อทันนี้ เธอรีบจูงมือซูจื่อหังเตรียมตัวออกจากร้าน แต่เถ้าแก่เนี้ยก็ดันเงยหน้าขึ้นมากระจกทองแดงเห็นพวกเขาเข้าพอดี
"นายท่าน สนใจจะซื้อสิ่งใดกัน?" เถ้าแก่เนี้ยรีบเดินออกมาจากหลังตู้เก็บเงินอย่างรวดเร็ว พอนางเห็นหน้าซูจื่อหังก็ตกใจจนอ้าปากค้างทันที นางใช้มือข้างหนึ่งชี้หน้าอีกฝ่ายพูดด้วยความประหลาดใจว่า "นี่... นี่มันพ่อหนุ่มรูปหล่อคนนั้นนี่นา"
พอได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น ถูซินเยว่ก็มุมปากกระตุกทันที
ลำบากเถ้าแก่เนี้ยจริง ๆ เลยนะ ผ่านไปนานขนาดนี้แล้วแต่อีกฝ่ายก็ยังจำซูจื่อหังได้อยู่อีก
ซูจื่อหังหน้าตาหล่อเหลาโดดเด่น ทั้งร่างกายสูงใหญ่ดูสมเป็นชายชาตรี เถ้าแก่เนี้ยที่เหงาโดดเดี่ยวมานานพอได้พบเจออีกฝ่ายจะให้ลืมลงได้ยังไงกันเล่า
เถ้าแก่เนี้ยมองสำรวจซูจื่อหังอยู่พักใหญ่พบว่าข้างกายอีกฝ่ายเปลี่ยนคนแล้ว ดวงตาของนางก็ฉายแววประหลาดใจแล้วเอ่ยถามด้วยความแปลกใจว่า "แปลกจัง เมียอ้วนอัปลักษณ์ของเจ้าไปไหนเสียแล้วล่ะ?"
ถูซินเยว่มุมปากกระตุกอีกครั้ง เถ้าแก่เนี้ยคนนี้พูดจาแบบนี้ได้ไง?
"ท่านพี่ เราไปกันเถอะ" เธอไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแม้แต่นาทีเดียว ถูซินเยว่ควงแขนซูจื่อหังเตรียมตัวจะออกไป แต่เถ้าแก่เนี้ยกลับหัวเราะทำปากมุบมิบว่า "ข้าก็คิดว่าอะไร ที่แท้ก็เปลี่ยนเมียใหม่นี่เอง"
เถ้าแก่เนี้ยคนนี้คราวก่อนก็อ่อยสามีเธอ แถมยังมาเหยียดหยามเธอเช่นนี้อีกตั้งสองหน ถูซินเยว่ขมวดคิ้วแล้วหันหลังกลับมาหาอีกฝ่ายอย่างกระทันหัน
เถ้าแก่เนี้ยคนนี้รูปร่างดีไม่น้อยเชียว อกเอวเป็นสัดส่วนชัดเจน หน้าตาท่าทางดูมีเสน่ห์ดึงดูด หรือจะพูดไม่น่าฟังหน่อยก็คือแรด!
หลังจากมองอีกฝ่ายอย่างพิจราณาอยู่พักหนึ่ง ถูซิยเยว่ก็กอดแขนซูจื่อหัง จากนั้นหรี่ตาพูดเรียบ ๆ ว่า "ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องผิดหวังนะ หญิงอ้วนอัปลักษณ์เมื่อคราวก่อนก็คือข้าเอง และตอนนี้ก็ยังเป็นข้าอยู่"
เมื่อนางพูดแบบนี้ เถ้าแก่เนี้ยถึงกับตะลึงเหมือนจะยังคิดไม่ทัน
แต่ซูจื่อหังกลับเปิดปากพูดว่า "ถ้าคราวหน้ายังได้ยินเจ้าพูดถึงถึงเมียข้าแบบนี้อีกล่ะก็ ข้าก็จะไม่เกรงใจเจ้าแล้วนะ"
"พวก... พวกเจ้า?!"
เถ้าแก่เนี้ยที่ยืนเท้าสะเอวพูดจาสอเสียดอยู่พอเห็นสองผัวเมียเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยแบบนี้ก็โกรธจนปากแทบเบี้ยว
ไม่ทันที่นางจะได้พูดอะไร ซูจื่อหังก็จูงมือถูซินเยว่พูดว่า "เมียจ๋า คราวก่อนเราไม่ได้ซื้อร้านนี้ คราวนี้ก็ไม่ซื้อเหมือนกัน"

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หญิงอ้วนทำนา กับสามีบนเขาจอมขี้แกล้ง
รออยู่นะคะ...
รอ.....,....
รอ.........
แอดจ๋า...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ น่าสนุกมาก😭😭😭...
กำลังสนุกเลย ช่วยมาเพิ่มตอนให้ทีนะคะแอดมิน...
สนุกดี ไม่อัพต่อแล้วหรอค่ะ...